หน้าแรก
สมาชิก
จรรยา แผนสมบูรณ์
สมุด
Mental Model
Mental Model
จรรยา แผนสมบูรณ์
Dr. จรรยา แผนสมบูรณ์ จรรยา แผนสมบูรณ์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
Mental Model
Mental Model
วินัยประการที่
2:
แบบแผนความคิดอ่าน
(Mental Models)
แบบแผนความคิดอ่าน
ได้แก่
ข้อตกลงเบื้องต้น
ความเชื่อพื้นฐาน
ข้อสรุปหรือภาพลักษณ์ที่ตกผลึกในความคิดอ่านของคนที่มีอิทธิพลต่อความรู้ความเข้าใจต่อสรรพสิ่งในโลก
มีผลต่อการประพฤติปฏิบัติ ต่อค่านิยม เจตคติที่เขามีต่อบุคคล
สรรพสิ่งและสถานการณ์ทั้งหลาย
หน้าที่ของวินัยประการที่
2
ก็เพื่อฝึกฝนให้เราได้เข้าใจ
แยกแยะระหว่างสิ่งที่เราเชื่อกับสิ่งที่เราปฏิบัติ
การสืบค้นความคิดความเชื่อของเรา
ทำให้เราท้าทายและปรับขยายขอบเขตและกระบวนการความคิดความเชื่อของเรา
เข้าใจมุมมองและการคิดของผู้อื่น
Senge
เน้นทักษะด้านความคิดความเชื่อผ่านทักษะการคิดใคร่ครวญ
(Reflection Skills)
เป็นการตรวจสอบว่าความคิดความเชื่อใดมีผลต่อการปฏิบัติการแสดงออกของเรา
ส่วนทักษะในการสืบค้น
(Inquiry Skills)
เป็นดัชนีบอกว่า เรามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์แบบพบปะกับผู้อื่นเช่นไร
เราเข้าไปแก้ไขกับประเด็นปัญหาที่ซับซ้อนเช่นไร ในการปฏิบัติงานของทุกอาชีพจำเป็นต้องใช้ทักษะทั้ง
2
ประการนี้อยู่เสมอ
ทำอย่างไรที่เราจะรักษาทักษะทั้ง
2
นี้ให้สมดุลผสมเข้ากับสิ่งที่เราเห็นดีเห็นงามและสนับสนุน
Senge
เชื่อว่าความคิดความเชื่อแบบแผนความคิดอ่านของแต่ละคนมีข้อบกพร่อง ดังนั้นต้องอาศัยวินัยที่
5
คือการคิดอย่างเป็นระบบ
เข้าไปร่วมทำงานด้วยซึ่งจะมีพลังเกิดผลดีสูงสุด
ผู้บริหารพึงผสานแบบแผนความคิดอ่านของตนเข้ากับการฝึกทักษะการคิดอย่างเป็นกลยุทธ์อย่างเป็นระบบที่เน้นภาพใหญ่
เน้นความเชื่อมโยงขององค์ประกอบย่อยให้ได้
ในการแก้ไขปัญหาในการปรับโครงสร้างองค์การ
ฝึกทักษะในการคิดใคร่ครวญ
การเปิดใจกว้างต่อสิ่งที่ท้าทาย
บางทีเราอาจจะหลงผิด คิดผิด เข้าใจผิดก็เป็นได้ หน้าที่ของเราคือ
พัฒนาแบบแผนความคิดอ่านของเราอยู่เป็นนิจ อย่างยืดหยุ่น
ทำให้เราปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์
แนวคิด แนวปฏิบัติของเราได้
เหมาะกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไป
Argyris (1991)
ได้ให้คำแนะนำภาคธุรกิจในการบริหารแบบแผนความคิดอ่านของตนไว้ย่อ ๆ ดังนี้
1.
พยายามออกแบบและเรียนรู้สภาพแวดล้อมของการทำงานอยู่เสมอเพื่อคาดคะเนและเตรียมรับมือกับปัจจัยของภาวะแวดล้อมที่จะมีอิทธิพลต่อธุรกิจของเรา
2.
ให้การยอมรับและชื่นชมผู้อื่นอยู่เสมอ
บอกผู้อื่นว่าท่านเชื่อถือยึดมั่นในอุดมการณ์ใดที่ทำให้เขาสบายใจ
ลดการบั่นทอนขวัญละกำลังใจ
เอื้ออาทรผู้อื่น
3.
อย่าท้าทายเหตุผลหรือการกระทำของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล
4.
ยืนหยัดในแนวทางของเรา
ยึดมั่นในหลักการ
คุณค่าและความเชื่อของเรา
5.
อย่าแบไต๋ความคิด แผนการ ความรู้สึกของท่านให้ผู้อื่นล่วงรู้หมดสิ้น
แบบแผนความคิดอ่านจึงมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ แบบแผนความคิดอ่านมีพลัง
มีอิทธิพลต่อการรับรู้
การตีความและต่อพฤติกรรมของเรา
ยิ่งเมื่อมีการแบ่งปันความคิดเห็น มุมมองระหว่างกันด้วยแล้ว
ยิ่งทำให้พลังของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้เกิดขึ้น
ซึ่งไม่น่าแปลกใจว่าหนทางแรกเริ่มของการสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ดี
ได้ผลและคุ้มค่าที่สุด
เริ่มจากการพบปะพูดคุยแบบไม่เป็นทางการระหว่างสมาชิกภายในองค์การนั่นเอง
นอกเหนือจากการฝึกทักษะในการคิดใคร่ครวญและทักษะในการสืบค้นให้เกิดเป็นนิสัยของบุคลากรในองค์การ
องค์การพึงเปิดเวทีที่สะท้อนถึงชุมชนของการปฏิบัติ
(community of practice)
ให้เกิดขึ้นในองค์การ
เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเรียนรู้ร่วมกัน
อาทิ
เครือข่ายการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ
การแลกเปลี่ยนความเห็น
การพบปะกันตามทางเดิน
การเล่าเรื่อง
การเล่าประสบการณ์
เทคนิคการจัดประชุม
แนวทางใหม่ ๆ ของการปฏิบัติงาน
การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน ดังนั้น องค์การเรียนรู้ได้ผ่านการปรับปรุงแบบแผนความคิดร่วมกัน
ผ่านเวทีการแลกเปลี่ยนที่
เขียนใน
GotoKnow
โดย
จรรยา แผนสมบูรณ์
ใน
Mental Model
คำสำคัญ (Tags):
#mental model
หมายเลขบันทึก: 111280
เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2007 15:19 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 09:59 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
จรรยา แผนสมบูรณ์
สมุด
Mental Model
Mental Model
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท