“ความไม่แน่นอน คือสิ่งที่แน่นอน” คำๆ นี้ยังใช้ได้เสมอ มันเป็นสัจจะธรรมของชีวิต ใครจะคิดล่ะ กรรมกรเข็นผักในตลาด จะกลายเป็นเศรษฐี แล้วใครจะคิดอีกล่ะ คนที่มีอำนาจ มีเงินล้นฟ้า จะต้องพลัดถิ่นไปถึงแดนไกล และยังไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ แล้วยังไม่รู้ว่า ทรัพย์สินที่มีอยู่มหาศาล จนหลายๆ คน เคยคิดว่า ตายแล้วเกิดใหม่ สิบชาติยังใช้ไม่หมด ทรัพย์สินเหล่านั้น อาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้ก็ได้
ถ้าชีวิตนี่คือละคร เขาคนนั้นคงจะบอกผู้กำกับว่า เขาไม่อยากเห็นตอนจบแบบนี้ ตอนจบที่เขาอาจจะไม่เหลืออะไรเลย นี่ก็เป็นอีกบทหนึ่งของชีวิตในเรื่องความไม่แน่นอน อำนาจกับเงินตรา มันก็เหมือนยาเสพติดสำหรับบางคนที่ไม่รู้จักพอ พอได้ลองเสพเข้าไป ก็เกิดความลุ่มหลง จนลืมความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่มีอะไร ที่จีรัง ยั่งยืน กว่าจะรู้ตัวอีกที มันก็สายไปแล้ว อยากจะฝากเรื่องนี้ ไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับบางคน ที่มีอำนาจ แล้วใช้อำนาจในทางไม่ถูกไม่ควร
แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ การทำความดี ในช่วงหนึ่งของชีวิตที่มีโอกาสได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ทำไมไม่รีบทำความดีกัน เพราะชีวิตของคนเรามันสั้น ไม่มีใครรู้หรอก ว่าร่างของเราจะดับสูญเมื่อไหร่ เราเคยอ่านหนังสือธรรมะ เล่มหนึ่ง ท่านเขียนเอาไว้ดีมากเลย ผมยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ ท่านสอนไว้ว่า “เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายทั้งที ฝากดีเอาไว้” เป็นประโยคที่ผมชอบมากๆ แล้วก็พยายามปฏิบัติเรื่อยมา แล้วท่านทั้งหลาย เตรียมฝากความดีเอาไว้บ้างหรือยัง
อิสรภาพคำง่ายๆแต่ไม่ง่ายที่จะได้มา
ขอบคุณค่ะ