หน้าแรก
สมาชิก
ห้องสมุดกรมบัญชีก...
สมุด
สรุปข่าวประจำวันข...
ได้เวลาลงมือ... เ...
ห้องสมุดกรมบัญชีกลาง CGD Library
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ได้เวลาลงมือ... เร่งเครื่องเศรษฐกิจให้เดินหน้า
ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า ขณะนี้ภาคเศรษฐกิจตกอยู่ในห้วงของ
"
การคาดหวัง" โดยเฉพาะคาดหวังที่จะได้เห็นเศรษฐกิจดีขึ้นในระยะต่อ ๆ ไป และจำได้หรือไม่ว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว เราหลายคนก็หวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นในต้นปี
2550
แต่พอสถานการณ์การเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน มีอันต้องปั่นป่วน จนถึงวันนี้
ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหาทางลงเจอ ได้ฉุดรั้งเครื่องยนต์ ทั้งการลงทุนและการบริโภคเอกชน ให้ดำดิ่งลงในช่วงต้นปี
ในที่สุดระบบก็เริ่มกระบวนการคาดหวังอีกครั้งว่า ครึ่งหลังปีนี้บรรยากาศการเมืองจะผ่อนคลาย ความเชื่อมั่นจะ
กลับมาและเศรษฐกิจไทยจะเริ่มโงหัวขึ้นได้อีกครั้ง
"
ประชาชาติธุรกิจ" ฉบับนี้ จึงรวบรวมและนำเสนอความเห็นของ "หมอดูเศรษฐกิจ" หรือนักเศรษฐศาสตร์บางส่วน ที่ได้วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจครึ่งปีหลังและแนวโน้ม
เริ่มที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. ระบุว่า เศรษฐกิจไทย
มีสัญญาณดีขึ้น แต่ยังต้องรอการคลี่คลายทางการเมืองในช่วงสิ้นปี และรอแรงส่งจากการใช้จ่ายที่แผ่วลงมาก
ในช่วงต้นปี ซึ่งหากการใช้จ่ายฟื้นกลับมา เศรษฐกิจจะเข้าสู่วัฏจักรใหม่และเดินหน้าใหม่อีกครั้ง พร้อมกันนั้น หากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายยังจะเอื้อต่อบรรยากาศการลงทุน เพราะที่ผ่านมาแม้สถานการณ์ไม่นิ่ง
ยังมีนักธุรกิจบางกลุ่มเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจว่าจะเติบโตได้ในอนาคตหลัง
การเมือง
เรียบร้อย โดยเชื่อว่าการใช้จ่ายและการลงทุนจะฟื้นตัวได้ทัน เพื่อเข้ามาเสริมการส่งออกที่อาจจะชะลอลง
ในระยะ
ต่อไป หลังจากขยายตัวมากในช่วงที่ผ่านมา
"
มุมมอง ธปท.ยังเหมือนเดิม เศรษฐกิจขยายตัวได้ในกรอบ
3.8-4.8%
ซึ่งไม่ใช่ระดับเลวร้ายในสถานการณ์การเมืองที่เป็นอยู่ โดยครึ่งปีหลังจะมีความพร้อมมากขึ้น เงิน
เฟ้อ ก็
ไม่เป็นปัญหา ดอกเบี้ยก็ลงมาแล้วหลายครั้งและสถาบันการเงินตอบสนองค่อนข้างเร็ว การใช้จ่ายภาครัฐก็เร็ว
และชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวสร้างความมั่นใจ และผลของนโยบายต่าง ๆ จะเห็นในครึ่งปีหลัง สถานการณ์ ทาง
การเมืองก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องมีความชัดเจน ทุกคนอยากให้สถานการณ์เรียบร้อยจะได้เดินหน้ากันต่อ"
นางธาริษากล่าวว่า แม้คาดว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะดีขึ้น คงไม่ใช่ประเด็นที่ว่าจะปิดโอกาสในการลด
ดอกเบี้ยนโยบายลงอีก จากขณะนี้ลดไปแล้ว
1.50%
เหลือ
3.50%
เพระการทำนโยบาย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะดูประเด็นการเติบโตของเศรษฐกิจ ว่า ณ เวลาประชุมเป็นอย่างไร จากนั้นค่อยลงความเห็นว่า
ควรคงหรือลงดอกเบี้ยต่อ แต่หากมองขณะนี้เงินเฟ้อก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ก็ต้องระมัดระวังเพราะราคาน้ำมันอาจ
ปรับตัว
สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้น้ำมันขาดตลาด
"
ทิศทางดอกเบี้ยตอนนี้ค่อนข้างผันผวน
คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ กนง. จะต้องดูทั้งการเติบโตและเงินเฟ้อประกอบกัน ถ้าเงินเฟ้อไม่มีปัญหาและเศรษฐกิจต้องการกระตุ้นดอกเบี้ยก็ลงได้อีก แต่ถ้าเศรษฐกิจนิ่งและเงินเฟ้อสูงขึ้น กนง. ก็คงต้องหยุดและรอทิศทางเศรษฐกิจ โดยรวมแล้วตอนนี้ดอกเบี้ยคงไม่ขึ้น แต่ลงหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อมูลการลงทุน" นางธาริษากล่าว
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยระยะต่อไปยังมีเสถียรภาพ ปีนี้คงขยายตัวได้
4-4.5%
โดยการส่งออกยังเป็นตัวขับเคลื่อน
หลักเติบโต
12.4%
ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐเร่งตัวขึ้น โดยเดือน พ.ค.รัฐบาลเบิกจ่ายไปแล้ว
51.74%
และรัฐวิสาหกิจเบิกจ่าย
67.7% (
ณ สิ้น มี.ค.) ของงบฯ ลงทุนปี
2550
"
การนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นในเดือน เม.ย. ที่ขยายตัว
11.2%
โดยเป็นการนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้น
8.6%
เป็นสัญญาณของความต้องการสินค้าทุนที่จะเริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของเอกชนในไตรมาสที่
2/2550
และช่วงที่เหลือของปี"
นายอำพนกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี
2550
ให้ได้ตามเป้า
93%
และรัฐวิสาหกิจ
85%
ติดตามโครงการกระจายเม็ดเงินสู่พื้นที่ระดับหมู่บ้าน
จัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณปี
2551
ให้ได้ตามกำหนด และทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น
1.65
แสนล้านบาท ตลอดจน การเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคการลงทุน อุตสาหกรรม ด้วยการสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจการเมือง
โดยเฉพาะการยกร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามกำหนด
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์ลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า คาดว่า
ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว
3.8-4.5%
โดยมีแรงหนุนจากการส่งออก และการเบิกจ่ายงบฯลงทุนของภาครัฐ
ที่จะ
เร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งต้องจับตาดูว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันการใช้จ่ายที่เหลือออกไปได้มากเพียงใด
พร้อมกันนั้น ยังคาดหวังจะได้เห็นบรรยากาศเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่
2
เป็นต้นไป โดยเฉพาะหากมีการเลือกตั้งได้ตามกำหนด ชัดเจนว่าพรรคใดจะเข้ามาบริหารประเทศ และมีนโยบายเศรษฐกิจอย่างไร
อย่างไรก็ตาม
ครึ่งปีหลังของปียังมีประเด็นสำคัญที่อาจเข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจไทย คือ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-
ญี่ปุ่น (
JTEPA)
ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.ย.
2550
ซึ่งข้อตกลงนี้จะมีผลต่อภาษีนำเข้าและโควตาพิเศษของ
ญี่ปุ่น ที่มีทั้งผลบวกและลบ กล่าวคือ ไทยอาจได้ประโยชน์ด้านการขยายตลาดส่งออกและได้ลดภาษีนำเข้า
แต่
ขณะเดียวกัน การเข้ามาของญี่ปุ่นจะส่งผลด้านลบต่อบางอุตสาหกรรม เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักร และ
ประเด็นถูกสหรัฐลดระดับการคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญา สู่บัญชีจับตาเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นประเทศเดียว
ใน
อาเซียนที่อยู่ในระดับนี้ จนอาจเป็นผลให้ความน่าสนใจลงทุนในไทยลดลง
นายภากร ปีตธวัชชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริหารการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้ม
ค่าเงินบาทในครึ่งปีหลังยังแข็งค่าขึ้นได้อีก จากปัจจัยสนับสนุนเรื่องการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ปีนี้คาดว่า
จะ
เกินดุลเพิ่มขึ้นเป็น
8
พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อน
3.2
พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้
4-4.5%
และปรับตัวดีขึ้นเป็น
5.5%
ในปี
2551
โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การเมืองที่ดีขึ้น มีการเลือกตั้งที่อย่างช้าต้นปีหน้า การบริโภคและการลงทุนเริ่มฟื้นตัว อัตราดอกเบี้ยมีโอกาสลดลงได้อีก ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล
10.1
พันล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่ไม่เท่าปีที่ผ่านมา ดังกล่าวคือ คำทำนายและความคาดหวังจาก
หลายสำนัก แต่ในความเป็นจริงเศรษฐกิจจะดีขึ้นได้หรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครคิดหรือหวังว่าจะเป็นอย่างไร แต่ขึ้นอยู่
กับว่าคนที่มีบทบาทในระบบ ตั้งใจและลงมือขับเคลื่อนจริงใจเพียงใด
ประชาชาติธุรกิจ 21 มิ.ย. 50
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ห้องสมุดกรมบัญชีกลาง CGD Library
ใน
สรุปข่าวประจำวันของห้องสมุดกรมบัญชีกลาง
คำสำคัญ (Tags):
#ภาวะเศรษฐกิจ
หมายเลขบันทึก: 105089
เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน 2007 11:12 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:08 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ห้องสมุดกรมบัญชีก...
สมุด
สรุปข่าวประจำวันข...
ได้เวลาลงมือ... เ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท