กรณีศึกษา : ขู่กรรโชกทางอีเมล์ และถูกจับได้


กรณีศึกษาอาชญากรรมผ่านไอที เป็นเรื่องของฝรั่งที่ขู่กันโชกเงินจากห้างเทสโก้ โลตัส สำนักงานใหญ่ในอังกฤษ โดยขู่จะวางยาพิษในอาหารของห้าง เรียกเงิน 140 ล้านทางอีเมล์ แต่ไม่พ้นฝีมือตำรวจไทย

กรณีศึกษาอาชญากรรมผ่านไอที  เป็นเรื่องของฝรั่งที่ขู่กันโชกเงินจากห้างเทสโก้ โลตัส สำนักงานใหญ่ในอังกฤษ  โดยขู่จะวางยาพิษในอาหารของห้าง เรียกเงิน 140 ล้านทางอีเมล์  แต่ไม่พ้นฝีมือตำรวจไทยที่เกาะรอยทางไอพี (IP : Internet Protocol)  จะพบว่าผู้กรรโชกใช้อีเมล์จากร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่ง   บทเรียนนี้สรุปว่าอาชญากรรมผ่านระบบไอทีไม่ควรทำเพราะดักจับง่าย  หรือจะสรุปว่าการกรรโชกทรัพย์ด้วยระบบไอทีไม่ควรทำเพราะอาจตามเจอได้

แต่ที่จริงกรณีศึกษานี้ต้องการอธิบายว่า การติดตามหรือตามรอยของผู้คนที่ใช้ระบบไอทีสามารถกระทำได้ไม่ยาก  เพราะเครื่องแม่ข่ายและลูกข่ายทุกแห่งจะมีไอพีไม่เหมือนกัน  สามารถตรวจสอบได้โดยผู้ดูแลระบบเครือข่าย   ไม่ได้ต้องการให้ระวังตำรวจจับถ้าจะเป็นโจร !!!

อ่านรายละเอียดด้านล่าง 

 

ข่าวสด  วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6036

รับแล้วขู่โลตัสฝรั่งมืออีเมล์!

แฉกรรโชก-6ครั้งยันเมียไทยไม่เกี่ยว

ขู่โลตัส - กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะนายอเล็กซานเดอร์ เข้าไปใช้บริการร้านเน็ตในซอยนานา 4 ส่งอีเมล์ข่มขู่เรียกเงิน 140 ล้านบาทจากห้างโลตัส โดยมีภรรยาสาวคนไทยนั่งอยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งตำรวจใช้เป็นหลักฐานแกะรอยจับกุม ตามข่าว

 ฝรั่งมืออีเมล์กรรโชก 140 ล้านห้างโลตัส สารภาพต้องการเงินมาลงทุนทำธุรกิจในเมืองไทย อ้างทำคนเดียวเมียคนไทยไม่เกี่ยว ตำรวจเผยขั้นตอนสืบจับใช้วิธีแกะรอยจากไอพีเครื่องคอมพ์ร้านเน็ต พร้อมเปิดหลักฐานเด็ดภาพวงจรปิด เมื่อคนร้ายเข้าไปใช้ซ้ำจึงโดนรวบตัวทันควัน แฉหลักฐานส่งข่มขู่ถึง 6 ฉบับ จากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ 5 แห่ง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ที่กองปราบปราม พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย พ.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผบก.ป. พ.ต.อ.ชัยทัต บุญขำ ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.จักรกฤช เอี่ยมแจ้งพันธ์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายอเล็กซานเดอร์ จอห์น วินสโตน (MR.ALEXANDER JOHN WINSTONE) หรืออเล็กซ์ อายุ 36 ปี สัญชาติอังกฤษ

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ 826/2550 ลงวันที่ 8 มิ.ย.2550 ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ โดยส่งอีเมล์ข่มขู่ผู้บริหารระดับสูงบริษัทเทสโก้ โลตัส สำนักงานในประเทศอังกฤษ ว่าจะวางสารพิษในอาหารของทางห้างตามสาขาต่างๆ ทั่วโลก หากไม่ยอมจ่ายเงินให้ 2 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 140 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่สเตชั่น ซอยสุขุมวิท 4 แขวงและเขตคลองเตย เมื่อคืนวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจกองปราบปรามได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด ประเทศสหราชอาณาจักร ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่เขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล์ มีข้อความข่มขู่ผู้บริหารบริษัทเทสโก้ โลตัส สำนักงานใหญ่ในประเทศอังกฤษ เรียกเงินจำนวน 2 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 140 ล้านบาท หากบริษัทไม่ยอมจ่ายเงินให้จะก่อเหตุวางสารพิษปนเปื้อนในอาหารที่วางจำหน่ายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาใดสาขาหนึ่ง และจะส่งอีเมล์แจ้งไปยังสื่อมวลชนในประเทศอังกฤษ โดยคนร้ายแจ้งให้ทางบริษัทเปิดบัญชีธนาคารที่ไม่มีข้อตกลงในเรื่องการตรวจสอบที่มาของเงินและอายัดเงินในบัญชี พร้อมทั้งแจ้งให้บอกรหัสการถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวเพื่อความสะดวกในการเบิกเงิน

หลังรับแจ้งพ.ต.อ.พงศ์พัฒน์สั่งการให้พ.ต.ท.จักรกฤช พ.ต.ท.ธีระ ทองระยับ สว.กก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ สว.กก.2 บก.ป. ประสานงานกับตำรวจกองการต่างประเทศ และกองตำรวจสื่อสาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด ตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานจากอีเมล์ที่คนร้ายส่งมาข่มขู่ มีด้วยกันถึง 6 ฉบับ แต่ละฉบับส่งมาจากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ 5 แห่งภายในซอยสุขุมวิท 4 หรือซอยนานา จึงไปขอตรวจสอบภาพลูกค้าจากกล้องวิดีโอวงจรปิดภายในร้านจนได้ภาพผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติมาหนึ่งราย ที่เข้ามาใช้บริการในช่วงเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่ปรากฏในอีเมล์

เมื่อได้ข้อมูลภาพผู้ต้องสงสัยมาแล้วชุดสืบสวนกองปราบปราม กองการต่างประเทศ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดวางกำลังดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่หลายแห่งภายในซอยนานา เพื่อเตรียมความพร้อมหากมีการตรวจสอบหาที่มากรณีที่คนร้ายเข้าไปใช้บริการอินเตอร์เน็ตเพื่อส่งอีเมล์ กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย สว.สส.สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ได้รับแจ้งจากพ.ต.ท.อัษฎางค์ ม่วงศรี สว.กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าคนร้ายได้ส่งอีเมล์ข่มขู่อีกครั้งซึ่งครั้งนี้เป็นฉบับที่ 7 จึงรีบตรวจสอบหาร้านที่คนร้ายเข้าไปใช้บริการพบว่าเป็นการส่งอีเมล์มาจากร้าน "อินเตอร์เน็ต สเตชั่น" เป็นของบริษัท ทิกเก็ต แพลนเนอร์ จำกัด เลขที่ 20/12 สุขุมวิท ซ.4 แขวงและเขตคลองเตย กทม.

เมื่อไปถึงพบผู้ต้องสงสัยกำลังเดินออกจากร้าน โดยมีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพผู้ต้องสงสัยในกล้องวงจรปิดของทางร้านที่เคยนำมาตรวจสอบก่อนหน้านี้ เดินอยู่กับนางสงกรานต์ วินสโตน ภรรยาชาวไทย จึงเชิญตัวมาซักถาม จนในที่สุดยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ส่งอีเมล์ไปขู่บริษัทเทสโก้ โลตัส จากนั้นได้ขยายผลไปตรวจค้นห้องพักเลขที่ 2605 ชั้น 26 ออมนิทาวเวอร์ ซ.สุขุมวิท 4 แขวงและเขตคลองเตย ของนายอเล็กซ์ซานเดอร์ แต่ไม่พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมแต่อย่างใด

พล.ต.อ.อิสระพันธ์กล่าวว่า คดีนี้มีการข่มขู่เรียกเงินเป็นมูลค่าสูงมากและเป็นคดีใหญ่ในประเทศอังกฤษ ทางตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดมีข้อมูลอยู่พอประมาณ ก่อนประสานให้ตำรวจไทยร่วมสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าลงมือส่งอีเมล์ขู่กรรโชกทรัพย์บริษัทเทสโก้ โลตัสจริง เป็นความคิดของตนเองและกระทำโดยลำพังไม่ได้มีผู้ร่วมก่อเหตุแต่อย่างใด

พล.ต.อ.อิสระพันธ์กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังรู้สึกสำนึกในความผิด ยินดีจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกอย่าง ส่วนประวัติของผู้ต้องหารายนี้นั้นเคยมีอาชีพขับรถรับจ้าง ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และมีภรรยาเป็นชาวไทย ทั้งนี้การส่งอีเมล์ไปข่มขู่ผู้อื่นนั้นเป็นความผิดฐานพยายามกรรโชกทรัพย์ซึ่งเป็นความผิดอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี อย่างไรก็ตามในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าประเทศไทยจะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความผิดทางอิเล็กทรอนิกส์ออกมาบังคับใช้ซึ่งจะมีโทษหนักกว่านี้

ด้านพ.ต.อ.ทศเทพ นิวาศบุตร รองผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส กทม. กล่าวว่า การกระทำของผู้ต้องหาถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นกับทางห้างเทสโก้ โลตัส เป็นอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งทางห้างเทสโก้ โลตัสเตรียมประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตรวจสอบกรณีดังกล่าว และต้องขอขอบคุณทั้งตำรวจไทยและตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด ที่ช่วยสืบสวนติดตามผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็ว

ทางด้านนายแอนดี้ เพียร์ซ (ANDY PEARCE) อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า คดีนี้คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายไทย ส่วนจะมีการส่งตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ประเทศอังกฤษหรือไม่นั้นเป็นเรื่องอนาคตที่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้นายอเล็กซานเดอร์กล่าวขอโทษชาวไทยทุกคนด้วยว่า อยากขออภัยอย่างสูงในสิ่งที่ตนได้ทำลงไปในประเทศไทย ตอนแรกคิดว่าเรื่องที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาใหญ่โตขนาดนี้ และไม่เคยคิดจะทำร้ายหรือทำอันตรายใครทั้งสิ้น ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตนทำเพียงคนเดียวไม่มีผู้ใดร่วมกระทำผิด

สำหรับนายอเล็กซานเดอร์นั้นเป็นชาวเมืองเร็กตัน จังหวัดเบดส์ จบการศึกษาระดับมัธยมเกรด 8 เดินทางเข้าประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.47 หลังจากนั้นได้เข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง ล่าสุดเข้าประเทศเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยพักอาศัยอยู่ห้องพักเลขที่ 2605 ชั้น 26 ออมนิทาวเวอร์ ซ.สุขุมวิท 4 แขวงและเขตคลองเตย และมีโครงการจะเปิดร้านอินเตอร์เน็ตภายในซอยไผ่สิงโต ใกล้กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ส่วนสาเหตุที่นายอเล็กซานเดอร์ส่งอีเมล์ข่มขู่เรียกเงินจากห้างเทสโก้ โลตัส เพื่อต้องการเงินมาลงทุนทำธุรกิจในไทย ส่วนเรื่องการวางสารพิษที่ระบุไว้ในอีเมล์นั้นเป็นเพียงแค่การขู่เท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะก่อเหตุร้ายใดๆ ทั้งสิ้น

หน้า 1

 

หมายเลขบันทึก: 102102เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2007 16:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 15:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
สมศักดิ์ จังตระกุล

เป็นอุทาหรณ์สำหรับพวกคิดเป็นโจhi-tech โดยเฉพาะเด็กๆในเมืองไทยที่คิดว่าเทคโนโลยีคือพระเจ้าที่ไม่มีใครติดตามเขาได้  สำหรับนายคนนี้ที่ถูกจับก็แสดงให้เห็นว่าสะพร่าและคิดง่ายเกินไปในการทำอาชญากรรม คือ เป็นมือสมัครเล่น  ก็ขอให้ไปรับโทษตามที่ตนเองได้ก่อเถอะนะ

นับเป็นภัยอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งมาถึงเร็วไว เพราะระบบอิเล็คทรอนิกส์ ซึ่งสะดวกมากในการทำความผิด จนไม่สามารถป้องกันแก้ไขได้ จนทำให้สังคมต้องถูกคุกคามจากสื่อภัยรูปแบบใหม่

การขู่กรรโชกทางอีเมล์มีหลักฐานชัดเจน รอดยากแต่ที่ทำให้ง่ายแก่การจับกุมคือกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพขณะคนร้ายเข้าไปใช้บริการในร้านเน็ต ปัญหาที่คนร้ายใช้ระบบ ITทำผิดกฎหมายมีมาก ทำไมเราไม่เอาประโยชน์ของ IT ซึ่งมีอยู่มากมายมาป้องกันหรือตรวจสอบไม่ให้เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นยากบ้าง เช่นการพัฒนากล้องวงจรปิดให้ทันสมัยยี่งขึ้นควรติดตั้งตามร้านที่เสี่ยงต่อการก่อเหตุ แม้กระทั่งตามถนนหนทางก็ควรจะติดตั้งให้มากกว่านี้

สุภาณี แก้วธำรงค์ 495013

E -mail เป็นการสื่อสารที่รวดเร็ว และถ้าไม่ติดกล้องก็ไม่รู้หน้าตาของคนที่ส่งข้อความ การตรวจสอบก็ตรวจสอบได้แค่ว่ามาจากเครื่องไหน ถ้าร้านคอมพิวเตอร์ไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด หรือคนร้ายมาที่ร้านเดิมหลายครั้ง ตำรวจก็คงจับตัวคนร้ายได้ยาก ..สรุปว่าคนร้ายโลภมากและไม่รอบคอบเลย วางแผนไม่ดี..... หนังสือพิมพ์ลงข่าวละเอียดแบบนี้ชี้โพรงให้กระรอกหรือเปล่า?? ....

จะว่าไปแล้วข้อมูลจากE-mail ผู้รับคงต้องอย่าลืมคำนึงถึงข้อเสียของE-mailด้วยนะคะ

                                              สุภาณี 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท