อ่านหนังสือธรรมะเล่มเล็กเรื่อง "ความสุขอันประณีตของมนุษย์" ของ พระเทพโสภณ ท่านเจ้าคุณประยูร ธมมจิตโต ในบท "คนมีความสุข" แล้วรู้ว่าความสุขหาได้ไม่ยากเลย
ท่านเขียนถึงคนขับแท็กซี่ที่บอกว่าเขาดับทุกข์ได้จากการขับแท็กซี่ เขาเคยเป็นคนขับรถที่กระทรวงแห่งหนึ่งแต่ไม่ชอบระบบราชการที่เล่นพรรคเล่นพวกกัน จึงลาออกไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
คราวนี้ไม่ใช่เรื่องเส้นสาย แต่ประสบการณ์ในมหาวิทยาลัยนั้นสอนเขาว่า คนเรียนมากฉลาดมาก กลับทุกข์มากขึ้น อาจารย์ทุกข์คนเดียวไม่พอ ยังพลอยให้นิสิตนักศึกษาทุกข์ไปด้วย เขาบอกให้อาจารย์สอนนักศึกษาใหม่ว่า ในพยัญชนะไทยสี่สิบสี่ตัวนั้น ตัวไหนเป็นตัวดี ตัวไหนเป็นตัวชั่ว แต่อาจารย์ไม่เชื่อบอกกว่าตัวหนังสือไม่มีดีชั่ว มีแต่ตัวกลาง ๆ เขาเลยลาออก
เขาบอกว่า"ตัวชั่วมี 3 ตัวคือ ล ก ล ตัวดีมี 3 ตัวคือ พ ห ช" ล ก ล = โลภ โกรธ หลง อ่านถึงตรงนี้ท่านทราบหรือยังคะว่า พ ห ช คืออะไร
พ = รู้จักพอ เขาเล่าว่าเพื่อนคนขับแท็กซี่ทุกข์เพราะค่าเช่าแพง รายได้น้อย แต่เขาไม่ทุกข์ เพราะรู้จักพอ
ห = รู้จักให้ ถ้าผู้โดยสารต่อราคาค่ารถเขาก็ลดลงให้บ้าง ให้ไปส่งต่ออีกนิดก็ไปให้ เขาถือว่าเขาให้บริการแก่ผู้โดยสาร ผู้โดยสารก็ให้ค่าโดยสารแก่เขา
สุดท้าย ช = ช่างเถอะ ขณะที่เขาสนทนาธรรมนั้น รถติดไฟแดง พอไฟเขียวขึ้นเขาไม่ได้ออกรถทันทีเพราะเพลินอยู่ รถคันหลังบีบแตรไล่ เขารู้สึกไม่พอใจว่าไม่รู้จะรีบไป...ที่ไหนก็จริง แต่สุดท้ายเขาหยุดความไม่พอใจด้วย ช. ช้าง
ท่านพระเทพโสภณได้สรุปไว้ว่า คน ๆ นี้มีธรรมประจำใจ ไม่ต้องท่องบาลีเขาก็ใช้ได้ทันที รู้จักพอ คือสันโดษ รู้จักให้ คือให้ทาน รู้จักช่างเถอะ ปล่อยวาง คือจาคะ สละสิ่งที่ไม่ดีจากจิตใจ ไม่เก็บงำ และเขาใช้เป็นประจำ ถูกสถานการณ์ เรียกว่า ธัมมานุธัมมปฏิบัติ คือ เลือกธรรมข้อย่อยมาใช้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่เราต้องการ
อ่านแล้วดิฉันเลยได้คำขวัญเพื่อสร้างสุขประจำใจเพิ่มมาอีกว่า "พอใจ มีให้ ใช้ช้าง" ค่ะ
DAENG...;D
เท่าที่ความเข้าใจในหลัก "เศรษฐกิจพอเพียง" น่าจะเข้ากันได้ค่ะ
สำหรับตัวเองส่วนใหญ่ต้องใช้ "พ" ให้ผ่านก่อนค่ะ คือ พอใจ ควบคุมให้เข้มงวด ถ้าไม่พอใจทีไร หมดกันแทบทุกเรื่อง ไม่เงินหมด ก็หมดแรง หมดอารมณ์ไปเลย