ขณะที่คนหลายคนกำลังมีความสุขสนุกสนานกลับมีคนอีกหลายคนมีแนวโน้มจะซึมเศร้าในฤดูหนาว (seasonal affective disorder / SAD, winter blue, seasonal depression)
ประชากรสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะซึมเศร้าในฤดูหนาวประมาณ 10-20 % ผู้หญิงมีอาการนี้มากกว่าผู้ชายในอัตราส่วน 3 ต่อ 1
เกือบทั้งหมดมีอาการไม่มาก อาการมักจะทุเลาหรือหายไปได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่มีบางคนเป็นมากถึงกับฆ่าตัวตายได้
สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากฤดูหนาวมีช่วงเวลากลางวันลดลง เมื่อร่างกายได้รับแสงน้อยลงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในวงจรหลับ-ตื่น (sleep-wake cycle) และมีการหลั่งฮอร์โมนแห่งการหลับ หรือเมลาโทนินลดลง
ดร.ดักลาส ยาคอปส์ ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชแห่งฮาร์วาร์ดเมดิคอลสกูลแนะนำว่า คนที่มีอาการดังกล่าวควรหาโอกาสนั่งใกล้หน้าต่างให้มากขึ้น หรือออกไปรับแสงแดดให้มากขึ้น
ผู้เขียนขอแนะนำว่า คำแนะนำนี้น่าจะดีกับประเทศเขตหนาว หรือเขตอบอุ่น แต่น่าจะไม่เหมาะกับเขตร้อนเช่นประเทศไทย
เนื่องจากมีส่วนทำให้ได้รับรังสียูวีมากเกิน ผิวหนังจะเสื่อมเร็ว เสี่ยงมะเร็งผิวหนังและเสี่ยงต้อกระจก
อาจารย์ยาคอบส์แนะนำให้ไปอยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมากขึ้น เช่น ไปอยู่ในห้องที่มีแสงสว่างมากหน่อย ฯลฯ
ตัวอย่างได้แก่ ห้องที่ติดหลอดฟลูออเรสเซนต์หรือนีออนเพิ่มขึ้น ถ้าอาการมากอาจจะต้องรักษาด้วยการให้ไปอยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมาก (light therapy) ให้ยาต้านอาการซึมเศร้า ซึ่งส่วนใหญ่ได้ผลดีมากทีเดียว
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีจิตใจสดชื่น แจ่มใสไปนานๆ ครับ
แหล่งที่มา:ไม่มีความเห็น