อนุทิน 18964


กวิน
เขียนเมื่อ

ทฤษฎีของ Mc Gregor และ ทฤษฎีของพระพุทธเจ้า @  203025

หากเราคิดแต่แง่บวก เช่นว่า ฉันเป็นคนเก่ง ฉันเป็นคนดี โดยที่เรามิได้เป็นเช่นนั้น ก็เท่ากับว่าเราหลอกตัวเอง หรือการคิดว่า ฉันเป็นคนไม่เก่ง ฉันเป็นคนไม่ดี การคิดเช่นนี้ก็เท่ากับการทำร้ายจิตใจตนเองเช่นเดียวกัน

คนทุกคนย่อมมี ด้านดี และด้านเลว (darkside) คนเราเมื่อมองโลกในแง่ดี ก็ย่อมที่จะเห็นแต่ความดี และอาจหลงในความดี นั้นอย่างหัวปักหัวปำ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีคนมาทำดีกับเรา เราก็มองว่าเขาช่างเป็นคนดีซะเหลือเกิน หรือใครที่ทำเลวกับเรา เราก็ย่อมมองว่า มันช่างเลวซะเหลือเกิน

เมื่อใดก็ตามที่เรามองคนเพียงแค่ด้านดี หรือด้านเลว เพียงด้านเดียว เช่นนี้แล้ว ย่อมไม่เห็นความจริงครบทั้งสองด้าน ส่งผลให้เกิด อคติ คือความลำเอียงเกิดขึ้นในใจได้ ฉะนั้นโบราณท่านจึง สอนว่า ให้รู้จัก ยับยั้ง ชั่งใจ นั่นคือการมองสิ่งต่างๆ ให้เห็นครบ ทั้งด้านที่ดี และด้านที่เลว  แล้วนำมาชั่งน้ำหนักดู โดยใช้ใจของเราเป็นตาชั่ง

เช่นเดียวกันกับในยาม ที่เรามองดูตัวเราเอง/คิด/พูด/ กับตัวเอง หรือแม้กระทั่งจะตัดสินใจ กระทำ หรือไม่กระทำ สิ่งใดๆ ก็ตาม เราก็ควรที่จะรูจัก ยับยั้ง ชั่งใจ  เสียก่อน นั่นคือ มองให้เห็น ทั้งในแง่บวก แง่ลบ ด้านดี ด้านเลว ที่จะบังเกิดขึ้น แล้วจึงตัดสินใจกระทำ หรือไม่กระทำ สิ่งต่างๆ  เมื่อเรา  ยับยั้ง ชั่งใจ  และใคร่ครวญจนครบถ้วนดีแล้ว ความพลาดผิด ที่ยังมิบังเกิด ย่อมระงับดับไป ความพลาดผิดที่บังเกิดขึ้นแล้ว ย่อมทุเลาเบาบางลง เช่นนี้แล้ว ประโยชน์โภชนผล ย่อมมีกับคน ผู้รู้จัก มองโลก ทั้งในแง่ดี และร้าย (คิดบวก คิดลบ)  แล้วนำมา ยับยั้ง ชั่งใจ ด้วยประการฉะนี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท