การหนุนของ 5 ครอบครัวหลัก และเป็นอันตรายต่อประยุทธ์ ตอนที่ 5
ธนาคารการลงทุนชื่อ Credit Suisse อ้างถึงรายงานความร่ำรวยของโลก ที่เปิดเผยในปี 2018 ว่าประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่เหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก รายงานยังอ้างว่า 67% ของความร่ำรวยของชาติถือครองโดยคนเพียงแค่ 1% ในปี 2018 และเพิ่มขึ้นจาก 56% ในปี 2016
หากมาดูตารางความร่ำรวยเป็นบุคคล ตระกูลเจียรวนนท์ ของกลุ่มซีพี ติดอันดับที่ 50 ของนิตยสาร Forbes ที่ร่ำรวยที่สุด โดยมีทรัพย์สินประมาณ 29.5 พันล้านเหรียญ กลุ่มจิราธิวัฒน์ ของกลุ่มเซ็นทรัล เป็นอันดับสอง โดยมีทรัพย์สินประมาณ 21 พันล้านเหรียญ ในขณะที่ไทยเบฟ คือ เจริญ สิริวัฒนภักดี ได้อันดับ 4 มีทรัพย์สินประมาณ 16.2 พันล้านเหรียญ
ในขณะที่ธนาคารโลก มีมาตรวัดและรายงานหลายอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความยากจน และความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เผด็จการทหารประยุทธ์ครองอำนาจ และสนับสนุนความร่ำรวยครอบครัวทั้ง 5 และอำนาจในการตลาดตลอดมา
อัตราความยากจนที่เป็นทางการในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปี 2016 เป็น 10% ของประชากร ในขณะที่ 40% ของประชากรมีความมั่งคั่งโดยดูจากการบริโภคโดยเฉลี่ย แต่หนี้ครัวเรือนกลับเพิ่มมากขึ้นในการปกครองแบบเผด็จการของประยุทธ์
ธนาคารโลกยังอ้างอิงถึง โพล Gallup World ที่กล่าวว่ามาตรฐานการอยู่ดีทางการเงิน และรายได้ได้ลดลงตั้งแต่ปี 2016รัฐบาลผสมของประยุทธ์ได้อ้างถึงความแตกต่างด้านความร่ำรวยและการอยู่ดีกินดีของคนยากจน โดยการมีนโยบายการแจกเงินกับคนแก่และเยาวชน และมีบัตรสวัสดิการที่ผิดพลาด
เป็นเช่นเดียวกับนายกฯที่ถูกรัฐประหารไป ก็คือทักษิณ ชินวัตร นักวิจารณ์บอกว่านโยบายของประยุทธ์ มีลักษณะคล้ายเฮลิคอปเตอร์เงิน ที่ไม่ช่วยในการกระตุ้นความมั่งคั่งแบบยั่งยืน และไม่ต้องพูดถึงระเบียบในเชิงโครงสร้าง เพราะเอาแต่พะนอกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และไม่เกิดประโยชน์กับพวกผู้ประกอบการรายย่อย (SME)
แปลและเก็บความจาก
Shawn W. Crispin. Thailand’s five families’ prop and imperil Prayut
ไม่มีความเห็น