ปัจจัยด้านอายุในการเรียนรู้ทางภาษา ตอนที่ 2
ผู้ใหญ่ก็มีข้อดีในหลายๆแง่ เช่น นักเรียนที่เป็นผู้ใหญ่มีความสามารถในการเรียนคำศัพท์ และมีทักษะทางสติปัญญาดีกว่าเด็กๆ ผู้ใหญ่สามารถเรียนเรื่องการวิเคราะห์และการสะท้อนตัวตน (reflectively) พวกเขาสามารถเรียนด้วยตนเองได้ พวกเขาสามารถเรียนรู้และการประยุกต์ใช้กฎและกระสวน (pattern) (และอาจมีความต้องการเฉพาะในเป็นแรงจูงใจ เช่น การเรียนรู้เพื่อความต้องการทางอาชีพ)
ประเด็นเหล่านี้ส่งผลอย่างไรต่อการสอนในชั้นของเรา?
มีแนวโน้มที่ฉันจะเป็นนักปฏิบัตินิยมในเรื่องวิธีสอน และเดินทางสายกลาง ประสบการณ์ส่วนตัวในการสอนโรเรียนมัธยมในประเทศอังกฤษสอนฉันว่าเราควรเอาข้อดีของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ระดับเบื้องต้น คืออายุ 11 ปีหรือต่ำกว่าสามารถที่จะเรียนเรื่องการออกเสียงได้อย่างถูกต้อง นี่คือเป็นโชคของคุณครู ประสบการณ์ในการสอนผู้ใหญ่พบว่าการออกเสียงค่อนข้างยาก
ถึงแม้ว่ามีงานวิจัยเสนอว่าเราไม่ควรสอนไวยากรณ์ เพราะผู้เรียนรับรู้กระสวนไวยากรณ์ด้วยตัวของพวกเขาเอง และมีบางกฎเป็นลำดับที่พยากรณ์ได้ และพวกเขาอาจพัฒนาการใช้ไวยากรณ์ภาษาที่ 1 มาใช้ในภาษาที่ 2 (interlanguage) แต่ฉันต้องการจะพูดว่าในบริบทที่ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ที่เด็กๆเห็นภาษาที่ 2 น้อยมากนอกห้องเรียน ดังนั้นฉันเลยไม่ได้บังคับให้เด็กต้องดำเนินหรือใช้ภาษาให้ถูกหลักไวยากรณ์ ฉันไม่มีความเชื่อว่านักเรียนมัธยมจะรับรู้ไวยากรณ์ได้ดีเหมือนเด็กๆ หลังจากที่ค้นคว้ามาหลายปี ลางสังหรณ์ของฉันคือสมองโต้ตอบกับตัวป้อนอันหลายหลายแบบซับซ้อน ที่มีบางตัวป้อนเห็นได้ชัดเจน และบางตัวป้อนก็ซับซ้อน และต้องไปเจอด้วยตนเอง (exposure)
แปลและเรียบเรียงจาก
Language Teacher Toolkit. The age factor in language learning.
ไม่มีความเห็น