วิกฤตการณ์ของโรฮิงญา: ดูผ่านเรื่องที่เป็นทางการในพม่า ตอนที่ 2
การมาถึงจังหวัด Sittwe ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐยะไข่ พวกเราก็ได้รับคำสั่ง ซึ่งก็คือ ห้ามให้ใครออกไปจากกลุ่ม และทำงานแบบอิสระ จะมีกฎการห้ามออกนอกเคหะสถานยามวิกาล (curfew) ตั้งแต่ 6 โมงเย็น ดังนั้นต้องไม่มีใครเดินดุ่มๆทำงานในตอนมืด พวกเราขอไปดูสถานที่ที่น่าสนใจกับพวกเรา ในการปฏิบัติแล้ว คำขอเหล่านั้นถูกห้าม ฉันเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของพวกเราเอง
ส่วนใหญ่การเดินทางอยู่ในภูมิภาคที่ต่ำกว่าทะเล จะมีทางที่คดเคี้ยว และแม่น้ำรอบๆเรือ การเดินทางไปที่จังหวัด Sittwe ไปที่ Buthidaung ใช้เวลา 6 ชั่วโมง จากที่นั่น พวกเราเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงบนถนนที่ขรุขระ เหนือเนินเขา Mayu ไปที่จังหวัด Maungdaw เมื่อเราขับรถผ่านไปที่เมือง พวกเราก็พบหมู่บ้านที่ถูกเผา ชื่อว่า Myo Thu Gyi แม้กระทั่งต้นปาล์มก็มีรอยไหม้เกรียม (scorched)
จุดประสงค์ของรัฐบาลในการนำพวกเรามาที่รัฐยะไข่ก็เพื่อทำให้เรื่องร้ายๆที่กำลังมีมากขึ้นกับเรื่องผู้อพยพชาวโรฮิงญาไปบังคลาเทศเกิดความสมดุล ผู้อพยพต่างพูดถึงการทุบทำลาย โดยทหารชาวพม่า และม็อบยะไข่ และรวมทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย
แต่จริงๆแล้ว ความพยายามหรือจุดประสงค์ก็อยู่ในลักษณะพูดไม่เข้าคายไม่ออก (faltered)
แปลและเรียบเรียงจาก
Jonathan Head. Rohingya crisis: Seeing through the office story in Myanmar.
ไม่มีความเห็น