อนุทิน 137708


นางอัมพร นันทะเสนา
เขียนเมื่อ

ชื่อ นางอัมพร นามสกุล นันทะเสนา เลขที่ 57D0103122

รหัสวิชา 102611 การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้

ปริญญาโท ภาคพิเศษ รุ่น 13 หมู่ 1 สาขาวิชาครุศาสตรมหาบัณฑิต โปรแกรมวิชา หลักสูตรและการสอน

อาจารย์ผู้สอน ผศ. ดร.อดิศร เนาวนนท์

……………………………………………………………………………………………………………………

บันทึกอนุทิน การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

ของ รศ.ดร. ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ

วันที่ 7 เดือน กันยายน พ.ศ. 2557

ความรู้ที่ได้จาการนำเสนอ

อาจารย์ยกตัวอย่างของการจัดการเรียนการสอนของครูว่า ครูนั้นควรจะการเรียนการสอนให้ยึดมาตรฐานและตัวชี้วัดว่าในแต่ละมาตรฐานนั้นกำหนดอะไรไว้บ้างโดยส่วนใหญ่ครูเราจะซื้อหนังสือตามสำนักพิมพ์ต่างๆ แล้วสอนตามหนังสือ โดยไม่ได้ว่าในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้มีมาตรฐานตัวชี้วัดในแต่ละระดับชั้นอะไรบ้างเพราะข้อสอบระดับชาตินั้นเขาก็เอามาจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แต่ข้อสอบจะเน้นให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์มากกว่าจะจำไปตอบฉะนั้นครูต้องเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ให้ตรงตามหลักสูตรถ้าสอนได้ตามตัวชี้วัดผลการสอบในระดับต่างๆนักเรียนก็จะมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น แล้วอาจารย์โยงไปถึงเรื่องสมองคนเรากับความคิด โดยสมองแบ่งออเป็นสองซีกคือ สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา สมองซีกซ้าย ประกอบด้วย ภาษา สัญลักษณ์ การคิดวิเคราะห์ การจัดระบบ วางแผน การเป็นเหตุเป็นผล การคำนวณ วิทยาศาสตร์ เห็นรายละเอียด สมองซีกขวา ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ ศิลปะ คิดสังเคราะห์ การเคลื่อนไหว จังหวะ จิตใต้สำนึก ชอบตื่นเต้น สนุกสนาน ขี้เล่น ใช้อารมณ์ มองภาพรวม ทำพร้อมกันหลายอย่าง สมองซีกซ้ายจะมองรายละเอียดคิดวิเคราะห์ เป็นคนที่มีลักษณะ ชอบครุ่นคิดอยู่คนเดียว ใช้เหตุผลคิดวิเคราะห์ เรียงลำดับ ชอบคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ชอบความเป็นระบบ ระเบียบ ส่วนสมองซีกขวามองภาพรวม คิดจินตนาการ สร้างสรรค์ ใช้อารมณ์หุนหัน ชอบคนหมู่มาก ชอบต่อเติมคำพูดให้สนุกสนาน สื่อสารด้วยสีหน้า ออกท่าทาง ถนัดดนตรี กีฬา ศิลปะ คนทุกคนนั้นมีสมองเท่ากันแต่ขึ้นอยู่ว่าคนนั้นมีการฝึกฝนและชำนาญในเรื่องใด

เรื่องระบบการสอนแบบ 4 MAT คือ การสอนแบบทฤษฎี 4 แบบจะให้ความสำคัญต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล การใช้กระบวนการสอนที่สอดคล้องกับความสามารถและความถนัดของผู้เรียนที่มีความแตกต่างกัน ตลอดจนคำนึงถึงกระบวนการสอนที่มุ่งพัฒนาสมองทั้งสองซีก คือซีกซ้ายและซีกขวาไปพร้อมกันการสอนแบบ 4 MAT มีดังนี้

1. WHY คือ เป็นคนช่างคิดช่างชอบเรียนรู้ด้วยการสังเกต อยากรู้ และสัมผัส ชอบเรียนรู้จากการฟัง ครูผู้กระตุ้นสร้างแรงจูงใจอยากตั้งคำถาม และอยากคิด สิ่งที่เกิดกับผู้เรียนคือ คำว่าทำไม

2. WHAT คือ ครูเป็นผู้บอกความรู้ อธิบายให้ผู้เรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้น ครูต้องให้ข้อมูลเนื้อหาสาระที่ลึกซึ้ง กิจกรรมสำหรับผู้เรียน การบรรยาย การเชิญวิทยากร ให้อ่านหนังสือเรียน อ่านใบความรู้ ของครู

3. HOW คือ ผู้เรียนสนใจในวิธีการต่างๆ ได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำของจริง ครูจะเป็นผู้ฝึกแนะนำให้นักเรียน กิจกรรมที่เหมาะสำหรับนักเรียน คือ การทำแบบฝึกหัด การทดลอง การเล่นเกม การร้องเพลง การเคลื่อนไหวของร่างกาย

4. IF คือ ผู้เรียนชอบค้นหาว่าเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าไม่เป็นอย่างนี้ จะเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ สนใจในการค้นหาสิ่งใหม่ด้วยตนเอง ด้วยการ ทดลอง พิสูจน์ กิจกกรมสำหรับผู้เรียน การค้นคว้าความรู้ด้วยตนเอง การปรับปรุงผลงานของตนเองให้ดีกว่าเดิมหรือต่างไปจากเดิม การนำเสนอ การรายงานในความคิดใหม่ของตนเอง

ช่วงบ่ายแบ่งกลุ่มแล้วให้แต่ละกลุ่มนำเสนอการจัดการเรียนการสอนแบบ 4 MAT ทำให้มองเห็นภาพและเข้าใจในระบบการสอนมากขึ้น

ความรู้สึกต่อเพื่อน

ทุกคนตั้งใจฟังที่อาจารย์บรรยายกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและกิจกรรมที่ร่วมกันนำเสนอของแต่ละกลุ่ม เพื่อนนำเสนอได้ดีมากมีความเข้าใจ

ความรู้สึกต่ออาจารย์ผู้สอน

ขอบพระคุณอาจารย์ผู้สอนมากค่ะที่ให้คำแนะนำและวิธีการต่างๆในการจัดการเรียนการสอนจะนำความรู้ที่อาจารย์ให้ในวันอบรมมาพัฒนาการเรียนการสอนของตนเองให้มีประสิทธิภาพต่อไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท