One Fine Dayวันสบายๆ
คลายร้อนกับเหยื่ยวข่าวสาว
วันสบายๆกับเหยี่ยวข่าวสาว (เครียด) ตอนแรกก็วางแผนที่จะพาทุกคนไปเที่ยว กิน พักผ่อนกับวันสบายๆเพื่อหลีกหนีเหตุการณ์ที่กำลังวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยของเรา และตอนนี้ความวุ่นวายมันก็เกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ตแล้ว เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ มีทั่วทั้งแผ่นดินแล้วตอนนี้เราจะเห็นไม่ว่าจะเปิดทีวีช่องไหน ก็จะเห็นแต่ข่าวของผู้ชุมนุมที่มีการโจมตีฝั่งตรงข้ามซึ่งกันและกัน เพราะต่างคนก็คิดว่าฝ่ายตัวเองดีกันทั้งนั้น (ไม่มีใครว่าตัวเองไม่ดีหรอกน่ะ) แต่นั่นแหละ พวกคุณไม่คิดบ้างหรือว่าจะทำให้บ้านเมืองเกิดผลกระทบอะไรกันบ้าง พวกคุณมัวแต่คิดที่จะหาผลประโยชน์ใส่ตัวเองไม่ได้ใส่ใจใยดีเลยว่าบ้านเมือง เดือดร้อนแค่ไหน ฉันในฐานะประชาชนคนหนึ่ง แถมเป็นเลือดคนใต้เต็มตัว ไม่ได้คิดเข้าข้างฝ่ายไหนน่ะ แต่อยากเห็นให้ทุกคนที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชน เข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการบริหารประเทศ ไม่ใช่ว่าคุณเป็นตัวแทนชาวบ้านแล้ว เข้าไปเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัวอย่างเดียว โกงกินน่ะมันมี ไม่มีรัฐบาลไหนหรอกที่ไม่โกงกิน แต่อยู่ที่ว่าจะกินมากน้อยแค่ไหน พวกคุณไม่คิดที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านเกิดเมืองนอนที่พวกคุณอาศัยเลยหรือ
การทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวในช่วงที่มีเหตุการณ์บ้านเมืองกำลังอยู่ในช่วงที่วุ่นวายเหลือเกิน ตัวเองต้องอยู่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าศาลากลาง เพื่อที่จะอยู่สังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ตของเรา เหตุการณ์มันเริ่มตั้งแต่เช้าวันพุธที่ 27 พ.ย.ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผู้ชุมนุมรวมตัวกันที่สนามชัย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามศาลากลาง (แต่เหตุการณ์ชุมนุมมีมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว) หลังจากนั้นก็มีการเคลื่อนย้ายเข้ามายังตัวศาลากลาง เพื่อที่จะมามอบช่อดอกไม้ให้กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต (นายไมตรี อินทุสุต)แต่ช่วงนั้นท่านผู้ว่าฯท่านติดภารกิจอยู่ข้างนอก มันเลยทำให้ท่านมารับช่อดอกไม้ช้า (ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางคนเริ่มมีอาการที่ไม่พอใจ) หลังจากนั้นท่านลงมารับช่อดอกไม้และได้มีการปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุม(แต่ท่านคงจะพูดไม่เข้าหู) ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางคนเกิดความไม่พอใจขึ้น เลยเกิดการกรูเข้าหาท่านผู้ว่าฯมีการเป่านกหวีดและตะโกนบอกว่าท่านผู้ว่าฯออกไป ๆ ทางอส.ต้องรีบกันท่านผู้ว่าฯขึ้นตึกเพื่อความปลอดภัย
ช่วงจังหวะนั้นดิฉันมองหน้าท่านผู้ว่าไม่ละสายตาเลย เลยรู้ได้จากสายตาและสีหน้าของท่านว่า ช่วงนั้นท่านคงตกใจมาก (ดิฉันสงสารท่านผู้ว่าฯจับใจเลย) เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็มีการบุกขึ้นบนศาลากลางเพื่อเชิญให้ข้าราชการที่ทำงานอยู่ในศาลากลางออกจากศาลากลางทั้งหมด ช่วงนั้นดิฉันก็มีโอกาสได้ขึ้นไปบนศาลากลางชั้น 2 กับพวกชุมนุม พวกเขาเดินดูทุกห้อง ว่ามีคนทำงานอยู่หรือเปล่า จนเดินไปห้องสุดท้าย ซึ่งเป็นห้องของรอง สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าฯ เพื่อเชิญให้ท่านรองออกไปจากศาลากลาง ท่านรองก็ทำตามที่พวกชุมนุมขอน่ะ โดยไม่ได้ขัดขืนอะไรเลย แต่จังหวะนั้นดิฉันเห็นสีหน้าของท่านรองฯแล้ว (คิดว่าท่านรองฯคงไม่พอใจสักเท่าไหร่)กลุ่มผู้ชุมนุมก็เดินทางไปตรวจสอบที่อบจ.ภูเก็ตเช่นเดียวกัน
วันที่ 2 ของการชุมนุม (วันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย.56) อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พร้อมน้องๆนักศึกษา รวมตัวกันออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องการต่อต้านระบอบทักษิณ มีการขี่รถมอเตอร์ไซค์ เป่านกหวีด แห่รอบตัวเมืองภูเก็ต เรียกร้องให้พี่น้องชาวภูเก็ตออกมาร่วมการชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ ซึ่งมีแกนนำของน้องๆนักศึกษาสลับกันขึ้นเวทีปราศรัยอยู่ตลอดทั้งวัน ซึ่งก็เป็นการแสดงออกถึงจุดยืนในระบบประชาธิปไตย ซึ่งใครๆก็แสดงออกได้ แต่นั่นแหละต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายของประเทศไทย
วันที่ 3 ของการชุมนุม (วันศุกร์ที่ 29 พ.ย.56) เริ่มกันตั้งแต่เช้ามีการรวมตัวของพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ตเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออกมารับผิดชอบ แต่ดูแล้ว 3 วันที่ผ่านมาไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย มีแต่จะเกิดความเสียหายให้กับประเทศมากยิ่งขึ้น เพราะมีการประกาศจากหลายๆประเทศ ให้ประชาชนของเขาที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยให้ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น ดิฉันในฐานะผู้สื่อข่าว ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ของบ้านเมืองยังคิดไม่ออกว่าจะยุติปัญหากันอย่างไร
หลังจากเครียดกับการทำข่าวการชุมนุมหลายวัน ฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากทางสภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต“พี่ร้องให้น้องได้เรียน” เชิญทานข้าวเพื่อเลี้ยงขอบคุณสื่อทุกแขนงที่ให้การสนับสนุนการจัดคอนเสิร์ต สำเร็จด้วยดี ฉันไม่รอช้ารีบรับคำเชิญทันที ช่วงค่ำของคืนวันพฤหัสบดี ที่ 28 พ.ย.56 กับร้าน “บ้านต้นผัก36 อู่อร่อย” ที่อยู่ทางไป อ.กะทู้ เราเดินทางไปกับผู้สื่อข่าวหลายๆสื่อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทีวี หนังสือพิมพ์ วิทยุ และมีน้องฝึกงานจากราชภัฏภูเก็ตด้วย เมื่อย่างก้าวเข้าร้านจะเห็นน้องนักเรียนจากหลากหลายโรงเรียนมาร่วมงานกันเยอะมาก เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่น้องให้ความสนใจมาก ทางเจ้าของร้านดูแลคณะของเราเป็นอย่าง มีเมนูอาหารหลากหลาย เลือกกินแถบไม่ถูกเลย อย่างอื่นไม่รู้น่ะ แต่ว่า สลัดผักอร่อยมาก เพราะเป็นช่วงที่ตัวเองต้องควบคุมน้ำหนัก (ไดเอท) ไม่ไหวน้ำหนักตัวขึ้นเยอะมาก จนคนใกล้ตัว (กิ๊ก)บอกว่าจะอ้วนมากเกินไปแล้ว (ให้ลดน้ำหนัก)
One fine day หนึ่งวันสบายๆกับเหยี่ยวข่าวสาวครั้งนี้จบลงแล้ว ในสถานะทางการเมืองที่ร้อนระอุ ต่างฝ่ายต่างเครียด เป็นธรรมดาของการเมือง แต่สิ่งหนึ่งที่อยากฝากไว้นั่นคือ การมีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และสำคัญคือการใส่ใจเรื่องสุขภาพและดูแลคนที่คุณรัก คนในครอบครัว หากมีโอกาสติดตามกันว่าเหยี่ยวข่าวอย่างดิฉัน จะพาคุณไปกินไปเที่ยวที่ไหน???
ไม่มีความเห็น