บันทึกการอ่าน
ครอบครัวนักอ่าน
วันที่บันทึก 8 กันยายน พ.ศ. 2556
ครอบครัวของ ด.ญ.เมเฟอร์ลิน อารีสตี้
ท่านผู้สูบบุหรี่ทุกท่าน โปรดทราบ !!! ขณะนี้ เลิกบุหรี่ง่ายกว่าพลิกฝ่ามือเสียอีก ข้อมูลจากมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ บอกว่า แต่ละปีคนไทยเลิกสูบบุหรี่ได้มากกว่า 200,000 คน หรือโดยเฉลี่ยมีผู้เลิกสูบบุหรี่ได้ถึงวันละ 600 คน จากสถิติพบว่า ร้อยละ 80 ผู้ที่หยุดสูบบุหรี่สามารถเลิกได้ด้วยตัวเอง ด้วยการเลิกอย่างเด็ดขาดและต้องมีการเตรียมตัวที่ดี บางคนอาจถือฤกษ์ 31 พฤษภาคมวันงดสูบบุหรี่โลก เป็นวันเลิกบุหรี่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน หากคุณอยากเป็น 1 ใน 200,000 คน ที่เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ ลองปฏิบัติตามวิธีง่าย ๆ เรามีคำแนะนำค่ะ
1. ขอคำปรึกษา เพื่อให้คุณมีแนวทางในการเลิกสูบบุหรี่ คุณอาจโทรศัพท์เพื่อขอคำแนะนำได้ที่ หมายเลข 1600 หรือขอคำปรึกษาจากคนรู้จักที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จมาแล้ว
2. หากำลังใจ คุณควรบอกให้คนใกล้ชิดได้ทราบถึงความตั้งใจที่จะเลิกบุหรี่ เพราะกำลังใจจากคนรอบข้างจะช่วยให้คุณมีความพยายามที่จะเลิกสูบบุรี่ให้ได้ เพื่อคนที่คุณรัก
3. เป้าหมายอยู่ข้างหน้า คุณควรวางแผนการปฏิบัติตัว ในระหว่างการเลิกสูบบุหรี่ โดยกำหนดวันที่จะลงมือเลิกสูบบุหรี่ อาจเลือกวันสำคัญต่างๆ ของครอบครัว เช่น วันเกิดตัวเอง วันครบรอบแต่งงาน หรือวันเกิดลูก แต่ไม่ควรกำหนดวันที่ห่างไกลเกินไป เพราะอาจทำให้หมดไฟเสียก่อน
4. ไม่รอช้า…ลงมือ คุณควรเตรียมตัวให้พร้อม ด้วยการทิ้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ให้หมด เตรียมผลไม้หรือขนมขบเคี้ยวที่ไม่หวานหรือไม่ทำให้อ้วนไว ้เพื่อช่วยในการลดความอยากสูบบุหรี่ รวมถึงปรับเปลี่ยนกิจกรรมที่คุณมักทำร่วมกับการสูบบุหรี่ เช่น อ่านหนังสือแทนการสูบบุหรี่ระหว่างเข้าห้องน้ำ ลุกจากโต๊ะทันทีที่กินอาหารเสร็จ หรือแปรงฟันทุกครั้งหลังกินอาหาร
5. ถือคำมั่นไม่หวั่นไหว เมื่อถึงวันลงมือ จงตื่นนอนด้วยความสดใส บอกตัวเองว่ากำลังทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและคนใกล้ชิด เมื่ออยากสูบบุหรี่ก็ขอให้ทบทวนถึงเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่ ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ล้างหน้า ดื่มน้ำ อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ไม่สูบบุหรี่ เล่นกับลูก หรือสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น ก็จะช่วยให้ผ่านพ้นความอยากสูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้น
6. ห่างไกลสิ่งกระตุ้น ในระหว่างนี้ขอให้คุณหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะทำให้คุณอยากสูบบุหรี่ เช่น ถ้าเคยดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วสูบบุหรี่ไปด้วย ก็ควรงดดื่มในช่วงนี้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางคนสูบบุหรี่ด้วย
7. ไม่หมกมุ่นความเครียด เมื่อรู้สึกเครียดให้หยุดพักสมอง คลายเครียดสักครู่ ด้วยการพูดคุยกับคนอื่น หรืออ่านหนังสือการ์ตูนขำขัน พึงระลึกเสมอว่า มีคนไม่สูบบุหรี่อีกมากที่คลายเครียดได้ โดยไม่ต้องสูบบุหรี่
8. เจียดเวลาออกกำลังกาย คุณควรจัดเวลาออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 15-20 นาที เพราะนอกจากจะเป็นการควบคุมน้ำหนักที่อาจเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้สมองปลอดโปร่ง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจและปอด หากไม่มีเวลาออกกำลังกาย ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องทุ่นแรงต่าง ๆ เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เพื่อที่คุณจะได้ออกกำลังกายบ้าง
9. ไม่ท้าทายบุหรี่ อย่าคิดว่าลองสูบบุหรี่เป็นครั้งคราวคงไม่เป็นไร เพราะการทดลองสูบบุหรี่เพียงมวนเดียวอาจหมายถึงการหวนคืนไปสู่ความเคยชินเก่า ๆ อีก คุณมาไกลมากแล้ว อย่าปล่อยให้ตัวเองถอยหลังลงคลองอีกเลย
10. หากต้องเริ่มต้นใหม่อีกอย่าท้อแท้ ถ้าหันกลับไปสูบบุหรี่อีก นั่นไม่ได้หมายความว่าโลกได้ล่มสลาย หรือคุณเป็นคนล้มเหลว อย่างน้อยคุณก็ได้เรียนรู้ที่จะปรับปรุงตัวเองในคราวต่อไป ขอเพียงพยายามต่อไป ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น
ไม่มีความเห็น