อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 6 วันที่ 23 มิถุนายน 2556
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน
อนุทินฉบับนี้จะขอพูดถึงความเป็นอยู่บางส่วนในช่วงที่ผมฝึกสอน ณ โรงเรียนแห่งนี้ โดยในช่วงเช้าผมจะไปคุมแถวและเช็คชื่อนักเรียนที่ปรึกษา ซึ่งเป็นภารกิจที่ผมต้องปฏิบัติในทุกๆเช้า และในเวลาเที่ยงของทุกวันผมต้องออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำการละหมาดที่มัสยิด อาจารย์บางท่านบอกผมว่า ผมเป็นคนเคร่งที่ละหมาดครบ 5 เวลาและเลือกกินข้าวหรืออาหารที่ฮาลาล แต่ผมอยากเรียนให้อาจารย์ทราบว่าสิ่งที่ผมกระทำอยู่เป็นเพียงพื้นฐานที่สุดสำหรับผู้ที่ยอมรับและปฏิญาณตนว่าตนเป็นอิสลามพึงกระทำ เพราะการละหมาดเปรียบเสมือนเสาหลักของศาสนา หากผู้ใดที่นับถือศาสนาอิสลามแล้วไม่ทำการละหมาดโดยเจตนา แสดงว่าภายในใจของเขาไม่มีเสาที่คอยค้ำจุนศาสนาของตนไว้ ศาสนาของเขาอาจพังทลายลงมาได้ เปรียบเสมือนบ้านที่พังลงมาเมื่อปราศจากเสาค้ำจุนและการละหมาดยังทำให้บุคคลอื่นรับรู้ได้ว่าบุคคลนี้เป็นมุสลิม เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหรืออยู่ในสถานการณ์ใด ผู้ศรัทธาก็ไม่ละทิ้งการละหมาด ณ จุดนี้ผมคิดอยู่เสมอว่าสำหรับตัวผมเอง ผมสามารถทำการละหมาดในเวลาเที่ยง (ละหมาดซุฮรี) ของทุกวันได้ แต่นักเรียนที่เป็นอิสลามที่อยู่ในโรงเรียนล่ะ พวกเขาจะละหมาดกันที่ไหน เพราะการละหมาดมีประโยชน์อย่างมากมายในการดำเนินชีวิต เพราะเป็นการสร้างพลังให้เข้มแข็ง การสำรวมจิตหรือการทำสมาธิเพื่อมิให้จิตใจวอกแวกไปในเรื่องต่างๆ และการละหมาดเป็นเครื่องช่วยที่ดีที่สุด ทั้งยังฝึกตนเองให้ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบในหน้าที่ ให้อยู่ในระเบียบวินัย รักษาความสะอาด และยังเป็นการบริหารร่างกายอย่างดียิ่ง หากเป็นการละหมาดรวมยังเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีพร้อมเพรียง ความเสมอภาค และภราดรภาพอีกด้วย
ส่วนเรื่องการเลือกกินแต่อาหารที่ฮาลาล ก็เพราะว่าถ้าหากวัตถุดิบที่ได้รับเข้าไปในร่างกายเป็นสิ่งที่ไม่ฮาลาลหรือพูดอีกอย่างคือเป็นสิ่งที่ฮารอม ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการเมทาบอลิซึมก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ฮารอมและพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ก็เป็นพลังงานที่ได้จากสิ่งที่ฮารอมอันจะส่งผลให้เกิดการกระทำที่ฮารอมตามมาภายหลัง ผมจึงเน้นหนักในเรื่องการกินอาหาร
· ฮาลาล คือ สิ่งที่ศาสนาอนุมัติ
· ฮารอม คือ สิ่งที่ศาสนาไม่อนุมัติ
ไม่มีความเห็น