คนไม่มีวาสนา
ท้องฟ้ามืดเหมือนใจหม่นของคนหมอง
จะร่ำร้องบอกใครที่ไหนได้
หมดฟ้ามืดฝนซาฟ้าอำไพ
แต่หัวใจมืดดำด้วยช้ำตรม
ตั้งใจมั่นทำหน้าที่ “ครูดีเด่น”
ทุกคนเห็นทำหน้าชื่นใจขื่นขม
เป็น “ครูดีในดวงใจ” ใครใครชม
“ครูแกนนำ” ช้ำตรมระทมใจ
“ครูต้นแบบ” มาทำงานนั้นแต่เช้า
ทุกวันเฝ้าดูแลคอยแก้ไข
มอบความรักมั่นต่อศิษย์สนิทใจ
ครูทนได้แม้เหนื่อยยากลำบากกาย
แต่น้อยใจหนักหนาฟ้าไม่สน
มองแต่คนเอาใจไม่มอบหมาย
หนีการสอนงานไม่ทำตามสบาย
แค่ประจบเจ้านายไปวันวัน
พอถามหาความเป็นธรรมย้ำให้เศร้า
ว่าตัวเรา “ไม่มีวาสนา” พาโศกศัลย์
สงสารใจ “ข้า” หนาสุดจาบัลย์
ไฉนกันวาสนาไม่มาเยือน
แม้ไม่เห็นความดีที่ตั้งมั่น
ขออย่าสรรคำว่ามาเชือดเฉือน
ใจดวงน้อยเจ็บช้ำถูกย้ำเตือน
เปรียบเสมือนคมมีดกรีดหัวใจ
2 สิงหาคม 2553
ขออนุญาตนะคุณครู...
เมื่อฟ้ามืดไยจะทนให้หม่นหมอง
ควรเฝ้ามองรู้เท่าทันไม่หวั่นไหว
พิจารณาเหตุการณ์ที่ผ่านใจ
ปล่อยวางได้เป็นสุขทุกคืนวัน
ธรรมดาของโลกอย่าโศกเศร้า
เพียงแค่เรา" ดี"แท้ไม่แปรผัน
เป็นครูดีในดวงใจให้ทุกวัน
การนินทาว่านั้น ธรรมดา
ครูแกนนำ นำธรรมประจำจิต
ครูต้นแบบไยคิดกลัวปัญหา
ควรมุ่งมั่นสอนสั่งยังวิชา
แก่ลูกศิษย์ลูกหาตาดำดำ
"ดิน"ทำดี ไม่เห็นงาม ก็ตาม"ฟ้า"
ที่ลอยหน้าฟ้ากลับอุปถัมภ์
ดูประหนึ่งที่เห็นไม่เป็นธรรม
คงเป็นกรรมของเราแต่เก่ากาล
หากเอนเอียงคงเลี่ยงจากเที่ยงแท้
ความเป็นธรรมผันแปรทุกสถาน
บนเงื่อนไขผลประโยชน์ที่โปรดปราน
ไม่ขึ้นอยู่กับผลงาน ประการใด
ถึงไม่เห็นความดีมุ่งมั่น
สิ่งสำคัญทำหน้าที่ ดีกว่าไหม
ย่อมประสบพบสุขทุกวันไป
เพียงแค่ใจดวงน้อย รู้ปล่อยวาง
...สู้ๆ นะคุณครู ขอให้มีความสุข