ขอบพระคุณ คุณ (อาจารย์) on time มากครับ...
ผมอยากไปขอบคุณที่บันทึกของคุณนะครับ...แต่คุณไม่มีร่องรอยเลยครับ
ผมเคยอ่านข้อคิดเห็นของคุณในหลายๆ บันทึก และในหลายๆ ท่าน
ข้อคิดที่ตรงไปตรงมา...รู้สึกอย่างไง...ซื่อสัตย์กับใจตนเองก็เขียนอย่างนั้น
แต่ไม่ได้ทำให้ใครๆ เดือดร้อนเลยครับ...
มีหลายข้อคิดได้ครุ่นคิดและเรียนรู้ไปด้วย
อดคิดไม่ได้ถ้าคุณเขียนบันทึกคงน่าอ่านและได้ประโยชน์มากครับ
แต่เคารพในการตัดสินใจครับ
คุณอยู่ที่นี้แบบไหนก็ตาม...
แต่คุณมีความหมายเสมอนะครับ....ขอบพระคุณอีกครั้งครับ...
(ปล.เขียนในอนุทินข้างหลัง...แต่กลัวคุณ on time หาไม่เจอนะครับ...เลยสร้างอนุทินใหม่ครับ)คุณหมอคะ เกรงใจจังดิฉันไม่ได้มีความสามารถมากขนาดนั้นค่ะ กรุณาเรียกดิฉันว่า on time เฉยๆ นะคะ
ดิฉันขออนุญาตบินไปบินมาแบบจอมยุทธหญิง ไม่ถือกระบี่ เพราะกลัว กลายเป็นภาระ จะทำให้บินไม่ถนัด
ขอบพระคุณมากค่ะ ทืี่ให้กำลังใจดิฉันมากมาย ขอให้คุณหมอมีสุขภาพสมบูรณ์ มีกำลังกายแข็งแรง มีกำลังใจเข้มแข็ง มีโชคดีตลอดเวลานะคะ
เช่นกันครับคุณหมอ ท่าน on time ได้มาแบ่งปันสิ่งดีๆมากมาย จนอยากรู้จักแล้วล่ะครับ
เห็นด้วยค่ะ..ดูลึกลับจัง...ช่วยแสดงตัวหน่อยค่ะ...อยากรู้จัก
สมัยก่อน ตอนที่ดิฉันทำงานในบริษัทเอกชน ก็มักมีคนชมๆๆๆๆๆๆๆๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณพ่อจากไปในสภาพที่ดิฉันเสียรู้ ดิฉันยอมรับกับตัวเองเลยว่า หมดสภาพของคนที่เติบโตแล้ว เหมือนเป็นทารกเกิดใหม่ เริ่มต้นใหม่ที่เลขศูนย์
เพราะพอคุณพ่อจากไปจึงรู้ตัวว่า ประสบการณ์นอกบ้านจากการทำงานแม้จะทำงานกับคน ไม่ได้ทำงานกับเครื่องจักรก็ตาม แต่ทุกๆ วัน เราออกจากบ้านไปใช้ชีวิตในที่ทำงาน รวมเวลาเดินทางด้วยรวมเป็น2เท่าของเวลาทั้งหมดที่เรามี และไม่มีการซึมซับความประณีตของการใช้ชีวิืต ตอนนั้นกำลังใจหายไปหมดได้แต่คุกเข่าขอโทษคุณพ่ออยู่นานเกือบปี พร้อมกับเปิดตำราหนังสือสวดมนต์ทุกวัน มากบ้างน้อยบ้างตามอารมณ์ แม้จะโง่มาก แต่สิ่งหนึ่งที่ได้อธิฐานในตอนนั้นคือ ขอให้คุณพ่อและเทพเทวดามาดลใจให้ดิฉันได้รู้ว่าสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว มีคำอธิบายอย่างไร จะมีพัฒนาการที่ดีต่อไปอย่างไรเพื่อปกป้องคุณแม่ ตัวเอง และคนใกล้ตัว
เมื่อมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นสมบัติส่วนตัว ก็เริ่มต้นเรียนรู้ด้วยตัวเอง คิดเองว่า มีเครื่องมือต้องใช้ให้เป็น ต้องตามเทคโนโลยี่ให้ทันแบบมีทักษะ พอดิฉันเจอเว็บโกทูโน แลกเปลี่ยนความรู้ ก็กระโจนเข้ามาเลย ไม่ได้ดูตัวเอง มีเรื่องช็อกตกใจมากจนต้องวิ่งหนีออกไปตั้งหลักใหม่อีกครั้งหนึ่ง พร้อมๆ กับเจอเรื่องแบบนี้ที่เว็บบอร์ดอื่นอีกเหมือนกัน
ดิฉันก็ตั้งหลักใหม่ ทีนี้นำเอาบทสวดมนต์มาไว้ใกล้ตัวมากที่สุด ดิฉันจึงพูดว่า..
ถ้าหากว่า เราฟังเสียงสวดมนต์ทุกๆ วัน ร่างกายของเรา หูของเราก็จะซึมซับเสียงสวดมนต์ด้วยอย่างคุ้นเคย สวดมนต์ด้วยใจไม่ต้องนั่งพนมมือ ไม่เสียเวลาเดินทาง ร่างกายของเราทุกคนล้วนมีเทวดาประจำตัว ท่านก็จะมาคุ้มครองเรา ถ้าเราอยากให้เทพเทวดาของเราเป็นสัมมาทิฏฐิเทวดา ก็ต้องเริ่มจากการคิดดีไว้ก่อน แล้วท่านเทพเทวดาก็จะพาโอกาสดีๆ ให้เราได้ทำ เชื่อไหม ? และลองคิดดูนะคะ ถ้าเราได้ยินแล้วได้รู้ความหมายด้วยจะดีแค่ไหน เว็บนี้ http://www.onab.go.th/e-Books/PrayTrans2.pdf บางครั้งก็ได้ถือโอกาสพิจารณาไปด้วยค่ะ (แบบย่อเวลา)
ตอนนี้ ดิฉันขอกลับเข้ามาใหม่แบบผู้ต้องการเรียนรู้ ขอทำสอบกั้นอาณาเขตไปพลางๆ ไปสัก10ปี เพื่อรอรับใบอนุญาตจากเจ้าของบ้านและเพื่อนบ้านรุ่นแรกๆ ได้ตั้งใจไว้ว่า อยากแลกเปลี่ยนสิ่งที่รู้เพื่อที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อใครๆ ได้บ้าง ดิฉันพัฒนาการช้า เรื่องที่เขียนและให้ความเห็น มาจากความคิดที่มีความปรารถนาดีเป็นที่ตั้งเท่านั้น ซึ่งก็อาจมีผิดพลาดในขั้นตอนปฏิบัติที่ดิฉันก็พร้อมจะได้รับคำชี้แนะหรือแนะนำจากท่านที่รู้มากกว่า ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ประสบการณ์ของคนอื่นทั้งในด้านบวกและด้านลบ
ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่คุณหมอได้ให้ความสำคัญกับดิฉันมากมาย ดิฉันมัวแต่หลงปลื้มที่ตัวเองอยู่ในสายตาของคุณหมอจิตสาธารณะคนเก่งจนลืมขอบคุณเรื่องนี้ ถือโอกาสนี้ ขอขอบพระคุณคุณหมอจิตสาธารณะที่ได้ให้เกียรติดิฉันค่ะ
พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้แวะมาอ่านและให้กำลังใจนะคะ