วันนี้ไปได้หนังสือมา ๑ เล่ม ชื่อ
“กลับหัวคิด มองโลก 80%” โดย นพ. ชิเกตะ ไซโตะ แปลและเรียบเรียงเป็นไทย โดย ประวัติ เพียรเจริญ จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. เนื้อหาคิดว่าดีมาก
คนเรา แม้จะอายุวัยใกล้เกษียณ บางทีก็ต้องการวิสัยทัศน์ที่สูงกว่าของผู้อาวุโสกว่าเหมือนกัน หมอไซโตะแกเป็นจิตแพทย์ อายุ ๙๐ ปีกว่าแล้ว เขียนหนังสือขายดีในญี่ปุ่น มากว่า ๓๐๐ เล่ม เกือบเท่าๆ กับ อาซิมอฟ ในอเมริกา ที่เขียนออกไป ๕๐๐ เล่ม
บทเรียนจากหนังสือที่สำคัญ ของหมอ ไซโตะ สรุปจากที่อ่านมาทั้งเล่มได้ข้อสำคัญสำหรับตัวเอง (มีที่ผมข้ามไปแยะ ถ้าผมคิดว่าตัวเองไม่ต้องใช้ข้อแนะนำข้อนั้นๆ)
๑ ลองแยกกายมาอีกตัว เพื่อมาดูตัวเอง (ผมเห็นว่าอันนี้ก็เข้าข่ายทำวิปัสสนาได้ถึงขั้นแรก คือ นามรูปปริเฉทญาณ)
๒ ถ้าเราคิดว่า มีเวลาแค่ ๓ วัน ทำงานไม่ทัน แสดงว่าเราประเมินตัวเองไว้ดีเกินไป คาดหวังผลสูงมากไป
๓ งานที่เริ่มวันนี้ พยายามให้เสร็จวันนี้ อย่าทิ้งงานจุกจิกไว้พรุ่งนี้ หรือวันหน้า ถามตัวเองว่ามีเหตุผลที่ดีหรือไม่ ถ้าไม่ดี ก็ต้องทำเลย
หมั่นชมตัวเอง หมั่นพูดว่าตัวเองรู้สึกดี แล้วมันจะเป็นจริงๆ
๔ ต้องจูงใจ หรือสั่งงาน คนอื่น หรือตัวเราเอง ด้วย รูปธรรม (วัดปริมาณ นับได้) ไม่ใช่นามธรรม เช่น เขียนหนังสือวันละ ๑๐ หน้า ไม่ใช่ เขียนหนังสือแยะๆหน่อย
๕ คนเป็นสัตว์สังคม ต้องคุยกัน สื่อสารกันเป็นประจำ การพบกันในงานเลี้ยงเป็นเรื่องสำคัญ (ของคนญี่ปุ่น)
๖ หากหนีปัญหา ความขมขื่นจะตามไปทุกแห่ง ต้องกล้าเผชิญหน้าตรงๆ
๗ จงเปลี่ยนจังหวะการทำงาน ทุกๆ ๒ ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เบื่อ ช่างก่อสร้างญี่ปุ่น ก็จะพักเบรคทุก ๒ ชั่วโมง เหมือนกัน
๘ อย่าให้ความอยากรู้อยากเห็น และ ความอดทน ลดน้อยลงเด็ดขาด
ใครสนใจไปหาซื้อมาอ่านเองก็ดีครับ
ไม่มีความเห็น