อนุทิน 110348


tosakun
เขียนเมื่อ

"Learning" กับ "Study" ต่างกันอย่างไร ? สำหรับผมแล้วคิดว่าต่างกันนะ "Learning" เป็นพฤติกรรมของมนุษย์ที่ได้มาจากบรรพบุรุษ ส่วน "Study" เรามาจัดการกันตอนหลังเพื่อให้เกิดการเป็นระบบมากขึ้น ผมสังเกตุเห็นเด็ก ๆ ตอนนี้ชักจะเริ่มไม่ค่อยชอบการ "Study" เท่าไหร่ (สังเกตุจากลูกตัวเอง) จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เขายังคงทำอยู่คือ "Learning" ซึ่งจะออกไปทาง "Learning by Doing" ด้วยซ้ำ ยกตัวอย่าง ครั้งหนึ่งครูมอบหมายงานมาให้ทำที่บ้านคือ การคิดท่าทางที่แสดงถึงกิจกรรมในชีิวิตประจำวันของเขา เพื่อนำไปประกอบการเรียนวิชานาฎศิลป์  สิ่งที่เขาทำคือ การค้นหาตัวอย่างละครใบ้จาก Youtube ผมในฐานะพ่อก็คอยดูอยู่ห่าง ๆ สังเกตุพฤติกรรมของเขา ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ

ตัวอย่างที่กล่าวไปนั้นทำให้มองเห็นว่าปัจจุบันนี้ "Content" หรือ "สาระ" นั้นเปรียบเหมือนกับไฟฟ้าหรือนำ้ประปาที่วิ่งวนอยู่ในระบบจ่ายไฟฟ้า เมื่อเราต้องการใช้งานก็เพียงแต่เสียบปลั๊กหรือเชื่อมตัวเองเข้ากับระบบ นำไฟฟ้าออกมาใช้ประโยชน์ ถอดปลั๊กออกเมื่อเสร็จงาน  ง่ายมาก กับการ "Learning" ในยุคออนไลน์ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คงเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองหลายคนเป็นห่วงคือ Content ที่อาจเป็นพิษภัยต่อลูกหลาน ซึ่งก็คงจะมีวิธีการหนึี่งที่ทุกคนสามารถทำร่วมกันได้คือใช้หลักการ "น้ำดีไล่น้ำเสีย"

ดังนั้นหากถามว่ารูปแบบการ "การศึกษาไทยในปี 2020" จะเป็นอย่างไร ส่วนตัวผมมองว่าน่าจะเป็น

  1. คนจะมีการรวมกลุ่มกัน โดยใช้เรื่องราวที่ "สนใจ" เป็นศูนย์กลาง
  2. คนจะมีปฎิสัมพันธ์กันเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากข้อ 1
  3. คนที่มารวมกลุ่มกันจะเป็นทั้งผู้ผลิตสารและเป็นผู้ใช้สารและเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
  4. คนจะใช้สารนี้เหมือนกับการใช้ประโยชน์จากระบบสาธารณะประโยชน์เช่น น้ำประปา หรือ กระแสไฟฟ้า
  5. กิจกรรมเหล่านี้จะเป็นระบบออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่ามันเกิดขึ้นใน gotoknow.org แห่งนี้และที่อื่น ๆ อีกหลายแห่ง


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท