อนุทิน 108915


krutoiting
เขียนเมื่อ

รับน้อง 2 กิจกรรมผีกับโลง

ชื่อออกแนวสยอง สำหรับบางคน แต่สำหรับนักศึกษาใหม่ของสถาบันชื่อนี้มีเฮ

หลังจากกิจกรรมแรกได้ผ่านการแก้ปมด้วยความร่วมมือของนักศึกษาทุกคน และยังทำให้ทีมFAของเรามองเห็นกระบวนการคิดแก้ปัญหาของน้องๆ ในสภาพอาการที่ร้อนระอุ และน้องๆต้องใช้ความอดทนสูงมากซึ่งเรื่องนี้เราเพิงทราบทีหลัง หลังจากเราสังเกตเห็นความอ่อนเพลียของน้องๆแม้ว่าพวกเขาพยายามเข็มแข็ง แต่ด้วยเราทำงานด้วยใจเราจึงมองเห็น และการแก้ปัญหาอย่างฉับไวด้วยการเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้ในช่วงสำคัญจึงเกิดขึ้น

สำหรับกิจกรรมผีกับโลงก็แปลงมาจากกิจกรรมกระต่ายกับโพลง หลายๆคนก็นำไปปรับใช้ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย จากการทำกิจกรรมนี้ทำให้ทีมมองเห็ฯการให้ความสำคัญของ 1 จำนวน ผู้ร่วมกิจกรรม 2สถานที่ 3 การใช้เสียงกลองเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและเกิดความรู้สึกถึงความอยู่รอดและ 4 การให้ความสำคัญของเป้าหมายร่วมกัน

แม้กิจกรรมผีกับโลงจะเป็นเพียงเพื่อให้เกิดกลุ่มและการสลายกลุ่มเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างทั่วถึง แต่เรากลับพบว่านักศึกษาหลายคนมีมุมคิดเกิดขึ้น พวกเขาบอกว่ากิจกรรมทำให้พวกเขาได้คิด การได้เห็นความเปลี่ยนแปลงและความเป็ฯตัวตนของกันและกัน ทำให้พวกเขามองเห็นความวุ่นวายในชีวิต การแก่งแย่ง ความชุลมุน การให้อภัย การขอโทษ และแม้การยอมรับ

ทีมงานรู้สึกอิ่มใจที่การทำงานของเราทำให้เราได้เรียนรู้ตัวตนของวัยรุ่นยุคปัจจุบันและได้พบศักยภาพของน้องๆด้วย

น้องจุ๊ และน้องแหม่ม สะท้อนสภาวะความโกลาหลที่เราตั้งใจให้เกิดขึ้นในกระบวนการเรียนรู้ว่าโลกแห่งความเป็นจริงทุกวันนี้มีสภาพไม่ต่างจากกิจกรรมที่น้องๆทำอยู่ และกระตุกให้น้องๆร่วมคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ น้องจะแก้ปัญหาอย่างไร คำตอบของน้องๆช่วยให้เราประเมินความรู้เดิมของน้องๆและควรเติมเต็มในเรื่องใดได้ ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้การเรียนรู้มีความเชื่อมโยงตามทฤษฎีConstructivism ที่มีกระบวนการเกิด 2 อย่างคือการซึมซับ และเชื่อมโยงเก่ากับใหม่ที่มันคล้ายๆกัน เชื่อมกัน เอ...ดูเหมือนเอาน้ำเชื่อมเทลงกะทะ แล้วเติมน้ำลงไปแม้ไม่เขย่ามันน้ำเชื่อมก็ไหลเข้าหาน้ำ และน้ำก็ปรี่เข้าทำหน้าที่กลืนเนียนเป็นน้ำเชื่อมใหม่ แม้จะยังไม่เข้าที่ แต่เราก็เติมน้ำตาลลงไปได้ เติมสี เติมกลิ่นลงไปได้ในหนทางที่ 2นั่นเอง กระบวนการ Assimilationน่าจะเป็นเช่นนี้มิใช่หรือ ทีนี้เมื่อได้ผสมน้ำเชื่อมใหม่ สีใหม่ กลิ่นใหม่ลงไปก็ย่อมต้องเกิดสูตรใหม่หอมน่ากิน สีน่าลองน่าใช้ น่ายินดีขึ้นมาก็น่าจะถึงคราวที่ประเอกจะได้เป็นตัวเต็งในการปรับโครงสร้งขององค์ความรู้ใหม่ จ๊ากนี่ใช่ไหมที่เรียกกันว่า Accomodation ต้องทำเสียงก้องคอหน่อยจะได้เหมือนแหม่มพูดเอง อิอิ

แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่โยงใยเอามันเชื่อมออกมายังกับเชื่อมมันเลยนะเนี่ย เป็นการเชื่อมโยงกิจกรรมสู่ความรู้ทั้งที่มีอยู่เดิมที่อาจถูก หรือผิดอยู่นั้นให้ได้คิดวิเคราะห์และสกัดใหม่หากความรู้ความเข้าใจที่มีอยู่ในความคิดในความทรงจำของน้องๆก็เกิดความยินดีที่จะปรับความคิดนั้นให้มันถูกต้องตามธรรมนองคลองธรรมและความรู้ที่ถูกต้องที่ได้รับการวิจัยมาแล้ว สิ่งที่น้องๆพูดแสดงความคิดเห็นออกมา...และเสียงตื่นเต้นเมื่อเขายังไม่พลาดท่า ฮามากตรงนี้ ดูน้องๆออกจะดีใจมากเมื่อเรียนรู้ด้วยตนเองว่าสิ่งที่เขาได้เรียนรู้วันนี้ได้ให้ความมั่นใจมากขึ้นอีกโข แต่ก็อีกมีขาวก็มีดำ มีด่างอีกด้วย เราพบว่าน้องคนหนึ่งมีสีหน้ากังวลเมื่อมีการสรุปประเด็นการเรียนรู้เรื่องHIV ตอนโลงแตก เราเองก็วูบเหมือนกัน แม้จะยังไม่รู้อะไรมากในตัวน้อง อีกทั้งคำถามเพื่อแก้ข้อสงสัยของน้องก็ทำให้ทีมเก็บมาทำงานต่อและเร่งปรึกษาหารือกันเมื่อกลับมาที่ทำงานว่าเราจะต้องเดินเข้าไปหาน้องๆอีกครั้ง เพื่อสร้างความกระจ่างหากน้องไม่เดินเข้ามาหาเราตามเส้นทางที่เรามอบให้ เพื่อว่าจะไม่มีคำว่า"ช้าไปต๋อย"เกิดขึ้นในภายหลัง

เรากำลังเข้าสู่กระบวนการself theme ในกิจกรรมที่ 3 ต่อไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท