ตาเหลิม
นาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

ตอนที่ 1 : เรื่องเยาวชน กับ พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กและเยาวชน


พัฒนากัน เข้าไป ... เข้าหล่ม เข้าหนอง

ว่ากันว่า ...

 

ไม่ว่าละครับ ... มันคือเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น

ขณะนี้ประเทศด้ามขวานน้อยๆ ประชากรเฉียดฉิวสยิวกิ้ว 70 ล้านคนของเรา

ซึ่งมีประชากรเด็กๆ - เยาวชน คนหนุ่มสาวทั้งแนวนี้ แนวหน้า แนวหลัง

พั๊งค์ ร๊อก ป๊อบ และอื่นๆ เป็นประชากรของประเทศนี้กว่า ร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมด

 

เจ้า พ.ร.บ. (พระราชบัญญัติ) ฉบับใหม่ล่าชื่อ  พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ.2550

ซึ่งคงจะไม่สามารถหาทำ พรบ.800 บาทได้เหมือนกับรถจักรยานยนต์แน่นอน

ป่อย ป่อย ป่อย ตะลึง ตึงโป๊ะ

 

ตอนนี้ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา

เล่ม 125 ตอนที่ 9ก ลงวันที่ 14 มกราคม 2551

ซึ่งกม.นี้ จะมีผลบังคับใช้วันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2551

 

จากวันนี้ไปถึง 13 เมษายน 51 ซึ่งวันนี้ถือเป็นฤกษ์ดีทีเดียวครับ

เพราะกฎหมายที่ว่าด้วยการพัฒนาเยาวชนฉบับนี้จะมีผลในวันครอบครัว

 

บังเอิญ ไม่รู้อะไรดลใจให้ได้ไปมีส่วนร่วมเลยได้ดู กม.มาตั้งแต่ปีก่อน

เห็นความก้าวหน้า ก้าวหลัง ก้าวขึ้น และก้าวลงตามลำดับ

 

หากจะบอกว่ามันมีส่วนร่วมจากเยาวชนก็คงจะพอบอกได้(แต่ทว่าไม่ได้ร่วมตั้งแต่เริ่มต้น)

ได้มาร่วมกันจริงๆจังๆ ก็ช่วงกลางๆ เข้ามาแล้ว ในชั้นกรรมาธิการเด็กเยาวชน สนช.นี่แหละ

 

ปกตินโยบายการพัฒนาเยาวชนของประเทศเราที่เป็นแผนพัฒนาเยาวชนระยะยาวนั้น

จะมีคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติเป็นคณะกำหนดนโยบาย มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2521

 

รัฐ(พ.ม.) และเครือข่ายเยาวชนก็มีความเห็นตรงกันว่า

พ.ร.บ.ส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ.2521 ที่ทำให้มีคณะกรรมการฯข้างต้นนั้น ไม่เข้ากับยุคสมัยอินเตอร์เน็ตและรถไฟฟ้า อันพอจะบอกได้ว่าเยาวชนยุคนี้ส่วนใหญ่แล้วเขามี Hi5 กันหมดแล้ว (คนใน G2K ก็ควรศึกษา Hi5 กันไว้นะครับ ลองไปสมัครเล่นๆ กันได้ที่ www.hi5.com ง่ายนิดเดียว) 

 

ก็เลยแก้กฎหมายกัน เพื่อเปิดโอกาสมากขึ้นให้เยาวชน ชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณะที่ทำงานด้านเยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

(เข้าว่าไว้งั้นนะ ร่วมไม่ร่วมต้องรอดูกันก่อน)

โดยที่เดี๋ยวเค้าจะมีการกำหนดกฎ + ระเบียบกระทรวง พ.ม. 

เพราะว่าเค้าจะให้มีสภาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ   และ  คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ขึ้นมา  

โดยให้สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ รักษาการตาม พ.ร.บ.นี้

โอมันยอดมาก

 

และ พ.ร.บ.นี้นี่เอง ที่เด็กและเยาวชน จะได้มีส่วนร่วมทางนโยบายอย่างจริงจัง

ในการเป็นคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งมีสัดส่วนถึง    2    คน   จาก 24 คน เป็นบุญแน่นอน

ส่วนที่มาของ 2 คนนั้นคงไม่ต้องเป็นห่วง มีกระบวนการและที่มาแน่นอนครับ

ผมและหลายคนที่ทำงานเยาวชนเองก็กลัวเหมือนกันว่า มันจะทำให้น้องๆ บ้าอำนาจกันรึเปล่า

 

อย่างไรซะ พ.ร.บ.นี้ไม่ได้พูดถึงรูปแบบการพัฒนาอย่างชัดแจ้ง

แต่้ชัดแจ้งในเรื่องสภาเด็กและเยาวชน และการให้อำนาจกับคณะกรรมการดังกล่าวในการประสาน เชื่อมโยง ให้เกิดวาระเด็กและเยาวชนที่ทำงานด้วยกันโดยหลายๆ กระทรวง กรม กอง

 

ซึ่งก็คงดีเหมือนกันนะ เพราะเดี๋ยวคนทำงานเด็ก เยาวชนกันเยอะ แต่ไม่ได้มีการบูรณาการ(หรือทำงานด้วยกัน หรือแลกเปลี่ยนกัน หรือพูดคุยกัน)กันซักเท่าไหร่

มีกฎหมายนี้รัฐจะได้คุยกันบ้าง ไม่ต่างคนต่างทำ

ผมได้แต่หวังว่าเค้าจะคุยกันนะ อย่าพึ่งคิดว่ามันจะเป็นจริง ... เฮ้อ

 

ต่อไป ก็จะมีงานอบต. งานระดับจังหวัด และงานอื่นๆ ที่จะได้ร่วมกันอีกมากมาย

ช่วยกันเด้อครับ เดี๋ยวกฎหมายออก ผมเชื่อว่ามันจะเป็นช่องทางให้คนจำนวนมากทำงานได้ ง่าย และ จริงมากขึ้น กับเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ถือกลไกในมือ

และเราเองก็จะกลายเป็นกลไกที่ถูก และเป็นระบบกับเค้าบ้างซะที 

คงสนุกพิลึก

 

ลุ้น รอ ขอให้สนุก 

 

 

หมายเลขบันทึก: 163786เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2008 20:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2012 09:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

มาเยี่ยมชมความเห็นเยาวชนต่อ พ.ร.บ.นี้ครับ แต่ที่แม่ฮ่องสอน จนบัดนี้ มันไม่เขยื้อนเลย

นักสังคมสงเคราะห์ตัวน้อยเองค่ะ

จริงอย่างที่พี่ว่าค่ะ คนทำงานเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนมีเยอะมาก บางทีก็ทำงานซ้ำๆกัน ไม่ได้ประโยชน์ใหม่ๆ ที่จะพัฒนา ตอนนี้ก็มีโอกาศได้ทำงานเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนอยู่บ้าง เห็นว่าก็เริ่มมีความร่วมมือระหว่างกลุ่มกันมากขึ้นค่ะ^^

บทความให้ความรู้มากเลยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท