อาจารย์ขจิตช่วยด้วย...... ตัวดิฉันเองเป็นคนไทยแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ พูดภาษาไทยได้ชัดถ้อยชัดคำมากว่า20ปีแล้ว (ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเราเป็นคนไทยเนอะ) ไม่ได้ไปเรียนหรืออยู่เมืองนอกเมืองนา จึงยังต้องมีปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษอยู่ดีค่ะ พูดถึงเรื่องภาษาอังกฤษดิฉันเรียนมาตั้งแต่อนุบาล แต่ใยทำไมพูดไม่เก่งซักที นึกถึงตอนไปญี่ปุ่น ไปลงที่สนามบินคันไซ เพื่อจะต่อเครื่องไปที่เมืองมัทซึยาม่าที่เกาะชิโกกุ จะไป Check in เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับสถานที่ จึงต้องถามคนญี่ปุ่นด้วยภาษาอังกฤษ ปรากฏว่า เขาไม่เข้าใจเราพูด ฟังไม่รู้เรื่อง จนต้องหาวิธีการจากการพูดไม่เข้าใจมาเป็นการเขียนข้อความลงในกระดาษ เขาจึงให้คำตอบเราได้ จากนั้นเราก็มานั่งคิดว่า หนึ่งสำเนียงที่เราพูดเขาฟังไม่เข้าใจ หรือเราใช้ประโยคคำถามผิด ซึ่งประการที่ 2 ไม่น่าจะใช่ กลับมาเมืองไทย พยายามฝึกฝนการพูดให้ได้สำเนียงฝรั่ง....แต่ทำอย่างไรก็ไม่ได้สักที....จึงต้องบอกอาจารย์ขจิต ฝอยทอง ช่วยด้วย.....
มีหลายคนบอกว่า การพูดให้ได้สำเนียงแบบฝรั่งนั้น มันเป็นพรสวรรค์ แต่เราก็เถียงเขาอยู่ดีว่า มันไม่น่าใช่ บางคนพยายามฝึกฝนบ่อย ๆ ที่เรียกว่าพรแสวง เขาก็ทำได้เช่นกัน จากที่เราเคยเรียนตอนเด็ก ๆ เราจะใช้แบบวิธีท่องจำ (การท่องจำคงไม่ดีเท่าความเข้าใจ) Hello, how are you? I am fine, thank you, and how are you? นี่เป็นประโยคหากิน ประโยคเอาตัวรอดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคุณฝรั่ง แต่เวลาฝรั่งถามกลับคืนบางประโยคเราก็ตอบไม่ได้ เราบอกว่า ฝรั่งพูดเร็ว แต่จริง ๆ เมื่อตั้งใจฟัง ได้ความว่า การออกเสียงของฝรั่งไม่เหมือนกับเราเลย ฟังอย่างไรก็เลยไม่เข้าใจ ฝรั่งออกเสียงอย่างไร เราต้องออกเสียงให้เหมือนฝรั่ง จูนคลื่นให้ตรงกัน ดิฉันก็พยายามไปออกเสียงให้ถูกต้อง เริ่มตั้งแต่ A-Z ยกตัวอย่างเช่น
ตัว A ก็ออกเสียงคล้าย เอ ในภาษาไทย แต่จะมีลมออกมาจากลำคอมากกว่าไทย ตัว B ออกเสียงคล้าย บ ใบไม้ของไทย แต่ไทยบีบปากแน่นกว่า และใช้ริมฝีปากบนล่างด้านในสัมผัสกันเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียง ฝรั่งจะบีบแรง ๆ พอเปล่งเสียงออกมาต้องใช้ลมดันให้ระเบิดออกมา เช่น Baby , but ดิฉันพยายามฝึกหัดอยู่พักใหญ่ ๆ พอเจอฝรั่งเข้าจริง ๆ ดิฉันก็ลืมการฝึกหัดตั้งแต่ A-Z และพูดแบบที่เคยพูดเหมือนเดิม ฝรั่งพูดคำว่า marketing(ม้าร์-ขึด-ทิ่ง) คนไทยพูดว่า มา-เก้ต-ติ้ง ครูเคท เคยบอกว่า จะพูดฝรั่งให้ดี ต้องมีจริตจะก้าน ต้องมีลูกบ้า และลูกอึด ใครที่ประสบผลสำเร็จในเรื่องการพูดที่นอกเหนือจากนี้(ยกเว้นการไปอยู่เมืองนอกนะ) มีวิธีแนะนำที่ดี บอกทีนะคะโธ่ ๆๆ !! คุณนุชนารถ คะ สำหรับนิว ๆ ก็ยังพูดกับฝรั่งไม่ค่อยจะถูกเลยคะ บางทียังนึกแต่งประโยคไม่ทันเลยว่า อืมมม จะพูดยังไงดีน๊า ...ประธาน แล้วต่อไปเป็นอะไรต่อดี แล้วประโยคนี้เป็นอดีตหรือปัจจุบัน โอ้ยยยย !! ปวดหัววววว......แต่ก็เป็นกำลังใจให้คะ ถ้าอย่างไรหนูก็รออ.ขจิต มาแนะนำด้วยเหมือนกันเน๊าะ....
ขอบคุณอาจารย์ขจิตสำหรับลิงค์เวบน่ารักค่ะ เข้าไปเซฟไว้แล้ว...
ดิฉันชอบใช้วิธีดูหนังเสียงในฟิลม์ค่ะ ได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้าง แต่พอจับสำเนียงได้ ...และสนุกดีด้วยค่ะ
อารมณ์เดียวกับคุณสุชานาถเลยค่ะ เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่อนุบาล ยังไม่เห็นรู้สึกว่าจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องเลยค่ะ จาบอกว่าถึงอยู่เมืองนอก ก็ไม่ได้ทำให้สำเนียงเปลี่ยนเป็นแบบฝรั่งได้เลยค่ะ เพราะทำจริตม่ายเป็น (พยายามแล้วพอพูดจริงๆ ก็ลืม) แต่จากประสบการณ์ คนไทยจะฟังๆๆ แล้วอ่านๆ เก่งกว่าพูดๆ เขียนๆ ค่ะ
สำหรับเรื่องที่คุณสุชานาถไปเสีย self ที่ญี่ปุ่น เข้าใจว่าคนญี่ปุ่นไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษนะคะ เพื่อนคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มาเรียน Education กันค่ะ จะได้ไปสอนภาษาอังกฤษที่บ้านตน เพราะยังขาดแคลน และเงินเดือนสูงสุดๆ ดังนั้นไม่ใช่เราพูดไม่ได้ แต่เค้าอาจจะฟังไม่ได้ตะหากนะคะ
ที่อาจารย์ขจิตแนะนำการดูทีวี ก็มีส่วนในการฟังดีนะคะ ที่นี่ไม่มี subtitle เลยเหมือนจะเริ่มๆ ฟังเองได้มากกว่าตอนดูยูบีซี แต่อย่างนึงก็คือ เพราะฝรั่งที่สอนภาษาอังกฤษบ้านเราเค้าปรับหูให้เข้าใจคนไทย เราเลยรู้สึกว่าพูดได้ แต่พอมาเจอฝรั่งที่ไม่เข้าใจถ้าสำเนียงไม่ได้อย่างเราตอนนี้ เสีย self หลายทีแล้วค่ะเนี่ย
ฝึกฝนกันต่อไปค่ะ สู้ๆ
ขอบคุณ อ.ขจิต อีกครั้งค่ะ ที่แนะนำเวปดี ๆ ให้ มีอะไรแนะนำอีก ยินดีเสมอนะคะ