ก่อนที่จะเรียนรู้วิธีการที่นักกิจกรรมบำบัดนำกิจกรรมแบบช่วยกันคิดช่วยกันทำ (egocentric cooperative working activity) ผมคิดว่างานส่งเสริมสุขภาพในประชาชนทั่วไปสู่งานวิจัยในปัจจุบันกำลังเน้นศักยภาพของนักศึกษาโดยผ่านกระบวนการรู้จักศักยภาพของตนเอง หรือ Self-efficacy ครับ 

How self efficacy affects human function

ตัดตอนมาจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Self-efficacy

1. Choices regarding behavior People will be more inclined to take on a task if they believe they can succeed. People generally avoid tasks where their self efficacy is low, but will engage in tasks where their self efficacy is high.

2. Motivation People with high self efficacy in a task are more likely to expend more effort, and persist longer, than those with low efficacy.

3.Thought patterns & responses Low self efficacy can lead people to believe tasks are harder than they actually are.

People with a high self efficacy are generally of the opinion that they are in control of their own lives; that their own actions and decisions shape their lives.

จะเห็นว่าการลองให้นักศึกษาได้มีโอกาสทำกิจกรรมใดๆ ด้วยการร่วมกันคิดกันทำอย่างอิสระ อาจตั้งโจทย์ที่สร้างสรรค์ แล้วให้กลุ่มนักศึกษาแก้โจทย์ มีการร่วมกันวางแผน มีการช่วยกันทำงาน ในเวลาที่มีขอบเขตที่เหมาะสม มีการประเมินผลจากกระบวนการสร้างเลือกโจทย์ กระบวนการคิดและทำด้วยแรงจูงใจต่อตนเองและกลุ่ม และกระบวนการคิดและนำตัวเองเพื่อพัฒนางานของกลุ่ม

นอกจากนี้ก่อนริเริ่มกิจกรรมกลุ่ม อาจารย์อาจจัด Workshop เพื่อเตรียมศักยภาพของนักศึกษา โดยแบ่งเนื้อหาออกตามตัวอย่างที่สามารถคลิกดูได้จาก http://www.about-personal-growth.com/self-efficacy.html