ผ่านไปสองตอน จาก ทฤษฎีใหม่ : ความรู้ไม่มีสอน มนุษย์สร้างความรู้ได้เอง (1) และ ทฤษฎีใหม่ : ความรู้ไม่มีสอน มนุษย์สร้างความรู้ได้เอง (2) ถ้าท่านได้ติดตามมาตลอด ท่านจะเห็นว่า มนุษย์สร้างความรู้ได้เองอย่างไร
บันทึกนี้ขอต่อยอดความรู้จากตอนที่ 1 และ 2
เห็นคุณค่าและสร้างความพร้อมรอบตัวสู่การเรียนรู้
: วัสดุและแหล่งความรู้
อีกอันหนึ่งต้องมองเห็นคุณค่าการเรียนรู้ และก็สร้างความพร้อมให้เขา ปัจจัยรอบตัวผู้เรียนก็อยู่ที่พ่อแม่ และครูบาอาจารย์ เมื่อกี้ผมพูดถึงเรื่องวัสดุความรู้ เราต้องให้วัสดุดี ๆ กับเขา
โรงเรียนปริยัติธรรมสอนทั้งด้านบาลี สอนทั้งทางด้านนักธรรม และสอนทางด้านสายสามัญ แล้วก็เอาเณรมาเรียน เอาเณรมาบวชมาเรียน พระพี่เลี้ยงก็อบรมสั่งสอนหลักสูตรเขามีอยู่แล้ว
สิ่งต่าง ๆ ที่จะให้ก็ต้องถามตัวเองว่า วัสดุที่จะให้เณรเหล่านั้น เขาได้สิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ดีที่สุด หรือไม่ ในวัสดุที่เราให้เขา อักษรตำราที่ประกอบการเรียนรู้ของเณรดีที่สุดหรือเปล่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นคำถามทั้งนั้นเลย
พวกเด็ก ๆ ก็เหมือนกัน หนังสือเรียนประกอบมีไหม บางคนไม่มีแม้หนังสือเรียน หนังสือประกอบยิ่งไม่มีใหญ่เลย วัฒนธรรมการเรียนรู้ สิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ อันนี้ก็อีกอันหนึ่ง
ความสำคัญของความรู้กับมนุษย์ มนุษย์เรียนรู้ผ่านสื่อต่าง ๆ เดี๋ยวนี้เรามีสื่อมากมายก่ายกอง สื่อจะดีจะชั่วก็ตามแต่ประโยชน์ของสื่อ สื่อสามารถให้ความรู้ได้เพียงว่า คนที่เป็นเจ้าของสื่อและคนที่จัดการสื่อ ใช้สื่อให้เป็นประโยชน์นการที่เป็นแหล่งให้ความรู้กับประชาชนได้ไหม
ถ้าได้ ตอนนี้จะเป็นแหล่งความรู้มหาศาลเลย เพราะสื่อมันไปได้กว้าง ไม่ว่าจะเป็นด้านธรรมะ ด้านโลก
ให้หลักคิด เสริมทุนความรู้
: อย่าสอนรายละเอียด
มนุษย์สร้างความรู้เอง วิธีที่เราจะสอนลูก สอนลูกศิษย์ คือ ให้หลักในการสร้างความรู้ ให้หลักคิดเขา เวลาสอนหนังสืออย่าไปสอนรายละเอียด ให้สอนหลักวิชา แล้วเด็กจะไปสร้างความรู้เอง จากโครงสร้างบ้าน ความรู้อยู่ในสมอง
ความรู้ใหม่มีฐานมาจากทุนความรู้เดิม มนุษย์สร้างเทคโนโลยีมาจากทุนความรู้เพื่อมาใช้งาน
เทคโนโลยีคืออะไร แปลง่าย ๆ คือ การที่เอาความรู้มาใช้งาน ยิ่งมีทุนความรู้มากเท่าไหร่ก็ได้เปรียบ คนไหนมีทุนความรู้มากก็จะได้เปรียบ พ่อแม่และครูสามารถสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ได้ที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่บ้านมีห้องสมุดให้ลูกบ้างไหม อ่านหนังสือกับลูกบ้างหรือเปล่า ตอนเด็ก ๆ อ่านหนังสือให้เขาฟังไหม ชวนเขาไปวัดไหมในวันหยุด สวดมนต์กับเขาไหมตอนกลางคืน เคยถกแถลงธรรมกับเขาไหม สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันเป็นคำถามทั้งนั้น
ครูก็เหมือนกัน ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง ห้องสมุดโรงเรียนมีหนังสือไหม ทันสมัยไหม เด็กเขาอยากอ่านหรือเปล่า ในโรงเรียนสะอาดไหม สงบไหม หรือว่าจุ้นจ้าน
เด็กเกเรก็ไปเกเร เด็กที่เรียนหนังสือก็ไม่ได้เรียน ผมกับเพื่อนโตมาจากโรงเรียนบ้านนอก แล้วเราก็มาคิดย้อนหลังว่า ที่พวกเราได้ดีก็เพราะครู
ที่โรงเรียนบ้านนอกที่ผมเรียนมาตอนมัธยมต้น ครูท่านเป็นคนดุมาก ตอนเย็นหลังจากทานข้าวแล้ว ท่านจะมาเดินตรวจตลาด ถ้าเด็กคนไหนไม่อยู่บ้านเรียนหนังสือ พรุ่งนี้เช้าได้เรื่อง แล้วในโรงเรียนจะให้เด็กเกเรมาแกล้งคนโน้นคนนี้ไม่ได้ แกปรามหมดเลย เพราะฉะนั้นทุกคนได้เรียนเต็มที่ เรายังรู้สึกเป็นพระคุณเลย
สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้
: ที่บ้านและโรงเรียน
อันนี้แหละ คือ การสร้างวัฒนธรรมของการเรียนรู้ เราสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่บ้าน ที่โรงเรียนบ้างหรือเปล่า เราให้วัสดุความรู้ที่ถูกต้องเหมาะสม เราให้วัฒนธรรมกับลูกของเรา กับลูกศิษย์เราหรือเปล่า
เพราะฉะนั้น ที่ติดต่อผมมาพูดเรื่องการศึกษา ผมว่า มันแคบไป ถ้าพูดเรื่องการเรียนรู้มันกว้างกว่าเยอะ การศึกษาพูดไปมันก็มีอยู่เฉพาะในโรงเรียน แต่ถ้าพูดเรื่องการเรียนรู้มันทั้งชีวิตเรา
ถอดความจากหนังสือ ชื่อ "การเรียนรู้ที่แท้และพอเพียง" โดย "ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี"
โดยสรุป ทฤษฎีความรู้ไม่มีสอน มนุษย์สร้างความรู้ได้เอง นั้น ... มาจาก
บันทึกที่เกี่ยวข้อง
ท่านมีความคิดอย่างไรสามารถแสดงความคิดเห็นได้ในสิ่งที่ท่านคิดนะครับ
ผมขอขอบคุณท่านที่ติดตามอ่านจนจบเรื่องราวนี้ หวังเพียงว่า ถ้าทฤษฎีใช้ได้ดี แล้วครูนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์คงจะทำให้การศึกษาบ้านเราดีขึ้น
บุญรักษา ทุกท่าน :)
วันนี้ หากเราสามารถสอนนักศึกษาให้สามารถคิดต่อยอดความรู้ได้เอง สามารถสืบเสาะหาความรู้ได้ด้วยตนเอง ในแบบที่เรียกว่า เรียนรู้ตลอดชีวิต ถ้านักศึกษาทำได้ เราคงดีใจมาก
แต่ในปัจจุบัน แทบจะต้องป้อนความรู้ให้กับนักศึกษา บางคนป้อนให้ถึงปาก ยังไม่ยอมอ้าปากรับความรู้เลยคะ !
สวัสดีครับ คุณ (^---^) Ph.D. IT Student Blog (^---^)
ขอบคุณครับที่ให้เกียรติเป็นท่านแรกเลย :)
สวัสดีครับ ขออนุญาต ลปรร ด้วยครับ
ในเรื่องของการสร้างความรู้ได้เอง ตามทฤษฎีผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมากครับ
แต่แนวปฏิบัติสำหรับสังคมไทย คงต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ
เพราะเราอยู่ในบริบทของวัฒนธรรมอำนาจนิยมมาหลายชั่วอายุคนแล้วครับ
ขอบคุณครับ
ลงชื่อเยี่ยม...
เคยเห็นที่รถซาเล้งเก็ยเศษกระดาษขาย มีป้ายเล็กๆ ติดไว้ว่า...
เจริญพร
สวัสดีครับ ท่าน ผอ.วิชชา small man
ขอบคุณท่าน ผอ. มากครับ :)
นมัสการท่าน BM.chaiwut ครับ
กราบขอบพระคุณท่าน BM.chaiwut ครับ ;)