อนุทินล่าสุด


ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

แม่รอหนูอยู่นะ

14 พ.ย.56 ไลน์ครอบครัวเช้านี้

8.29 : "อยู่บนรถ 510 ไปดอนเมืองแว้ว.."  9.07 : "ถึงดอนเมืองแล้วจ้า"

เครื่องขึ้นประมาณ 11.00 อีก 1 ชม.ถัดไปก็จะได้กอดลูกแล้ว วันนี้ลงทุนหยุดงานเพื่อมารับลูกและพาไปทานแนมเหนืองที่ลูกอยากทานแต่หาทานที่ไหนก็ 'ไม่เหมือน' เมืองอุบลฯ

เกิดเป็นมนุษย์ มีความรู้สึกรักและผูกพันธ์แบบคนเป็นแม่นี่ก็ดีนะ ดิฉันเห็นผู้หญิง 'เก่ง-กร้าว' หลายคน ก้าวเข้าไปในเขตแดนใดสามารถทำให้ 'ราบ' เป็นหน้ากลอง ผู้คนรอบข้างต่างภาวนาว่าอย่าเข้ามาในเขตแดนฉัน! พอเธอแต่งงานมีลูกก็เปลี่ยนไป นุ่มนวล ใส่ใจคนรอบข้าง ยืดหยุ่นมากขึ้น พลังธรรมชาติของ 'แม่'

.. ดิฉันขอชักชวนสาวโสดทั้งหลาย มาร่วมด้วยช่วยกัน 'อารยขัดขืน' ไม่จ่ายภาษีคนโสดดีกว่า นะคะ.



ความเห็น (2)

สายใยแห่งความรักแนบแน่น ยินดีครับ

ผู้หญิงมักพ่ายแพ้กับคำว่า “ แม่ “ ทุกคนจ้ะ

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม.. ถนนคนเดิน ที่เชียงคาน (5)

28 ต.ค.56 ถนนคนเดินที่เชียงคาน - ทริปนี้ ขึ้นเขาลงเขาวันละหลายลูก ช่วยเบรคจนเดี้ยง เคล็ด-ระบบไปทั้งตัว นั่งนอนยืนเดินลำบาก ที่เลยค่ะ 'หมอนวดไทเลย' เพิ่งรู้ว่า .. ถูกเหยียบน่ะดียังไง!



ความเห็น (1)

อยากไปเยี่ยมชม สวยจริงๆ

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม.. ถนนคนเดิน ที่เชียงคาน (4)

27 ต.ค.56  ถนนคนเดินที่เชียงคาน มีบริการที่พักในบรรยากาศโบราณ นักท่องเที่ยวจะได้พักในบรรยากาศที่ตกแต่งแบบเชียงคาน พาไปเยือนสถานที่น่าสนใจของเชียงคาน ในภาพเป็นการนั่งล้อมวงรับประทานอาหารมื้อค่ำแบบเชียงคาน เรียกว่า 'กินโชว์' กันริมถนนคนเดินเลยเชียวละ ดิฉันไม่ได้ร่วมวงอาหารด้วยเพราะไม่ชอบกินข้าวริมถนน .. ชอบเดินกินบนถนนมากกว่า



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม.. ถนนคนเดิน ที่เชียงคาน (3)

27 ต.ค.56  ถนนคนเดินที่เชียงคาน นอกจากจะมีร้านจำหน่ายอาหารและสินค้าที่ตกแต่งอย่างสวยงามแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมการแสดง 'เปิดหมวก' ด้วย มีทั้งวงดนตรีไทยเดิม วงดนตรีสากลแบบเดี่ยว แบบคู่ แบบหมู่ ช่วยสร้างสีสันให้กับถนนคนเดิน ในภาพเป็นวงดนตรีของเด็กนักเรียน ใช้วิธีร้องตะโกนเป็นหลัก มีเครื่องดนตรีน้อยชิ้น นี่คือเหตุผลที่พวกเธอรวมตัวกันมาเปิดหมวก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม.. ถนนคนเดิน ที่เชียงคาน (2)

27 ต.ค.56  ถนนคนเดินที่เชียงคาน เขาพยายามอนุรักษ์ 'อัตลักษณ์ - เมืองโบราณริมแม่น้ำโขง' เอาไว้ให้ลูกหลาน แม้แต่ร้าน 7/11 ของที่นี่ยังตกแต่งแบบโบราณ ไม่ใช้สีเอกลักษณ์ของ 7/11  ในภาพเป็นธนาคารกรุงไทยที่ตกแต่งสไตล์เชียงคาน ใครใคร่กดเงินก็กด ใครใคร่ถ่ายภาพก็ถ่ายไป เป็นหลักฐานว่าเครื่องนี้ใช้งานจริง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม.. ถนนคนเดิน ที่เชียงคาน (1)

27 ต.ค.56  ถนนคนเดินที่เชียงคาน มีร้าน 'สองผัวเมีย' Thailand Boutique Hotel ที่มีอยู่ไม่เกิน 10 แห่งในประเทศไทย ชั้นบนจัดเป็นห้องพัก ชั้นล่างขายของที่ระลึกที่คัดเลือกมาแล้วว่ามีคลาส แต่ดิฉันไม่ได้อุดหนุนร้านนี้หรอก เพราะไม่มีตังค์



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

'ผีตาโขน' วัดโพนชัย

26 ต.ค.56 ดิฉันแวะมาทักทายพวกเธอเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้พวกเธอก็มายืนรอทักทายด้วยความยินดี ที่หน้าพิธภัณฑ์ผีตาโขน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

วัดพระธาตุศรีสองรัก

26 ต.ค.56 ที่วัดพระธาตุศรีสองรัก จ.เลย จากปัญหาสุขภาพ ทำให้ดิฉันต้องนั่งรอข้างล่าง ขณะทีลูกกับสามีขึ้นไปกราบพระด้านบน จึงมีโอกาสเห็นหนุ่มสาวคู่นี้ ..

ผู้หญิงใส่กางเกงสั้นมาก เธอได้ผ้าขาวม้าเก่าๆ มาพันต้วผืนหนึ่ง ขยับไปมาไม่แล้วเสียที ในขณะที่หนุ่มคนนียืนมองด้วยความห่วงใยอยู่ใกล้ๆ เมื่อจะขึ้นไปกราบพระด้านบน เธอก็มีปัญหาเรื่องถอดรองเท้าอีก หนุ่มก็เลยนั่งลงปลดกระดุมรองเท้าให้ .. ดิฉันเล่าเรื่องนี้ให้ลูกสาวฟัง .. เธอเลิกคิ้วถาม "มีด้วย?"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

ความอุดมสมบูรณ์ของป่าบนภูทับเบิก

26 ต.ค.56 ที่หมู่บ้านชาวเขาบนภูทับเบิก ระหว่างเดินชมหมู่บ้าน พูดคุยทักทายกับชาวเขาในพื้นที่ เราเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งเมื่อปีก่อนเธออายุ 10 เดือน แม่ใช้ผ้าผูกเธอไว้แนบอกขณะขายของชำอยู่หน้าร้าน เรารู้สึกถึงภาระเมื่อเธอบอกว่าต้องแบกลูกไว้ตลอดเวลา ปีนี้ตัวน้อยอายุ 1 ปี 10 เดือน ลงนั่งผิงไฟอยู่ในร้านได้แล้ว ไม่ต้องแบกอีก เฮ้อ!.. แน่ใจนะว่าจะไม่มีตัวใหม่มาให้แบกต่อ..

ในภาพเป็นวิถีชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าบนยอดภู ในส่วนหมู่บ้านชาวเขา บ้านสวยๆ เป็นบ้านรับรองนักท่องเที่ยว กิจการที่ชาวเขาทำเอง ยังไม่เสร็จค่ะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

ความแตกต่างที่ลงตัว

26 ต.ค.56 บนภูทับเบิก ร้านกาแฟร้านนี้บรรยากาศดีมาก เราได้ดื่มกาแฟฝีมือ 'ชาวเขา' ในขณะที่ฟัง 'เพลงแจ๊ส' เปิดจากลำโพง 2 ตัว 2 ทิศทางตรงข้ามกัน ที่ไม่ใช่เพลงเดียวกัน .. แน่ะ! ยังมีสิทธิ์เลือกอีกด้วย  

ราคาเครื่องดื่มร้อน 50 เครื่องดื่มเย็น 60 ขนมปังทาเนยหรือนม 15 ชาเขียวร้อนๆ ฟรีไม่คิดตังค์กี่กาก็ได้..



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

ฟ้าใสที่.. ภูทับบิก

26 ต.ค.56 ภูทับเบิกเช้านี้ฟ้าใส สวยมาก นักท่องเที่ยวครึกครื้นเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ กบได้ฝน หลังจากมืดครึ้มมา 2 วันเต็มๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

หมอกลงจัดที่ภูทับเบิก

25 ต.ค.56 ภาพถ่ายหน้าห้องพัก รถที่เห็นจอดห่างจากจุดถ่ายภาพ(หน้าประตู)เพียง 2 เมตร แจ้งเตือนเพื่อนๆ หากไม่อยากอยู่ในสภาพ 'เมืองในหมอก' อย่าเพิ่งขึ้นมานะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

ภูทับเบิก-เมื่อยามหมอกลงจัด

25 ต.ค.56 ทางขึ้นภูทับเบิก เราตรงไปหมู่บ้านชาวเขาบนยอดภู สภาพอากาศหมอกลงจัด ขับรถด้วยความยากลำบาก เพราะมองเห็นทางแค่ระยะ 20-30 เมตรตลอดเส้นทาง  คนในพื้นที่บอกว่าเพิ่ง "เป็นแบบนี้" มา 2 วัน วันนี้หมอกลงจัดกว่าเมื่อวาน เราจึงวางแผนว่าหากหมอกจาง พอมองเห็นทาง เราจะรีบลงจากเขาทันที พร้อมส่งภาพให้เพื่อนๆ ดูเป็นหลักฐานว่าใครที่ 'กำลังจะมา' อย่าเพิ่งมาในตอนนี้เด้อ!

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

ไม่ได้ชื่นชม-จุดชมวิวเขาค้อ

25 ต.ค.56 เช้านี้ รอจนเวลา 9.00 น. ยังถ่ายรูปไม่ได้เพราะมีหมอกหนาจัดปกคลุมไปทั้งเมือง จุดชมวิวเขาค้อที่เราอยู่มีหมอกหนาที่สุด ไม่มีภาพสวยๆ มาฝาก.. ดูภาพหมูแก่ๆ ไปก่อนละกัน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

จุดชมวิวหลังพระตำหนักเขาค้อ

24 ต.ค.56 ณ จุดชมวิวหลังพระตำหนักเขาค้อ ภาพถ่ายช่วงเวลา 16.00-17-00 น. หมอกลงจัดอย่างที่เห็นค่ะ คืนนี้วางแผน 'จอบ' หรือเฝ้าดูอยู่ที่จุดชมวิว มีแนวโน้มจะโชคดี เพราะคนในพื้นที่บอกว่าวันนี้เป็นวันแรกที่มีหมอกในเทศกาลหนาว'56



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

จุดชมวิวเขาค้อ

24 ต.ค.56 ที่จุดชมวิวเขาค้อ เพิ่งบ่ายสามโมงกว่า ชมอะไรไม่ได้สักอย่าง เอาเป็นว่ามองเห็นหน้าลูกกับสามีที่ไปด้วยก็ดีแล้ว เพราะกลายเป็นเมืองในหมอก ขับรถออกมาจากจุดชมวิว วิ่งรถได้เพียง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลยออกมาหน่อยค่อยหายอึดอัด สงสัยว่าวันรุ่งขึ้นอาจต้องออกมาถ่ายภาพสวยๆ นอกจุดชมวิวซะแล้ว..



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

ที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

24 ต.ค.56 ที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว มื้อเช้าก่อนออกเดินทางต่อ ที่ 'ร้านป้าแดง' ประทับใจไอเดียป้องกันแมลงวันตอมปากเหยือกน้ำปลาพริกของที่นี่ ทำง่ายๆ โดยตัดส่วนบนของขวดน้ำมาครอบไว้  CQI แบบสัญชาตญาณห่วงใยลูกค้า อย่างว่าละ ก็เธอบริการด้วยหัวใจนี่นา..



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

เมื่อ 23 ต.ค.56 ที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตอนค่ำ ดิฉัน สามี และ 'น้องอาย' ลูกสาวคนเล็กที่กำลังเรียน ป.โท (จำเป็นต้องให้ข้อมูลนี้เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะเล่าต่อ) ไปจ่ายค่าธรรมเนียมกางเต๊นท์ เจ้าหน้าที่อุทยานเหลือบมอง 'น้องอาย' พร้อมกับแนะนำว่า "อายุไม่ถึง 15 ไม่ต้องจ่ายครับ" แล้วเงยหน้าสบตาดิฉัน พร้อมกับพูดไปเรื่อยๆ ว่า "อายุเกิน 60 ก็ไม่ต้องจ่ายครับ" ฮา..

อย่าซีเรียสนะคะ ตัดเอามาเขียนเล่าตลกๆ พอให้ได้อมยิ้มกันบ้าง! 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

20 ต.ค.56

เลือกตั้งกรรมการสภาการพยาบาล ใช้เงินเท่าไร!

ช่วงนี้อยู่ในเทศกาลออกพรรษา และยังเป็นเทศกาลเลือกตั้ง อบต.ในเขตพื้นที่อีสานหลายพื้นที่อีกด้วย ดิฉันจึงมีโอกาสสัมผัสความสามารถของคนอีสานในการบูรณาการกิจกรรมของทั้งสองเทศกาลเข้าด้วยกันลักษณะ 'บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น' กันเลยทีเดียว 

"เลือกตั้ง อบต.หรือ ได้หลายละซิ" "ไม่หรอก พี่น้องกัน" "ไม่ต้องใช้เงินแล้วเหรอ ก็ลงเองเลยซิ" "ไม่ไหวหรอกหมดหลายนะ.. หลายล้าน" ...

แล้วก็ .. ในช่วงเดียวกันนี้ ดิฉันลงสมัครับเลือกตั้งคณะกรรมการสภาการพยาบาล วาระ 57-61 ช่วงนี้อยู่ระหว่างการจัดส่งบัตรเลือกตั้งให้สมาชิกทั่วประเทศ  ได้ลงคะแนนไปแล้วหลายจังหวัด แต่ที่อุบลฯ ที่ดิฉันทำงานอยู่ยังไม่ได้บัตร

บอกชาวบ้านชุมชนที่ดิฉันผูกพันด้วยเสียหน่อยดีกว่า ถ้ามีอะไรต้องกังวลก็พูดๆ ไปเถอะ มันจะ.. ส่วง สบายยังไงไม่ทราบ เอาเป็นว่าดิฉันได้บอกให้ชาวบ้านทราบความเคลื่อนไหวว่ากำลังคิดการใหญ่ ชาวบ้านก็เป็นห่วง กังวลไปด้วย "หมอจะได้ไหม" "อาจจะ" "ใครเลือก" "ก็ พยาบาลทั่วประเทศ" "โอ้โห! ต้องใช้เงินเท่าไรนี่!" 

ดิฉันพลอยตกใจกับเสียงตกใจของชาวบ้านไปด้วย เธอคงเปรียบเทียบว่าขนาดเลือก อบต.เล็กๆ ยังหมดเงินถึง 7 หลัก นี่เลือกตั้งทั่วประเทศคงยิ่งใหญ่เทียบเท่า สส. หรือ สว.เลยกระมัง! ดิฉันได้โอกาสก็เลยสอนว่า .. "พยาบาลน่ะ เขาเรียนหนังสือมาเยอะ เขาใช้วิจารณญาณของตัวเองได้ เงินซื้อเขาไม่ได้หรอก"

ดิฉัน 'พูดถูก' ใช่ไหมคะ.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

1 ต.ค.56

"เมื่อฝนยังตกไม่ทั่วฟ้า!"

จากอนุทิน 22 ก.ย.56 เมื่อ "สิทธิ" "จริยธรรม" ยังเข้ากันไม่ได้ เป็นสาเหตุให้ 'เด็กน้อยเชื้อสายเขมรหลบหนีเข้าเมือง' ตามแนวชายแดน ไม่ได้รับสิทธิในการรักษาอย่างเท่าเทียมกับเด็กไทย แม้เขาเหล่านั้นจะมี 'คุณลักษณะของคน' เทียบเท่าก็ตาม 

วันนี้ดิฉันได้รับข่าวดีจากไลน์ครอบครัวว่า เด็กน้อยที่ลูกสาวดิฉันเปรียบเทียบว่าเหมือน 'ไก่ย่าง' ตัวหนึ่ง เอ้ย! คนหนึ่ง ได้รับการดูแลจนอ้วนแข็งแรงดี ถูกส่งเข้ากรุงเทพฯ แล้วตั้งแต่เช้า เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อ โดยลูกสาวดิฉันตามไปดูแลบนรถพยาบาลขณะนำส่งอีกด้วย "ทำไมต้องไปส่งเอง แล้วคนไข้ที่เหลือใครจะดูแล?" "ไม่ไปไม่ได้หรอกแม่ เพราะไก่ย่างอาจตายได้ทุกเมื่อ"  "ยังไงก็ยังมีคุณธรรมนะ" "ไม่ใช่หรอก ตัวนี้เด็กไหย"

เออหนอ .. เกิดเป็นคนไทยก็ยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง เพียงแต่ยังไม่มากพอจะเอื้อเฟื้อแบ่งปันกับผู้ที่ด้อยกว่าได้มากนัก ก็เท่านั้นเอง ใช่ไหมคะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

29 ก.ย.56

ใครใหญ่ใครอยู่

ดิฉันเพิ่งเขียนบันทึก '(55) หรือ.. ระบบกำลังจะเปลี่ยนไป' เสร็จ รู้สึกยังไม่ส่วง ภาษาดิฉันเองค่ะ แปลว่ายังไม่แล้วใจ ยังคาค้างใจ คงต้องระบายออกมา ไม่เช่นนั้นจะทำงานตรงหน้าไม่ได้ เหตุเกิดเมื่อดิฉันอุตริตั้งคำถามกับคนบางคน คำถามละคนนะคะ มีดังนี้

     "ถ้าเธอเห็นว่าหัวหน้าหรือผู้ร่วมงานทำบางอย่างที่ไม่ถูกต้องนัก เธอจะทำอย่างไร" คำตอบ : เรื่องของหัวหน้า หนูเป็นลูกน้องไม่รู้หรอก คนอื่นก็ช่างเขา

     "ถ้าเธอได้รับคำสั่งจากหัวหน้าให้ทำบางอย่าง ซึ่งรู้ๆ กันว่าไม่ถูกต้อง เธอจะทำอย่างไร" คำตอบ : ทำตามที่หัวหน้าสั่ง ยังไงเราก็เป็นลูกน้องเขา

     "ถ้าเธอถูกคนอื่นเอาเปรียบ ให้ร้าย ฯลฯ เธอจะทำอย่างไร" คำตอบ : ไม่ต้องทำอะไร

นี่มันสังคมอารยะ ประชาธิปไตย หรือใครใหญ่ใครอยู่กันฟะ! 



ความเห็น (1)

ตามมาจากบันทึกค่ะ น่าหนักใจจริงๆ ค่ะ เป็นดิฉันจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ว่าใครจะใช้ ถึงจะรู้ว่าเราจะเจ็บตัวแน่ถ้าไม่ทำ

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

24 ก.ย.56

 

ไม้ในกระถาง

 

หลังจากเขียนอนุทิน "สะสมกำลังภายใน" เมื่อ 20 ก.ย.56 แล้ว ดิฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก เข้าใจนะคะว่าไม่มีพื้นที่ใดในแผ่นดินนี้ที่มีความยุติธรรมร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ควรอยุติธรรมทั้งระบบ กรณีดังกล่าวจะมีผลต่อศักดิ์ศรีวิชาชีพพยาบาลโดยตรง

 

อย่าว่าดิฉันปากร้ายเลยนะคะ ที่ผ่านมา เคยถามพี่น้องเพื่อนฝูงวิชาชีพพยาบาลหลายท่านว่ารู้จักผู้รู้ (Guru) ด้านสุขภาพบางท่านหรือไม่ อย่างเช่น นพ.วิจารณ์ พานิช นพ.ประเวศ วะสี นพ.สกล สิงหะ หรือแม้กระทั่งกุรูด้านการพยาบาลอีกหลายท่าน ไม่มีใครรู้จัก ดิฉันได้อ่านบทความที่ให้ข้อคิดดีๆ รวมทั้งที่มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบางท่านโดยตรง ตั้งใจจะมาเล่าสู่กันฟัง ก็เลย.. เก้อ เมื่อถูกถามกลับว่า "ถามทำไมเหรอ" "เปล่า ไม่มีอะไร ไม่รู้ทำไมจึงนึกถึง" 

 

ดิฉันอยากเตือนสติวิชาชีพเดียวกันนะคะ ด้วยบทความของ ดร.เสรี พงศ์พิศ เรื่อง พึ่งตนเองไม่ได้เหมือนไม้ในกระถาง (สยามรัฐรายวัน 7 พ.ค. 2552)

 

     ในอดีต ปู่ย่าตาทวดของเรามีชีวิตอยู่โดยพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ

     พึ่งพาอาศัยญาติพี่น้อง พึ่งพาอาศัยชุมชน โดยพึ่งพาอาศัยรัฐน้อยกว่าวันนี้มาก

     และยิ่งถอยหลังไปในอดีตมากเพียงใดก็ยิ่งพบว่า บรรพบุรุษของเรามีชีวิตอยู่แบบ

     “พึ่งตนเอง” 

 

     เทียบ “วันนั้น” กับ “วันนี้” เทียบปู่ย่าตาทวดกับลูกหลานวันนี้น่าจะเหมือน

     ไม้ในป่ากับไม้ในกระถาง ไม้ในป่ามีรากมีเหง้า อยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน

     วันนี้ผู้คนเหมือนไม้ในกระถาง มีรากแต่ไม่มีเหง้า พึ่งตนเองไม่ได้ ต้องพึ่ง

     “คนอื่น” หมด เขารดก็สดชื่น เขาไม่รดก็เหี่ยวเฉา

 

     คนวันนี้ได้ผลผลิตมาก็วิ่งไปหาพ่อค้านายทุน ขอร้องให้เขาซื้อ การศึกษาก็วิ่งไป

     หาครูเพราะเรียนรู้ไม่เป็น นึกว่าต้องไปโรงเรียนและมีผู้สอนเท่านั้น สุขภาพก็วิ่งไป

     หาหมอ เพราะเข้าใจว่าสุขภาพแปลว่ามดหมอหยูกยา ทรัพยากรก็วิ่งไปหาข้าราชการ

     ให้เขากำหนดว่าตรงไหนเป็นป่า ตรงไหนเป็นน้ำ ตรงไหนเป็นหลวง เขาขีดวง

     ตรงไหนก็เอาตามนั้น

 

     ฝากชีวิตไว้กับนักการเมือง เป็นลูกน้อง หัวคะแนน เพราะต้องพึ่งเขาในยามยาก

     มีปัญหาอะไรจะได้วิ่งไปหา โดนใครข่มเหงรักแกจะได้มีผู้ปกป้อง โดยไม่รู้หรือไม่คิด

     ว่าคนที่ปกป้องตนเองนั้นเป็นมาเฟียมากกว่าคนที่ตนเองกลัวเสียอีก

 

...สำหรับวิชาชีพที่รักของเรา หากท่านเป็นไม้ในกระถางของนักการเมือง .. ฝึกคิดเองตามระดับสติปัญญาของท่านนะคะ วิชาชีพพยาบาลฝากไว้กับทุกท่านแล้วค่ะ

 

วันนี้ อยากได้ยินว่า.. "วันนั้นพูดเล่น"  

 

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ อนุทินนี้เขียนถึงวิชาชีพเดียวกันบางกลุ่ม เป็นส่วนน้อย ที่ต้องรีบทักท้วงกันในวิชาชีพเดียวกันนะคะ คนส่วนใหญ่อย่าได้น้อยใจ



ความเห็น (2)

คนบางคนชอบเป็นไม้ในกระถาง แต่สำหรับดิฉันชิงชังค่ะ

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

24 ก.ย.56

หยั่งรากสร้างเหง้า ..ที่บ้านปะอาว

วันนี้มีงานขึ้นบ้านใหม่ของผู้นำท่านหนึ่งที่ "บ้านปะอาว" ชุมชนที่ดิฉันเข้าไปผูกพันด้วย  วานนี้ วันสุกดิบหรือวันเตรียมงาน หลังเวลา 18.30 น. เมื่อเราสองสามีภรรยาไปถึงบ้านงาน พบผู้เฒ่าผู้แก่สิบกว่าคนกำลังนั่งล้อมวงอยู่กลางบ้าน มีพานบายศรี 3 ชั้น ตกแต่งสวยงามตั้งอยู่กลางวง เมื่อเห็นหน้าเรากลุ่มผู้เฒ่าต่างร้องยินดี "คุณหมอมาแล้วๆ" "มาเข้ามา จะสู่ขวัญให้"  ดิฉันกับสามีรู้สึกงงๆ ระคนยินดีที่ชุมชนรับเราสองคนเข้าไว้ในอ้อมกอดเรียบร้อย(นาน)แล้ว รีบเข้าไปนั่งกลางวงทันที สักพักหนึ่ง 'หมอขวัญ' กับผู้เฒ่าอีกกลุ่มหนึ่งก็ตามมาสมทบ เริ่มพิธีได้..หลังจากรอ 'คนสำคัญ' นานนับชั่วโมง

สำหรับที่นี่ ในพิธีขึ้นบ้านใหม่ จะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญเจ้าของบ้านและบุคคลในบ้านทุกคน ใครไม่อยู่ในช่วงนั้นก็จะนำเสื้อผ้าหรือของใช้ส่วนตัวมาวางข้างพานบายศรี เพื่อเข้าพิธีแทนเจ้าตัว เข้าใจหรือยังคะ.. เหตุใดดิฉันจึงรู้สึกผูกพันกันชุมชนแห่งนี้ เป็นเพราะความรู้สึกดีๆ ที่ไม่เคยได้รับจากที่ใดมาก่อนในชีวิต



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

22 ก.ย.56

ความใฝ่ฝันของ ด.ญ. คนหนึ่ง

ช่วงนี้มีแต่คนพูดเรื่องความ(ใฝ่)ฝัน ใครๆ ก็อยากสานฝันของตน แม้ความฝันน้้นจะผ่านมานานแสนแล้วก็ตาม

ดิฉันร้องถามสามีว่า "คุณมีความฝันอะไร?" .. ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ หลับไปแล้วค่ะ  หันกลับมาถามตัวเองบ้าง ได้คำตอบว่า "กระติกน้ำใบใหญ่ๆ ใบเดียว" เอาแบบว่า.. มีฝาปิดด้วยนะ ซื้อน้ำแข็ง 1 บาท ใส่น้ำดื่มได้ตลอดวัน!

 

บัดนี้ดิฉันตอบสนองตนเองได้มากกว่าฝัน ทำไมรู้สึกว่ายังอีกไกล .. หรือมันยังไม่ใช่คำตอบ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ดารนี ชัยอิทธิพร
เขียนเมื่อ

22 ก.ย.56

เมื่อ "สิทธิ"-"จริยธรรม" ยังเข้ากันไม่ได้

เหตุเกิดเมื่อลูกสาวโอดครวญมาทางสายโทรศัพท์ 

"แม่ .. เด็กที่นี่น่าสงสารนะ ไม่น่ารักเลย น้ำหนักแค่ 1,300 กรัมเอง ดูเหมือนไก่ย่างมากกว่าคน"  ก็ปลอบใจลูกไปว่าให้รักษาเขาไปตามวิชาชีพนั่นแหละ ที่เหลือก็คิดว่าเป็นเวรกรรมของเขา "มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก รพ.ไม่มีเงิน หมอคนไหนรักษาเต็มที่กับพวกเขมรหลบหนีเข้าเมือง จะถูกจัดการ" "เงินจะรักษาคนไทยด้วยกันยังไม่มี" 

ดิฉันเพิ่งไปดูภาพยนตร์เรื่อง 'อิลิเซียม' มา เพิ่งรู้ว่าสร้างโดยมีแนวคิดจากปัญหาจริงที่บ้านเรานี่เอง!



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท