อนุทินล่าสุด


แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

12/11/2018การสอนในเช้าวันนี้ เป็นกิจกรรมแบบกาาเรียนเชิงปฏิบัติการ กล่าวคือ เรามอบหมายให้นิสิต ไปคิดนโยบายเพื่อการเปลี่ยนแปลง มาแลกเปลี่ยนกันในห้องเรียน กิจกรรมนี้เรามุ่งหวังให้นิสิตได้ใช้ความคิด จินตนาการและประสบการณ์เชิงสร้างสรรค์ ในการผลิตสร้างนโยบายเพื่อการเปลี่ยนแปลงอันจะส่งผลดีต่อส่วนรวม ทั้งในระดับชุมชนและสังคมวงกว้างนิสิตกลุ่มเช้าเป็นนิสิตกลุ่มฝึกหัดครู สายวิชาเอกทางศิลปกรรม ทั้งดนตรีไทย สากล ศิลปะและนาฏศิลป์ น่าที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงพอสมควร



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

ผมรู้สึกต้องซุกซ่อนสิ่งดีๆที่ตัวเองได้รับอยู่เสมอๆ นั่นอาจเป็นเพราะ ผมสะท้อนตัวเองว่า การได้รับการยกย่อง ให้ได้รับรางวัลใดๆ มักเป็นสิ่งที่ควรเก็บไว้เงียบๆ การเก็บเรื่องดีๆในชีวิตตัวเองไว้เป็นเรื่องเงียบ มันได้กลับมาทำให้ผมลืมความดีงามของตัวเอง  คุณธรรมของการเจียมตนถ่อมตัว ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนกระจอก ไม่ภูมิใจในตนเอง ลืมความดีที่ตนทำ ลืมรางวัลในชีวิตตัวเองจนหมด 

ผมเปิดเว็บเล่นไปเล่นมา เจอคนที่เคยได้รางวัลนักเรียนดีเด่น หลายต่อหลายคน แสดงความภาคภูมิใจในเกียรติยศอันสูงสุดในชีวิต แต่เกียรติยซเดียวกันนี้ผมกลับซุกซ่อนไว้ เพราะเกรงว่าถ้าเล่าให้ใครฟังจะกลายเป็นการอวดตัว ล่วงล้ำคุณธรรมแห่งการถ่อมตน

ปีการศึกษา2536ผมได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ทรงพระราชทานรางวัลนักเรียนดีเด่น รางวัลพระราชทาน มัธยมศึกษาตอนปลายขนาดกลาง ขณะที่ยังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 จากวันนั้นเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย ผมแทบไม่เคยบอกใคร และยิ่งวันเวลาผ่านไป ผมเกือบลืม เกียรติยศที่ทรงพระราชทานอันสูงสุดแก่วงศ์ตระกูลนี้ 

ผมอยากใช้โอกาสนี้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กราบขอบพระคุณ คุณพ่อคุณแม่คุณครูอาจารย์ที่สั่งสอนขัดเกลาผมจนได้รับเกียรติอันสูงสุดนี้ 



ความเห็น (1)

ยินดีด้วยค่ะ การทำดี จนถูกยกย่อง จะทำให้เรามีกำลังใจทำดีตลอดไปค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เรามีไฟฟ้า มีรายการโทรทัศน์ มีแอร์คอนดิชั่น มีโทรศัพท์ที่ย่อเอาโลกมาไว้ในมือ มีคอมพิวเตอร์ให้ทำงานซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องใช้พลังงานอย่างมาก พลังงานจากฟอสซิลและพลังน้ำจากเขื่อนถูกนำมาผลิตเป็นไฟฟ้าและน้ำมันเราอาจเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้แหล่งพลังงานสะสมนับล้านปีหมดได้ภายในไม่กี่สิบปี โดยเราต้องจ่ายสนนราคาเพื่อความสะดวกสะบายและความบันเทิง ลำพังค่าไฟ สำหรับบ้านที่ผมอยู่ก็เฉลี่ยตกเดือนละ 1500 บาทหรือปีละ 18000 บาท สำหรับคนจนเมือง หมื่นแปดพันบาทก็แค่หมื่นแปดพันบาท แต่สำหรับนักวิเคราะห์เศรษฐกิจอย่างคาร์ลมาร์กซ์ คงจะบอกเราวา ค่าไฟของครอบครัวเจ้าหนึ่งปี มีค่าเท่ากับพลังแรงงานทั้งหมดที่ใช้ผลิตทองคำน้ำหนัก 15.2 กรัม หรือ 1 บาท มาร์กซ์ ก็คงนับตั้งแต่การขุดทอง หลอมทอง มาจนถึงการทำให้เป็นรูปทรงที่สวยงาม การพัฒนาจึงตามมาด้วยการบั่นทอนและฟุ่มเฟือยนานัปการ

กลับมานึกถึงคำกล่าวที่ว่า นอนตื่นสายเป็นสิ่งไม่ดี อันนี้ ผมก็เห็นว่าเมื่อสังคมแวดล้อมอีกทั้งอาชีพการงานเปลี่ยนไป การตื่นเช้าก้ไม่ได้หมายความว่าจะได้ทำงานเสมอไป ดูอย่างผมเป็นต้น ผมตื่นเช้า แม้ไม่ทิ้งตัวลงบนที่นอนอันอ่อนนุ่มเพื่อหลับต่อ ผมก็ใช้เวลาโต๋เต๋สัพเพเหระ กว่าจะได้ลงมือทำงานจริง ๆ ก็สายบ่ายแก่ พูดก็พูด ตั้งแต่เริ่มทำงานมาผมยังไม่ค่อยได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่กับการทำงานซักที ไม่ใช่เพราะอินดี้ว่าจะทำงานไปทำไม แต่เพราะความไม่รับผิดชอบมากกว่า คือขี้เกียจและมาเอาตัวรอดในเวลาใกล้ ๆ จะต้องถึงกำหนดส่งทุกที วันนี้ตื่นนอนมาราวตีสี่ ยังไม่เริ่มงานเลย ทั้งที่ตั้งใจตื่นมาทำงาน ใช่แล้ว ปั่นต้นฉบับงานวิจัย ที่เลยกำหนดส่งมากว่า 1 เดือนแล้ว ......



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

อันที่จริงก็เป็นคนตื่นเช้า ตื่นเช้าได้อย่างสบาย ๆ ตื่นเช้าทุกวัน ตื่นเช้ามานานแล้ว เดี๋ยวนี้ราวตีสามครึ่งถึงตีสี่ นาฬิกาชีวภาพก็ทำงาน เสียก็แต่ว่าความขี้เกียจทำให้เดินกลับมาทิ้งตัวลงบนที่นอนอ่อนนุ่มในห้องนอนที่ยังเย็นฉ่ำด้วยอากาศที่ถูกปรับอุณหภูมิ การตื่นเช้าเป็นสิ่งดี เป็นคุณธรรมที่ถูกพร่ำสอนมาจากรุ่นปู่ย่าตายาย ทำให้คนนอนตื่นสายดูจะเป็นคนขี้เกียจ เพราะเมื่อก่อนทุกคนต้องตื่นมาหุงหาอาหาร เพื่อเตรียมตัวไปทำไร่ไถนาหรือค้าขาย กระนั้นการพูดว่าให้ตื่นเช้าอย่างเดียวก็ดูเหมือนคนสมัยก่อนจะตื่นเร็วมากแม่เล่าให้ฟังว่า สมัยที่ต้องหาบของไปขายตลาดภาชีกัน ตีสามทุกคนจะตื่นหุงหาข้าวปลาแล้วส่วนของที่เตรียมไว้ใส่หาบตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น ก็พร้อมเอาขึ้นบ่า เดินลัดทุ่งเป็นทิวแถวกันไปสู่ตลาดภาชีตลาดใหญ่ที่เป็นชุมทางการรถไฟ แต่การตื่นเช้าไม่ได้ทำให้คนสมัยก่อนพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะแม่เล่าว่า การตื่นตีสามได้ก็เพราะสมัยก่อนชาวบ้านเขากินข้ากันตั้งแต่ใกล้ ๆ 6 โมงเย็น กินแล้วเป็นอันว่าจบกันเพราะหลังจากมื้อเย็นฟ้าจะมืด มีแต่แสงตะเกียงรำไร ใครที่ยังเตรียมข้าวของสำหรับไปทำมาหากิน ทำไร่ทำนา หรือทำมาค้าขายไม่เสร็จก็มีเวลาอีก สองชั่วโมงที่จะเตรียมตัว ไม่เกินสองทุ่มทุกคนก็กางมุ้งนอนหลับพักผ่อนกัน ถ้านับกันว่านอนสองทุ่ม ตื่น ตีสาม ก็แสดงว่าเขาสามารถพักผ่อนกันได้ถึง 7-8 ชั่วโมงทีเดียวซึ่งแน่นอนว่าเป็นเวลาที่พอเพียงโดยเฉลี่ยสำหรับคนทั่วไป วิถีคนสมัยก่อนที่ไม่มีไฟฟ้า กลางวันจึงทำงาน ทำอย่างมาก ทำเพื่อให้แล้วเสร็จทันแสงสว่างที่มีเวลาจำกัดเพียง 12 ชั่วโมง และเวลาค่ำคืนเป็นเวลาที่ต้องพักผ่อนแม้จะไม่อยากพักผ่อนก็ตามที เพราะไม่มีแสงสว่างใดแล้วส่วนการใช้ไต้ เทียนหรือตะเกียงนอกจากจะไม่สว่างเพียงพอต่อการทำงาน ยังมีเงื่อนไขของการหายากและราคาแพงเป็นความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

แต่ละวันที่ผ่านไปเหมือนมันง่ายนะ แต่จริงแล้วมันไม่ง่ายเลย หลายวันหรืออาจเป็นเดือนที่ผ่านมา มัวปล่อยเวลาให้ล่วงเลย ใช้เวลา่ส่วนใหญ่กับโลกออนไลน์ อารมณ์เสียไปกับความขึ้น-ลงของคน และจิตใจของตนเอง แม้จะกลับมาเริ่มเขียนอนุทินเพื่อสำรวจตนเอง และ confess กับตนเอง เพื่อการปรับปรุงตัวให้ดียิ่งขึ้น มารก็ยังทะลุทะลวงเข้ามาก่อกวนจิตใจให้คลอนแคลนในเป้าหมาย ที่คิดวาดเอาไว้ 

สองปีที่แล้ว ตัดสินใจละทิ้งความมั่นคงเหมือนยามชายฝั่งที่นั่งนอนสุขสบายบนรประภาคาร มาสู่หนทางใหม่คือลงมาในเรือลำใหญ่ที่ล่องลำอยู่ในทะเลกว้าง ทั้งเป็นความท้าทายส่วนตัวและเป็นความหลงใหลที่มีต่องานนี้อย่างลึกซึ้งมานับแต่ปี 2541 เป็นอย่างน้อย แต่ละวันมันก็มีปัญหาเข้ามาให้แก้ไม่ได้ขาดนับแต่ตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางนี้ กว่าจะได้มาจริง ๆ ก็เป็นเวลาเกือบปี และเมื่อมาอยู่ที่นี่ปีกว่า ยิ่งรู้สถานะว่า เรามีภาระสำคัญที่จะต้องทำ มันพูดตรงนี้ก็ยาก แต่เรือที่เขาทิ้งกันหมดแล้ว มีรอยรั่ว ไม้กระดานผุ พายก็กร่อน จะต้องโต้คลื่นไปตามแรงลมกลางทะเลที่เวิ้งว้าง กับลูกเรืออีก8-9 คน ที่หวังจะไปถึงฝั่ง เราไม่อาจถีบใครลงจากเรือลำนี้ได้เว้นแต่ลูกเรือจะท้อใจแล้วกระโดดหนีไปตายเอาดาบหน้าเอง  ปัญหามีให้แก้รายวัน ประสบการณ์ในการควบคุมเรือลำใหญ้่ ที่มีอายุมากกว่า 43 ปีลำนี้ กลางทะเลและคลื่นลม 

ผมกำลังเอื้อมมือไปจับหางเสือบังคับเรือด้วยมือที่สั่นเทาเพราะความกลัวและกังวล ทั้งที่เคยต้องบังคับเรือลำหนีมาหลายหนในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา กระแสคลื่นลมแรงขนาดนี้กับสภาพเก่าแก่ของลำเรือ ผมไม่รู้จะพามันฝ่าคลื่นไปได้อย่างไร แต่ผมก็ต้องทำเพราะผมรักเรือลำนี้ ผมรักเรือลำนี้มาก ผมอยากบอกลูกเรือที่อยู่ในเรือลำนี้ว่า เราจะพาพวกเธอไปถึงฝั่ง ฝั่งของทุกคน จะไม่มีสักคนเดียวที่ถูกถีบลงจากเรือ มากกว่านั้น ผมนี่หล่ะ จะปะพุ เคาะพ่นสี ซ่อมบำรุงเรือลำนี้ใหม่ ให้เป็นเรือที่ยิ่งใหญ่ มั่นคงและเป้นที่พึ่งของผู้คนต่อไปตราบนานเท่านาน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

คงเป็นเรื่องจริงที่ใคร ๆเขาบอกว่า เมื่อายุเพิ่มมากขึ้นความคิดจะเปลี่ยน สัปดาห์ที่แล้ว ผมเอื่อยเฉื่อยกับตัวเองมาตลอดสัปดาห์ แม้กระทั่งมีงานสอนในวันเสาร์ ก็ขี้เกียจอย่างมากที่จะไปสอน พอดีพายะฝนเช้ามืดวันเสาร์ทำให้ความขี้เกียจสำเร็จผล กล่าวคือ นิสิตโทรมาของด เนื่องจากไม่มีสักคนเดียวที่เดินทางได้ถึงมหาวิทยาลัย เพราะน้ำท่วมถนน55 สายทั่ว กทม. 

ความขี้เกียจที่ดำเนินมา 1 สัปดาห์ กลับทำให้ผมรู้คุณค่าของเวลาทุกนาที ที่เรามักจะเสียไปกับการนอนอ้อยอิ่งบนเตียงนุ่มในห้องแอร์ที่แสนสุขสบาย มันทำให้ผมได้ใช้เวลาทบทวนอยู่กับตนเองว่าเราจะเดินไปข้างหน้าต่อไปอย่างไร อะไรคือเป้าหมายในชีวิต คุณค่าใดที่เราจะส่งมอบให้กับโลกใบนี้ ผมตื่นลืมตามาในวันนี้ด้วยความมุ่งมั่นว่าจะเปลี่ยนตัวเอง ผมเสพข่าวสารเลวร้ายมากเกินไปภายใต้ความเชื่อว่าเราคือคนทันโลกทันเหตุการณ์ ผมรู้มากรู้เยอะรู้ไปทุกเรื่องและยุ่งไปทุกเรื่องทั้งที่เรื่องบางเรื่องไม่ได้กระทบหรือเดือดร้อนอะไรแก่เรา กับข่าวร้าย ๆที่แพร่กระจายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสื่อที่มีมากมายหลายช่องเต็มไปหมด ผมเสพแล้วเอามาปรุงแต่ง เป็นความรัก ความเกลียดชัง ความปลื้มใจ ข่าวที่ใครบางคนขึ้นรถกระบะเพื่อรวบรวมต้นดาวเรือง ก็ถูกผมนำมาปรุงแต่งจนกลายเป็นอารมณ์บูดเน่าของตัวเองก่อนที่จะแพร่มันออกไปในห้วงจักรวาลผ่าน เฟซบุค และอากัปกิริยาที่มีต่อคนรอบข้างซึ่งเห็นต่าง

ด้วยกระบวนการใกล้ๆกันแบบนี้ทำให้ผมทะเลาะกับโลก ทะเลาะกับตัวเองมานานแสนนาน จนเป้นยี่ห้อแปะที่หน้าผากว่าเป้นตัวอันตราย แม้ว่าใจจริงจะไม่อยากเป็นตัวอันตรายของใครก็ตามที




ความเห็น (1)

ดีใจค่ะ ที่จะเลิกทะเลาะกับโลกใบนี้

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

วันนี้ แม้จะตื่นเช้าลุกขึ้นมาทำงานเขียนบทความที่สัญญาค้างไว้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลุก ๆ นั่งๆ เปลี่ยนอริยาบท ปัญหาขาบวมมีความสอดคล้องกับท่านั่งและการเดินทางจริง ๆ กว่าจะได้ลุกไปอาบน้ำอาบท่า ก็ปาไป 10 โมงกว่า ตั้งใจออกไปหาอะไรกินในร้านที่มีแอร์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป วน ๆ เดิน ๆ อยู่ในบ้านแบบเสียเวลาไปทั้งวัน สมาร์ทโฟนอันใหม่เริ่มพ่นพิษ มันเข้ามาครอบงำความคิดและเวลา ที่จะต้องหยิบขึ้นมาดู มาอ่าน มาเม้นต์ จนเสียเวลาไปทั้งวัน คงต้องสร้างกฎเหล็กให้กับตัวเองเสมือนไม่เคยมีมันมาเป็นเวลากว่าสองเดือน เห็นทีว่าจะต้องตั้งกฎเหล็ก เชคไลน์และเมลและเฟสบุค เป็นช่วงเวลา เช่น 8.00 น.รอบหนึ่ง 12.30 น.รอบนึง 19.00 น.รอบนึง แค่นั้นพอ ไม่งั้นมันจะเข้ามาแทรกแซงวิถีชีวิตเราเยอะไป

ด้วยความที่ไม่ได้กินข้าวมาทั้งวัน บ่ายสามกว่า ๆ หญิงสาวของผมก็ชวนไปหาอะไรกิน ในร้านอาหารที่เขาร่ำลือในความใหม่ มีชื่อว่าร้าน อะไร จุดสักอย่าง คนกำลังเห่อ เด็กนักเรียนเข้าร้าน คนโตพาลูกจูงหลานมาเข้าร้าน เหมือนเรา จนแน่นร้านต้องนั่งรอคิวเกือบครึ่งชั่วโมง พอได้ที่นั่งก็แสนจะคับแคบสั่งเมนูก็รอนาน เจ้าของร้านหน้าบูด รสชาติไม่อร่อย แพงเวอร์ และกลับมาถึงบ้านทำเอาระบบขับถ่านแปรปรวน

ที่จริงร้านหรู อาหารอร่อย มันมีมูลค่าส่วนเกิน ที่เราไม่ควรสัมผัสมันพร่ำเพรื่อ ทุกอย่างก็เหมือนกันถ้ามากเกิน ไม่มีอะไรดี ชีวิตจึงควรต้องมีลิมิต



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

ในที่สุดวันนี้ผมก็ต้องยอมโอนอ่อนผ่อนตาม กระแสเทคโนโลยี....

เช้าวันนี้ตื่นมาแต่ 6 โมงเช้า นั่งเชคเมล์ และงานตัวเองที่ยังต้องทำ โอ้ววว มีอีกมากมาย ช่วงสายขับรถพาหญิงสาวผู้เป็นภรรยา ไปโรงเรียนแม้วันนี้เป็นวันหยุด เธอก็ต้องทำงานเพราะเข้าใกล้เวลาเปิดเทอม ที่จะต้องเตรียมขัดถูห้อง จัดตารางสอน และหน้าที่ใหม่ในการรับผิดชอบกิจการสหการของโรงเรียนที่ฟื้นฟูขึ้นใหม่ ทำให้ต้องไปหาซื้อชั้นวางของร่วมกับทีมงาน เราใช้รถยนต์ฟอร์ แรงเยอร์ของผมไปขนชั้นวางของมือสองมา 6 ชิ้น เต็มกระบะท้ายพอดี แวะทานก๊วยเตี๋ยวมื้อกลางวันที่บ้านก๊วยเตี๋ยว ก่อนที่จะเข้าไปยกชั้นวางของให้กับโรงเรียน เรียบร้อย ผมกับหญิงสาวฯ ก็ออกเดินทางไปหาคุณแม่ ที่บ้านริมแม่น้ำป่าสัก จุดหมายประสงค์หลักที่เดินทางไปนอกจากเพื่อหาเวลาว่างไปหาแม่แล้ววันนี้เรามีเป้าหมายพิเศษ คือการไปดูไห ที่เป็นข่าวใหญ่โตว่าขุดพบเป้นฐานรองพื้นและโครงสร้างของโบสถ์โบราณอายุกว่า 300 ปี ซึ่งที่นั่นเป็นวัดบ้านเกิดและเป็นที่วิ่งเล่น เรียนหนังสือของผมมาแต่สมัยยังเล็ก เราได้รับความกรุณาจากคนงานที่กำลังขุดแต่งโบสถ์จากกรมศิลปากรอย่างมากที่อนุญาตให้เข้าไปดูไหที่ขุดพบ ซึ่งถูกนำมาวางเรียง อวดโฉมหลังจากนอนนิ่งใต้พื้นมากกว่า 300 ปี ในไห เต็มไปด้วยพระ พระพาย ....

ผมเดินทางกลับ และแวะโลตัส เพราะหญิงสาวของผมเะออึดอัดเต็มทนกับการไร้ร่องรอยการติดต่อของผมผ่านแอพลิเคชั่นยอดฮิต มานนานนับเดือน ที่จริงผมว่าผมมีอิสระ และมีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้นเมื่อไม่มีไลน์ ไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ แต่ก็อีกนั่นแหละ สังคมรอบข้างก็กดดัน ปรานามหยามเหยียด ...

ในท่ามกลางการพัมนา ไปสู่ความทันสมัย เมื่อเราถูกกล่าวหา และนิยามว่าล้าหลัง ทางเดียวที่จะพ้นความล้าหลังไปได้ก็คือต้องซื้อเทคโนโลยี วันนี้ผมจ่าย ไป 3990 บาท แลกกับ จอ 5.5 นิ้งอันเขื่อง ความจำภายใน 16 กิ๊ก กล้องหน้า แปดล้าน กล้องหลัง 13 ล้าน ผมไม่รู้หรอกว่ามันคือะไร แต่ ดูเหมือนเพื่อเก่า ๆ ในไลน์หลายต่อหลายคนจะดีใจที่เห็นผมกลับคืนวงการ

ก่อนนอนคืนนี้ผมคงต้องนั่งพิมพ์บทความให้ได้สักหน้าสองหน้า ตามที่สันยิงสัญญากับผู้จัดงานว่า ขอแค่วันศุกร์นี้ จะส่ง ผมเป็นคนผลัดวันประกันพรุ่งซะนี่กระไร



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

คิดถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่า จะมาเขียนบันทึกเขียนอนุทินอะไร ออกสื่อ แต่พอได้เปิด ทบทวนก้ทำให้เห็นความติงต๊องและเติบโตในชีวิตของตัวเอง ....

เมื่อวานต้องตื่นเช้าแม้ว่าจะเป็นวันที่คณะกรรมการประเมินฯจะมาประเมินผลงานของหญิงสาวผู้เป็นภรรยา แต่ก็ไม่อาจหยุดหรือลางานมาช่วย จึงทำได้แต่ ช่วยจัดของที่จำเป็นขึ้นรถ ตรวจสอบสมรรถนะรถเอาไปเติมแก๊สให้มีเชื้อเพลิงพอวิ่ง วอร์มเครื่องให้อุ่นพอที่จะสตารืทติดในทีเดียวด้วยอายุอานามของรถก้เกินกว่า 20 ปี

แม้ว่าจะมาทำงานที่ใหม่ได้เกินกว่า 9 เดือนแต่การอบรมพนักงานใหม่ปีนี้ถูกจัดไว้อย่างกระจัดกระจายหลายวันในเดือนพฤษภาคม ทำเอาแผนรวนตลอดเดือน วันวานก็เป้นอีกวันที่มีการอบรม วึ่งขาดไม่ได้ การเอารถไปจอดที่คลองบางไผ่แล้วโดยสารรถไฟฟ้าสองต่อโดยการเสี่ยงนั่งมอเตอร์ไซค์ ช่วงรอยต่อเตาปูนบางซื่อ กับช่วงเข้าซอยมหาวิทยาลัย นอกจากเหนื่อยแล้ว ยังอันตรายแบบว่าจะล้มลงไปบนพื้นถนนเมื่อไหร่ไม่รู้ ประเทศเรามีจักรยานยนต์รับจ้างที่รวดเร็ว ยกเว้นทุกกฎ แต่ขาดความปลอดภัยอย่างสิ้นเชิง คิดไปค่ารถทั้งหมดตลอดสายบวกค่าที่จอด ก็จะพอๆ กับค่าน้ำมัน เพียงแต่ เดินทางแบบนี้ทำให้ไม่ต้องตื่นเช้าเท่านั้นเอง

เมื่อวานถึงที่ทำงาน8.50 ยังทำหน้ามึนเดินลงใต้ดินไปกินกาแฟกับวอฟเฟิ้ล ที่ร้านราชพฤกษ์ การอบรมเริ่ม09.00 น.แต่ก้นั่งดื่มบรรยากาศ จนถึง 9.20 ค่อยขยับขึ้นห้องประชุมเพราะรู้ดีว่าเมื่อครวที่แล้วก็ช้าไปกว่าชั่วโมง จริงดังว่า เขาเพิ่งเริ่มบรรยาย ประชุมสร็จ นิสิตมาขอคำปรึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับการเรียนใช้เวลาอีกกว่า 2 ชม.หลังเที่ยงไปกับการทำให้หล่อนกระจ่างแจ้ง และต้องเดินฝ่าเปลวแดดจากหอสมุด มาที่ห้องทำงานเพื่อทำงานเอกสาระุรกการของสาขา อีกชั่วโมงกว่าๆ ก้ถือว่าถึงเวลาที่จะต้องเคลื่อนย้ายกายากลับบ้าน

ช่วงเย้นไปเดินตลาดตามข้อบังคับ ก็ตลาดนัดพื้นบ้านธรรมดา กลางคืนก็เช่นเคย นอนหลับเป็นตาย เพราะหมดแรงกับที่ใช้ไป ทั้งวัน เป็นอย่างงี้มานับเดือนแล้ว ต้องหาทางแก้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

กลับมาอัพเดท อนุทินอีกครั้ง วันนี้ เลือกที่จะหยุด เพื่อทำภาระกิจ เอ่าแล้วจะเรียกว่าหยุดได้ไง เพราะที่จริงคือหยุดงาน เพื่อไปต่อทะเบียนรถเเละเสียภาษีตามกำหมาย มีภาระกิจต้องทำมากมาย แต่ก็จัดการได้อย่างเรียบร้อย ประธานฯ โทรมาทวงงาน ก็สามารถจัดการได้ลุล่วง ภารกิจทุกอย่างเรียบร้อยดี

8-05-2017



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

21 ต.ค. 2016

แทบจะทำเป็นกิจวัตรจนลงตัว สำหรับการตื่นแต่เช้าออกจากบ้านแล้วเอารถมาอดไว้ที่าสถานีคลองบางไผ่ อาศัยความตรงเวลาของรถไฟฟ้า มาลงที่บางซ่อน เพื่อต่อรถไฟของรฟท.จากบางซ่อนไปลงบางซื่อเพื่อต่อ MRT มาโผล่ที่สุขุมวิท สามเดือนกับหกวันแล้วกับที่ทำงานใหม่ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่า งานเอกสารและงานธุรการทั่วๆ ไป ที่แสนจะยุ่งเหยิงและวุ่นวาย เมื่อเข้ามาถึง ก็แทบจะเป้นอัตโนมัติไปแล้วเช่นกันที่จะต้องไปเสียเงิน 55 บาทกินกาแฟกับขนมปังที่ร้านกาแฟข้างลานจอดรถใต้ดิน ความอร่อยของบลูเมาเท่น ที่แสนจะหอมกรุ่นมันช่วยปลุกร่างกายในยามเช้าให้สดชื่นพร้อมที่จะทำงาน สามเดือนที่นี่กินเกือบทุกวัน พร้อมกับการนั่งแช่ที่โซฟาเก่าคร่ำคร่า สีเขียวมอซอ ของร้านกาแฟ ก็ยิ่งทำให้มีเวลาอ่านหนังสือที่อยากอ่านซึ่งมักจะติดมือมาวันละเล่มสองเล่ม การทำงานที่ใหม่นี้ผมต้องกลัเข้าสู่โหมดของการ เทรนนิ่งอีกครั้ง ผมเองอยากจะทำงานใจจะขาดแต่อย่างว่าแหละสิ่งที่ต้องรับผิดชอบในภายภาคหน้า แทบจะเอาประสบการณ์ทำงานแบบมั่ว ๆ ของผมในอดีตมาใช้ไม่ได้เลย แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธว่า แม้แต่การเทรนนิ่งที่ผมได้รับอยู่ไอ้ตัวตนความเย่อหยิ่งมันก็คอยออกมารบกวนให้ไม่สบอารมณ์และทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไม่เต็มที่ วันนี้คงอยู่ที่ทำงานแค่บ่าย ๆ ก่อนที่จะหยุดยาว ในท่ามกลางความเศร้าโศกของคนไทย ผมก็ได้รู้จากหนังสือที่อ่านเมื่อเช้านี้ว่า แม้กระทั่งพยายามตีความไปในทางตรงกันข้ามที่สุดโต่ง ผมก็ยังเห็นอย่างบริสุทธิ์ใจว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำงานหนักเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ยากที่จะหากษัตริย์พระองค์ใดเสมอเหมือน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่ นาฬิกาปลุกตอนตีสี่ บิดซ้ายบิดขวาก่อนที่จะลุกไปอาบน้ำและแต่งตัวแล้วก็....ไปยืนประตูหน้าวิทยาลัย จริง ๆ การยืนรับนักศึกษาหน้าวิทยาลัยดูจะเป็นบทบาทแปลก ๆ ไปซักหน่อยเพราะเท่าที่เคยเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยมาหน้าที่นี้ไม่เคยต้องทำจวบจนมาทำงานที่วิทยาลัยแห่งนี้แหละก็เพิ่งรู้ว่าต้องมายืนหน้าประตู เข้าแถวเคารพธงชาติ และเช็คชื่อนักศึกษาที่มาเข้าแถวฟังการอบรมบรรยายหน้าแถว ส่วนตัวผมจริง ๆ ย้อนไปเมื่อเก้าปีที่แล้วที่ต้องเริ่มทำหน้าที่แบบนี้ ยอมรับว่าต่อต้านอยู่ไม่น้อย ผมไม่เห็นคุณค่าหรือความจำเป็นของการเข้าแถวเช็คชื่อ และฟังการอบรมจากใครต่อใครที่ไปยืนพูดหน้าแถว เพราะเอาเข้าจริงมันเป็นเวลาที่ไม่มีใครอยากฟังใคร คนพูดก็พูด คนเช็คชื่อก็เช็ค คนจะคุยก็คุย อย่างวันนี้ผมอยากฟังผ.อ.พูดว่าท่านพูดอะไร แต่คนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ผมต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ไปที่บุคลิกภาพของผู้กำลังพูดเสียจนฟังไม่ออกว่าที่จริงแล้วท่านพูดอะไร พูดก็พูด คือเวลาเราจะสื่อสารอะไรกะใครมันต้องพร้อม ทั้งผู้พูด สิ่งที่จะพูดและผู้ฟัง ถ้าคนพูดพูดสิ่งดีขนาดไหน คนฟังไม่อยากฟัง ไม่พร้อมฟังมันก็เสียเปล่า

ผมกำลังสงสัยกับการสอนหรือการเรียนรู้ที่เรากำลังทำหรือเป็นกันอยู่ในปัจจุบัน เพราะแท้ที่จริงเรากำลังเรียนกำลังสอนกันในภาวะที่ไม่พร้อมหรือเปล่า วันนี้ผมก็เลยค้นหา ครุ่นคิดว่าเอ่าแล้ววิธีการสอนที่ให้เกิดการเรียนรู้จริง ๆ แล้วเราจะทำกันอย่างไร  



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

นาฬิกาชีวภาพ ปลุกตื่นตั้งแต่ หกโมงสี่สิบ คิดถึงอนุทินนี้เลยลองเข้ามาบันทึก อย่างน้อย ได้ลองย้อนอ่านเข้าไปในอดีตก็รู้ว่าชีวิตได้ผ่านความสับสนอลหม่านทางความคิดมามากบ้างน้อยบ้างอย่างไร ความไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัยในชีวิต ส่งผลนำความกังวลใจหลายอย่าง 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

วันี้มาทำภาระกิจสำคัญในวันสุดท้ายตามเดตไลน์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด ยังมีความกังวลอีกอย่างสองอย่างเกี่ยวกับบทความที่จำเป็นต้องตีพิมพ์ให้ได้ แต่วันนี้ก็แก้ไขปรับปรุงมาแล้ว ขออย่างเดียว ขอให้ผ่านการพิจารณาเถอะ จะได้หมดความกังวลใจ มุ่งทำงานส่วนที่เหลือให้ออกมาดีที่สุดสมบูรณ์ที่สุด พรุ่งนี้กลับไปทำงาน มีอะไรมากมายต้องสะสาง แต่ต้องมุ่งเดินไปข้างหน้าพะว้าพะวังไม่ได้ อีกนิดเดียว อีกอึกใจเดียว อดทน อดทน อดทน 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

ไม่รู้หรอกว่ามันก่อตัวมาแต่เมื่อไหร่ แต่วันนี้มันปรากฏชัดจนมองเห็นแล้วในใจว่า ความขัดแย้งใตตัวตนและจิตใจของเราเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ความจริงก็คือเราจะรักษาระเบียบโดยย่ำยีศักดิ์ศรีมนุษย์ หรือเราจะเทอดศักดิ์ศรีมนุษย์จนสังคมไร้ระเบียบ ทำอย่างไรให้สังคมมีระเบียบบนพื้นฐานของศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ หรือเราจะให้มนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีมาช่วยกันสร้างความผาสุกให้กับผุ้คนและธรรมชาติแวดล้อมบนพื้นโลก 

นี่แค่ตัวอย่างยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่เราขัดแย้งอยู่ภายใน 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

เริ่มวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม ด้วยบรรยากาศที่สดใสนะครับฝนตกลงมาเบาบ้างหนักบ้างเป็นระยะ กลับมาเขียนอนุทินคราวนี้ เพื่อนับถอยหลังยี่สิบสี่วันบนเส้นทางปาฏิหาริย์ ผมเหลือเวลาอีกยี่สิบสี่วัน กับเส้นทางความใฝ่ฝัน ผมไม่มีวันที่จะถอย ผมจะเดินหน้าต่อไป เดินหน้าไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าผมจะผ่านไปได้หรือไม่ ปาฏิหาริญืเท่านั้นแหละครับที่จะทำให้ความฝันนี้ของผมสำเร็จ แต่ผมก็จะทำให้ปาฏิหาริย์มีจริง เพราะผมเชื่อว่า "ปาฏิหาริย์มีจริง" ผมยืนยันที่จะเอาชีวิตนี้เป็นเดิมพัน กับเวลาที่เหลือ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

จะว่าไปแล้วคงเรียกว่าตั้งแต่เริ่มเรียนปริญญาตรีปี1 ที่มศว บางเขน นั่นแหละที่เราเริ่มติดการอ่าน แต่สมัยนั้นก็เป้นการอ่านสะเปะสะปะไม่ได้อ่านเอาเรื่องเอาราวเท่าไหร่ เข้าหอสมุดเจอหนังสือเล่มไหนอยากอ่านก็ยืมมาอ่านตามใจปรารถนา อ่านจบมั่งไม่จบมั่งเข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่งก็ไม่ต้องเป็นกังวล จนได้เรียนกับอาจารย์โกวิท วงศ์สุรวัฒน์นั่นแหละ ที่เริ่มถูกบังคับให้อ่านแบบเอาเรื่องราว จากหนังสือโลกของโซฟี ที่เขียนโดยโยสไตน์ กอเดอร์ แปลโดยสายพิณ สุพุทธมงคล ประกอบการเรียวิชาปรัชญาการเมือง ตามมาด้วยการเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เขียน รู้สึกตัวได้ว่าตั้งแต่นั้นมาการอ่านมีความสุขมากขึ้นแต่ก็ปนทุกข์เพราะกังวลว่าจะอ่านไม่จบอ่านไม่ทันเวลา จนเข้าเรียนป.โท จนมาทำงาน เราก็ไม่เคยขาดที่จะต้องหอบหิ้วหนังสือตามไปด้วยในทุกที่ เดี๋ยวนี้การอ่านที่ทำอยู่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่เพราะมันเป็นยาขมหม้อใหญ่ ๆ เมื่อต้องมาอ่านงานภาษาอังกฤษ ของแอนโทนี่ กิดเดนส์ เพื่อประกอบการนำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอปริญญานิพนธ์ ของขม ๆ ไม่ง่ายที่จะกลืนฉันใด หนังสือยาก ๆ ที่เป็นภาษาฝรั่งลีลาฉวัดเฉวียนชวนเวียนหัวก็พาให้คลื่นเหียนฉันนั้นเพราะกว่าจะเอาชนะใจตัวเองให้เปิดมันขึ้นมาอ่านก็ห้าทุ่มเที่ยงคืนทุกที นี่ก็เป็นเหตุให้ยามตื่นแต่ละเช้า ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมันเข้าไปอ่านในห้องน้ำระหว่างปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน แต่อย่างว่า สองสามบรรทัด ก็หมดอารมณ์ เพราะงงกับศัพท์แสงและโครงสร้างทางไวยากรณ์ แต่วันนี้ ไม่ซิตั้งแต่เมื่อวานซืนนั่นแหละ เริ่มรู้สึกว่าเราก้าวข้ามรสชาติขื่นขมของหนังสือเล่มนี้ได้แล้ว จะว่าจับทางได้ก็ว่าได้นะ เพราะรอบนี้น่าจะเป็นการเริ่มอ่านรอบที่เก้า เสียใจเหมือนกันที่เอาเวลาที่เคยมีถมเถ ไปทำอย่างอื่นที่ไร้สาระเสีเยอะ แต่ตอนนี้เหลือเวลาไม่มากกลับมาเร่งรีบ แต่ก็อีกแหละ ถ้าไม่ใช่เวลาอย่างนี้คงไม่ก้าวข้ามมันได้ง่าย ๆ วันนี้ว่าจะอ่านอีกสักสองชั่วโมงค่อยขยับขยายไปนอน 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

วันที่ผมอายุสามสิบสี่ปีเต็มวันนี้ ผมอยากใช้มันเป็นหลักหมุดจุดหมายสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ๆ ลบล้างเรื่องราวร้าย ๆ นิสัยแย่ ๆ เก่า ๆ แต่ผมเองก็ไม่มั่นใจว่าผมจะทำได้แค่ไหน เพราะไม่ว่าจะปีใหม่กี่ปี ที่ผมหวังจะเอาเป็นหลักหมุดของการเริ่มต้นการเดินทางในชีวิตบนทางสายใหม่ ผมก็ทำมันไม่ได้สักที แต่พูดก็พูดเถอะ วันนี้ผมจะลองมันดูอีกครั้ง ผมจะลุกขึ้นมาแก้ไขตัวเองในสิ่งผิด ๆ อีกครั้ง จะเข้าข้างตัวเองสักนิดก็คือ ทำอีกครั้งดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้มันเน่าเฟะต่อไป ผมขอเริ่มต้นจัดการกับความทุเรศทุรังของนิสัยแย่ ๆ เสียใหม่ ในวันนี้ ผมจะเขียนอนุทินนี้ทุกวันเพื่อการเตือนและทบทวนตนเอง สิ่งดี ๆ การเปลี่ยนแปลงในทางบวกได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในชีวิตของผม ด.ช.เก่ง ....



ความเห็น (2)

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรและกำลังใจจากทุกท่าน นะครับ

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

สามสิบสี่ปีที่ไม่เคยเปลี่ยนของผมคือความเป็นคนเจ้าโทสะ ควบคุมความโกรธไม่เคยอยู่ ถือเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ และไม่แคร์ความรู้สึกคนรอบข้าง ค่อนข้างที่จะเป็นคนไร้ระเบียวินัย ไม่รักความสะอาด แต่ก็อดไม่ได้ทุกครั้งที่จะลุกขึ้นมาโวยวายเมื่อเห็นความไม่เป็นธรรม ความไม่ถูกต้อง หรือการเอารัดเอาเปรียบ ผมเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ใช้เงินมือเติบ สิบเอ็ดปีที่ทำงานมีเงินผ่านมือผมหลายล้านบาทจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แต่ผลของมันก็คือ วันนี้ในวันเกิดผมมีเงินติดกระเป๋าไม่ถึงพันบาท จนไม่อาจที่จะไปทำบุญวันเกิดที่ไหนได้ในเช้าวันนี้ ผมเป็นคนโลเล จับจด ทำอะไรได้ไม่นานก็เบื่อและเจ้าอารมณ์เอาแต่ใจทำให้ทำอะไรแล้วมักถอยเข้าถอยออกจนผู้คนเอาแน่เอานอนอะไรกับผมไม่ได้ อีกอย่างผมเป็นคนขี้เกียจและชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ผมปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปกับการทำสิ่งไร้สาระ วันแล้ววันเล่าจนทุกอย่างล่าช้าเสียการณ์ อาจเรียกได้ว่าผมเป็น อกตัญูชน เพราะที่ผ่านมาผมไม่ได้ตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่เท่าที่ควร เวลา เงินทอง และพลังกายใจผมถูกใช้ไปกับสิ่งเหลวไหลไร้สาระเสียมากกว่า ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นครูที่ไม่เอาไหน เพราะสอนหนังสือมาสิบเอ็ดปี ไอ้ที่จะตรงไปตรงมาตามหลักสูตร ตามตำราแทบจะมีได้ยาก หลายครั้งเด็ก ๆ ก็สับสน อีกอย่างผมเป็นคนไม่เข้มงวดและไม่ชอบสร้างระเบียบวินัยให้กับเด็กเอาเสียเลย ผมผ่านการเลิกรากับคนรักมาหลายครั้งหลายคราเพียงเพราะผมไม่พร้อมจะเสียสละและไม่เคยคิดให้อภัยคนรักของผมเลย จนอาจเรียกว่าผมรักใครไม่เป็น ผมชอบสร้างเงื่อนไขในชีวิตด้วยการรับปากช่วยเหลือคนอย่างชุ่ย ๆ แล้วก็ขี้เกียจที่จะทำให้เขาและในที่สุดผลของมันก็ออกมาเป็นความบาดหมางใจ ผมพูดมากพูดแต่เรื่องไร้สาระพูดแต่เรื่องลามกสองแง่ง่ามและตลกโปกฮาไปวัีน ๆ ไม่สมฐานะที่เป็นครูและเป็นคนที่เติบใหญ่เลย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

อีกสองชั่วโมง ผมจะมีอายุ 34 ปีบริบูรณ์ เป็นสามสิบสี่ปีที่ผ่านอะไรมาเยอะแยะ บางอย่างก็ผ่านมันมาอย่างฟลุ๊ค ๆ ห้าขวบได้เข้าเรียนโรงเรียนวัดเล็ก ๆ จู่ ๆก็ได้ขึ้น ป.2 ตอน 6ขวบโดยไม่รู้ว่าเพราะเหตุอะไร สอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นได้ ที่ 6 ตอนอายุ 11 ขวบ ได้ร่วมชุมนุมลูกเสือแห่งชาติตอนอายุ13 ขึ้นม.4 ที่โรงเรียนเดิมตอนอายุ 14 ได้รางวัลนักเรียนพระราชทาน และรางวัลเยาวชนดีเด่นตอนม.6ชนะปาฐกถาธรรมของเปรียญธรรมสมาคมตอนใกล้จบม.ปลาย สอบโควต้าศึกษาศาสตร์เอกสังคมที่มศว.บางเขนปีสองได้เป็นนายกสโสรนิสิต เป็นสมาชิกชมรมสร้างสรรค์สังคมชนบทที่นั่น ได้เปิดโลกกว้างเปลี่ยนแนวคิดก็ที่นั่นก่อนจะเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งแบบฟลุ๊ค ๆ แล้วก็สอบเข้าเรียนป.โทรัฐศาสตร์ ที่เกษตร ได้อย่างฟลุ๊ค ๆ ผ่านเหตุการณ์วิกฤติที่สุดในชีวิตอย่างฟลุ๊ค ๆ โดยไม่มีใครรู้ สอบวิทยานิพนธ์ผ่านด้วยคะแนนระดับดี ก่อนที่จะประกวดได้รางวัลดีเด่น สมัครสอบเข้าทำงานที่วิทยาลัยเอกชนเปิดใหม่ได้ทันทีทันใดแม้จะเป็นอาจารย์แต่กลับมีบทบาทด้านกิจกรรมมากกว่าด้านการเรียนการสอน ก่อนจะน้อยใจลาออกไปอยู่ราชภัฏแห่งหนึ่งได้หนึ่งปีแล้วมาสอบบรรจุเป็นครูวิทยาลัยชุมชน สร้างความปั่นป่วนให้ผู้คนในหลายเรื่องราวก่อนที่จะลาไปเรียนต่อสี่ปีแล้วกลับมาทำงานเป็นครูจนถึงวันนี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

บนผืนหญ้าเขียวขจี ที่นี่คือฝันของเรา ทุกร่องรอยที่เราก้าว คือรอยเท้าสานฝันสู่ชัย อาชาผยองคะนองศึก หาญฮึกแกร่งกล้าทุกสมัย นอร์ทกรุงเทพที่แสนภูมิใจ ไปเถิดไปคว้าชัยชิงมา นอร์ทกรุงเทพ สมญาอาชาผยอง
นอร์ทกรุงเทพ เรืองรองหนักหนา นอร์ทกรุงเทพ ยิ่งใหญ่กว่าใครในพารา แกร่งกล้าดั่งสมญาม้าอัศวิน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

กังวลใจอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วมมาหลายวัน วันนี้ที่วิทยาลัยชุมชนพิจิตร ถือว่าอยู่ในภาวะที่ "เอาอยู่" คือน้ำทรงตัว อยู่เหนือระดับพื้นที่ปกติของวิทยาลัยประมาณ 50 ซม. ถึง 1.50 เมตร ไม่เพิ่มแต่ก็ไม่ยอมลด วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนการสอนในภาคเรียนที่ 1/2554 และจะเปิดเรียนทันทีในวันจันทร์ ที่ 25 ตุลาคม นี้ เนื่องจากสภาวะน้ำท่วมทำให้วิทยาลัยปิดแล้วปิดอีก ไปสามสี่รอบ จนกลายเป็นว่าเหมือนไม่ได้ปิด แต่ความกังวลใจของเราก็คงไม่หมดไป ถ้าตราบใดน้ำที่บ้านหน้าวัดแดง ที่อยุธยายังไม่ลดลงจนเป็นที่น่าพอใจ บวกกับความระทึกใจกับความสุ่มเสี่ยงของบ้านที่ซอยเสนา และน้ำที่ยังขึ้นเรื่อย ๆ ที่หมู่บ้านเฟื่องฟ้า ลาดหลุมแก้ว ก็มีสามที่นี้แหละที่ทำให้เรากังวลใจ และวิ่งไล่โทรเช็คน้ำ แบบชั่วโมงต่อชั่วโมง เอ้า ดีแทคก็รับไปเต็ม ๆ ละงานนี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

พิจิตรน้ำท่วมมาหลายวันเต็มที แม้ที่วิทยาลัยจะล้อมรอบไปด้วยน้ำ แต่ฝ่ายอาคารสถานที่ ก็รวมกำลังสู้น้ำกันอย่างเต็มที่ จนเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น ผิดกับเส้นทางรอบ ๆ วิทยาลัย ที่เต็มไปด้วยน้ำ นี่เด็ก ๆ ก็ไม่ได้มาเรียนจะแรมเดือนแล้ว ไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะเปิดเรียนหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฟ้าดิน ฟ้าฝนทั้งสิ้น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

แม้ว่าจะได้บ้านพักครูแล้ว และไปซื้อเตียงนอนมาเเล้ว แต่ก็ยังอาศัยเป็นที่หลับนอนไม่ได้อยู่ดี เพราะไม่มีพัดลมห้องนอนจึงร้อนมาก แถมด้วยเพลี้ย และยุงก็บินให้ว่อน เมื่อคืนจึงมานอนที่ข้างโต๊ะทำงานเหมือนเดิม....

เช้านี้ดูเด็ก ๆและครู ๆ วิทยาลัยเราจะไม่เป็นอันเรียนอันสอนอะไรกันเพราะต่างตื่นเต้นกับวันหยุดในวันพรุ่ง และการเดินทางของคณะครูไปแข่งกีฬา ที่จ.ตาก ส่วนผมตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะไม่ไปแข่งกีฬางานนี้แน่นอน

บ่ายสองโมงครึ่งขบวนรถของครูอาจารย์กว่า 20 คันก็เริ่มล้อหมุนออกจากประตูวิทยาลัยไปผมใช้วิทยุสื่อสารส่งทางขบวนได้แค่สิบกว่านาที ก็ขาดการติดต่อ

วิทยาลัยเงียบเหงาไปถนัดตา... เด็ก ๆ ทยอยกันกลับบ้าน จนเกือบหมดวิทยาลัย บางทีการได้อยู่เงียบ ๆ เหงา ๆ โดยที่เป็นฝ่ายส่งทางให้คนอื่นเขาจากไป เราก็ได้รู้คุณค่าของการมีเพื่อน ใช่แล้วละ ครูมาก ๆ เด็กเยอะ ๆ ก็ดูวุ่นวาย แต่เมื่อไม่เหลือใคร ๆ มันก็ดูเหงา ๆ

วันนี้ผมคงเลือกเดินไปตามทางของผม แต่ก็รอให้ถึงวันจันทร์ วันที่ทุกคนจะกลับมาสร้างความวุ่นวายให้วิทยาลัยแห่งนี้กันอีกครั้ง เดินทางปลอดภัยนะครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

แสวง แสงดาวเหนือ
เขียนเมื่อ

วันนี้ตื่นได้เช้ากว่าเมื่อวานเล็กน้อย ฝนตกพรำมาทั้งคืน ช่วงนี้ไว้อาลัยฯเลยต้องแต่งตัวขาวดำทุกวัน เดินไปสแกนนิ้วมือ แล้วเลยไปนั่งรอน้ำห้องแผนฯเดือด แล้วก็ซดกาแฟเช้าซะที่นั่น พระอาจารย์มาสอนตามปกติในคาบเช้า เลยได้โอกาสเข้าร่วมวิพากษ์หลักสูตรระยะสั้น ผลปรากฏว่าตามเคยเข้าไปรื้อเนื้อหาเขาแหลกแตกระเจิง เสียนิสัยจริงเรา นั่งนิ่ง ๆ เป็นตรายางให้เขาก็ไม่ได้ ใกล้เที่ยงมาสอนเด็กแล้วก็ถึงเวลาทานข้าว ตอนบ่ายว่าจะแอบงีบซักหน่อย ผ.อ. เรียกพบ มอบงานชิ้นใหญ่ กรอบมาตรฐานบุคลากรมาให้ทำ เพื่อเตรียมยกร่างเสนอสภาฯ ตกเย็นวันนี้ก็ได้วิ่งออกกำลังกาย แต่ไม่ได้กินข้าว

อ้อวันนี้ได้เข้าไปดูบ้านพักครูแล้ว ในที่สุดพระเจ้าก็ทรงจัดเตรียมบ้านหลังที่เราควรจะได้มาแต่แรกเริ่มให้เรา ขอบคุณพระเจ้าจริง ๆ แต่มีของอีกมากมายที่ต้องจัดหาเพื่อเข้าพัก ทั้งเตียง ตู้และ ราวตากผ้า พัดลม ทีวี แต่ก็เชื่อว่าพระเจ้าจะทรงตัดเตรียมทุกอย่างที่เราต้องใช้ให้พร้อมสรรพ พระองค์ให้สิ่งดีที่สุดไม่ขาดไม่เกิน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท