เมื่อคืนได้มีโอกาสไปดูละครเพลงที เรื่อง ฟ้าจรดทราย รอบพิเศษ ที่โรงละครที่เพิ่งสร้างเสร็จแถวรัชดาภิเษก (หลังจากที่คืนก่อนหน้าก็ไปเต้นระบำอยู่ใน Concert Dare to Dance )
บรรยากาศในโรงละคร มีความแตกต่างจากการแสดง Concert ตรงที่สงบกว่า เนื่องจากนักแสดงต้องการสมาธิในการแสดง ทำให้ตัวเองซึ่งปกติเป็นพวก Hyper ได้สงบลงชั่วคราว
ในระหว่างการแสดงละครเพลงนี้ นอกจากการรับรู้ในเนื้อหาของละครตามที่ผู้แต่งเขียนไว้แล้ว มีหลาย ๆ สิ่งที่นอกเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความตั้งใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยที่จะต้องร่วมใจกันสร้างละครเพลงซักเรื่องให้เราได้ดู นั่นหมายรวมถึง คนเขียนบทพูด บทร้อง คนแต่งเพลงที่จะใช้ คนแต่งทำนอง นักแสดง นักดนตรี(ซึ่งอยู่ด้านใต้ของเวที และอาจจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่า นักแสดงที่อยู่ข้างบนกำลังทำอะไรอยู่) ผู้ดูแลฉาก เวที คนควบคุมแสง สี และสี ทุกองค์ประกอบจะต้องสัมพันธ์กันอย่างมาก
เช่น ในขณะที่นักแสดงกำลังจะเดินจากมุมซ้ายไปมุมขวา นักดนตรีต้องเล่นเพลงอะไร แสงไฟจุดใดบ้างจะติด แล้วมีสีอะไร ฉากด้านหลังจะแสดงเป็นรูปอะไร ฉากด้านหน้าต้องมีการ Move อะไรบ้าง Effect ไหนต้องทำงาน เป็นต้น แค่นี้ก็เกี่ยวข้องกับคนหลายสิบแล้ว
ซึ่งภาพนี้ดูจะแตกต่างกับผู้ที่ทำงานในแวดวงทางวิชาการ ซึ่งในช่วงเวลาของการนำเสนอผลงาน ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเสนอผลงานของตัวเอง บางครั้งอาจมีการทำงานเป็นกลุ่ม แต่จะมีตัวแทนเป็นผู้นำเสนอบนเวทีแค่ไม่กี่คน
เพราะฉนั้นตัวเองระหว่างที่ดูละคร นอกจากหูจะต้องฟังเสียงดนตรี และนักแสดง เสียง Effect ต่าง ๆ แล้ว ตาก็ต้องดูนักแสดง ดูฉาก ดูแสง สีไปด้วย พบละครจบ ในขณะที่คนดูปรบมือนั้น สายตาตัวเองก็มองไปยังทีมงานที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้น ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข มันคือความสำเร็จของคนทั้งกลุ่มที่ร่วมแรง ร่วมใจกันสร้างให้เกิดผลงานตลอด 3 ชั่วโมงนั่นจริง ๆไม่รวมเวลาที่ต้องมีการซ้อมอีกเป็นเดือน ๆ
ทำให้นึกไปถึงว่า ผู้ที่เป็นชักจูงให้คนอื่นมากมายหลายชีวิตมาร่วมกันทำงานที่สอดรับประสานงานกันได้อย่างดีนี้ จะต้องมีคุณสมบัติพิเศษ จริงอยู่ที่จุดประสงค์นึงคือการประกอบอาชีพ คือการทำมาหากิน คือรายได้เพื่อเลี้ยงดูตัวเอง แต่การที่ผู้นำและผู้ร่วมงานทุกคนมีจุดมุ่งหมาย มีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สิ่งที่ได้รับ นอกเหนือจากตัวเงินแล้ว ความรู้สึกภูมิใจจะมีมากขึ้น และเป็นความภูมิใจที่สร้างร่วมกันโดยแท้จริง
ลองมองกลับมาที่หน่วยงาน ที่องค์กร หรือคนในประเทศ ถ้าทุกส่วนประกอบด้วยทีมงาน และผู้นำที่มีคุณสมบัติคล้ายกับการทำละครเพลงนี้ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ยากนัก
ไม่มีโอกาสได้ดูและได้ฟัง
หากแต่ติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
เข้าใจว่าประสบความสำเร็จอยู่มากโข
และเห็นว่ามีรอบการกุศลด้วย ...
เป็นการคืนอะไรให้กับสังคมที่น่าชื่นชมไม่น้อยเลยทีเดียว ครับ
ชื่อไพเราะดีครับ "ฟ้าจรดทราย"
ในความเป็นจริงก็แบบนั้นครับพี่ ฉากหน้าที่งดงาม เนื้อเรื่องประสานสอดคล้อง ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังได้ทำงานหนักและสร้างสรรค์มายาวนาน นั่นคือ ผลิตผลิตการทำงานเป็นทีมที่เห็นได้เป็นรูปธรรม
ทราบว่าพี่งานหนัก แต่ก็ขอเชิญชวนมาเยี่ยมที่เชียงใหม่ ในงานสัมมนาการจัดการความรู้ เพื่อสรางเครือข่ายระดับประเทศ หากพี่ติดตามบันทึกผมก็จะทราบครับ ถือว่ามาพักผ่อนด้วยครับ จะมีโอกาสได้ขอบคุณพี่ด้วย
สวัสดีค่ะ คุณvisitsri
ดิฉันก็ไปดูละครเพลงเรื่องนี้มา และยังประทับใจไม่หายค่ะ ดิฉันไปดูรอบค่ำ ได้บรรยากาศฮิลฟารา ฟ้าจรดทรายมาก...
คิดว่าหลายท่านที่ได้ไปชมคงรู้สึกคล้ายๆกันนะคะ สิ่งที่เราเห็น ไม่ใช่แค่ละครเพลง แต่เป็นการทำงานเป็นทีมแบบมืออาชีพ ทำด้วยความตั้งใจ.....และทำด้วยหัวใจ.....
....ทุกคนเป็นใจเดียว...
ดิฉันเห็นหัวใจของพวกเขาแล้วรู้สึกชื่นใจ และปลื้มปิติ แล้วก็นึกถึงประเทศไทยของเราขึ้นมาด้วยจริงๆ ดิฉันนึกเชื่อมฮิลฟารากับประเทศไทยของเราขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่ทราบ
ยิ่งฟังเพลง "ปณิธาน" แล้วยิ่งรู้สึกจับใจอะค่ะ