ได้สอบถามวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ และได้ความรู้ดีๆดังนี้ค่ะ ( หากใครมีผู้สูงอายุที่บ้านและอยากมาแลกเปลี่ยน มาเล่าเพื่อเป็นความรู้ให้พวกเราสังคมอุดมความรู้เพื่อนำความรู้ไปใช้ในชีวิตก็ขอเชิญมาเขียนให้ด้วยน่ะค่ะ)
-ผู้สูงอายุคนที่1 มีฟัน 30 ซี่ เล่าว่า"วิธีดูแลฟันตั้งแต่เล็กๆพ่อจะพาแปรงฟันด้วยเกลือเพราะตอนนั้นไม่มียาสีฟัน ก็เลยใช้มาตลอด ใช้แปรงเช้า-เย็น รู้สึกว่าจะไม่มีแปรงสีฟันด้วย ก็ใช้นิ้วจิ้มเกลือถูฟันไปมา"
-ผู้สูงอายุคนที่2 มีฟัน 32 ซี่ เล่าว่า"วิธีดูแลฟันตั้งแต่เล็กๆพ่อจะพาอมเกลือทุกเช้า ตอนนั้นไม่มียาสีฟัน ก็ติดใช้มาตลอดจนเป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้มียาสีฟันใช้แล้ว ก็ยังอมเกลือตอนเช้า 2-3วันอมทีหนึ่ง การดูแลฟันตอนนี้ก็แปรงฟันเช้า-เย็นโดยใช้ยาสีฟันที่มีขายทั่วไป "
-ผู้สูงอายุคนที่3 มีฟัน 32 ซี่ เล่าว่า"วิธีดูแลฟันตั้งแต่เล็กๆพ่อจะพาแปรงฟันด้วยเกลือผสมถ่านทุกเช้า-เย็น ตอนนั้นอยู่บ้านนอกไม่มียาสีฟัน ก็ติดใช้มาตลอดจนย้ายมาอยู่ในเมืองมาเรียนหนังสือ ก็เอามาจากบ้านนอกพ่อจะทำใส่ซองมาให้ไว้ใช้ที่ในเมือง
จน เป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้มียาสีฟันใช้แล้ว พอไปตรวจฟันคุณหมอฟันแนะนำให้แปรงฟันหลังอาหารทุกครั้ง ใช้ไหมขัดฟันก็เลยดูแลตนเองตามที่หมอแนะนำมาตลอดโดยใช้ยาสีฟันที่มีขายทั่วไป "
ได้ให้ผู้สูงอายุเล่าถึง อาหารที่รับประทานเป็นประจำ หรือขนม
-ผู้สูงอายุคนที่1 มีฟัน 32 ซี่ เล่าว่า" ตอนนั้นอยู่บ้านนอกไม่มีขนม ก็เลยติดไม่กินขนม อาหารว่างที่กินก็จะเป็นผลไม้บ้านเราได้แก่ ฝรั่ง อาหารหลักก็กินทุกอย่าง เป็นคนไม่เรื่องมากกินดี ค่ะ เลยทำให้อ้วนอย่างที่เห็นนี่แหละ มีอีกอย่างที่จะบอก คือ น้ำอัดลมไม่ควรกินเพราะจะทำให้อ้วนและฟันผุ"
-ผู้สูงอายุคนที่2 มีฟัน 30 ซี่ เล่าว่า"เล็กๆไม่ได้กินขนม ไม่มีเงินซื้อและอยู่บ้านนอกไม่มีขนมขาย ที่กินตอนว่างก็จะเป็นเม็ดมะขามคั่ว ชอบกินก็เลยทำให้ฟันแตกและต้องถอนฟันไปเพราะตอนนั้นการรักษามีแต่ถอนอย่างเดียว "
-ผู้สูงอายุคนที่3 มีฟัน 32 ซี่ เล่าว่า" ตอนนั้นอยู่บ้านนอกไม่มีขนม ก็เลยติดไม่กินขนม พอย้ายมาเรียนหนังสือในเมืองมีขนมขายก็ไม่กินเพราะไม่เคยกินไม่ค่อยชอบกินขนม อาหารหลักก็กินทุกอย่าง "