การตามจิตและศาสนาคริสต์


แม้ศาสนาคริสต์จะเน้นการภาวนา ก็เป็นการตามจิตได้
อันนี้คิดได้ตอนขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน  การตามจิตของทางพุทธจะเป็นการรู้ว่ากำลังคิดอะไร รู้สึกอะไร  แต่การตามจิตของคริสต์  คนส่วนใหญ่จะคิดว่าไม่มี  แต่โดยส่วนตัวคิดว่า  การภาวนาก็เป็นการตามจิตอย่างหนึ่ง  แต่เป็นการตามจิตชนิดที่มีการบังคับ (บทสวด)  โดยให้จิตเพ่งไปที่บทสวด  ก็คิดได้แบบนี้  ไม่แน่ใจด้วยว่าที่คิดนี่ผิดหรือถูกอย่างไร  ก็ขอรบกวนผู้รู้ทั้งหลายช่วยแจ้งด้วย
หมายเลขบันทึก: 91543เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2007 22:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 06:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ทราบมาว่าทางคริสต์มี quiet time แล้วก็มีการเจริญสติแบบใช้ลูกปัดมาเป็นตัวช่วย  (ภาษาอังกฤษที่ใช้คือคำว่า contemplation?)

การคิดทบทวนเหตุการณ์ในวันนั้นๆ มัทเข้าใจว่าเมื่อได้ทบทวนคุยกับพระเจ้าบ่อยๆ ก็เหมือนกับการคุยกับตัวเอง

เหมือนการเอาจิตออกเป็นผู้สังเกตการณ์อย่างไม่มีอคติ 

ารใช้ชีวิตเหมือนมีพระเจ้ารับรู้มองดูอยู่เสมอ ก็คือการที่มีผู้สังเกตการณ์ไงค่ะ มันก็เหมือนการส่งจิตออกมาดูตัวเรา : )

ถ้ามี quiet time วันละนิดหน่อย ก็เหมือนการฝึกฝน

ถ้าทำได้ตลอดเวลา ก็เหมือนการมีสติตลอดเวลานั่นเองค่ะ 

นี่คือความเข้าใจของมัทที่ได้ฟังท่าน Bishop Desmond Tutu คุยกับท่าน Dalai Lama มาค่ะ 

 

Dalai Lama พูดว่า นับถือศาสนาอะไรก็ได้ แต่ทำให้ดีที่สุด ถ้านับถือพระเจ้าก็จงใช้ชีวิตเหมือนพระผู้เป็นเจ้า อยู่กับคุณตลอด 24 ชม. : ) ไม่ใช่ภาวนาหาท่านเฉพาะเวลามีปัญหา

 

  • ผมว่าการภาวนาก็ถือว่าเป็นการดูจิตครับ  ขณะภาวนาจะทำให้เรามีความสงบ  ไม่ส่งจิตออกนอก  จิตมีความอ่อนโยน นิ่มนวล
  • ยิ่งถ้าได้ทำก่อนนั่งสมาธิ  จะทำให้เข้าสมาธิง่ายขึ้นครับ

ธรรมะสวัสดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท