เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมบ้านเขยฝรั่งอีกที่ที่บ้านโคกมะพริก ตำบลทุ่งวัง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
กว่าจะเดินทางไปถึงก็ทุลักทุเลเอาการ ถนนเข้าสวนป่าครูบาที่ว่ายากแล้วยังสู่ถนนที่ไปยังหมู่บ้านนี้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายซะที่เดียว
เนื่องจากพื้นที่สองข้างทางนั้นมีสภาพเป็นที่ลุ่ม ถือได้ว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของอำเภอสตึกก็ว่าได้ เมื่อสภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่มก็ย่อมเหมาะสมกับการเพาะปลูก แต่กลับเป็นเรื่องแปลกที่มีชาวบ้านเพียงไม่กี่รายที่ปลูกพืชผักในบริเวณนี้ ส่วนใหญ่กลับใช้พื้นที่ไปปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น อ้อยเสียเป็นจำนวนมาก จะมีบ้างที่ปลูกข้าวโพดและแตงโมตามไร่นาที่ติดกับถนน
เมื่อเข้าไปในพื้นที่แล้วก็ถือโอกาสเลียบ ๆ เคียงถามข้อมูลกับชาวบ้าน คือคุณยายแพง ว่าทำไมถึงชอบปลูกติดกับถนน ก็ได้คำตอบว่า เพราะง่ายต่อการขาย แหม! เรายังจอดรถซื้อเลย ไม่น่าถาม
นอกจากการปลูกข้าวโพด และปลูกแตงโมแล้ว ก็มีการเลี้ยงโคด้วย แต่เลี้ยงไม่มาก เพราะช่วงนี้ราคาตก ไม่ค่อยมีคนเลี้ยง แต่เจ้าของสวนข้าวโพดยังเลี้ยงอยู่สามตัว ยายแพงบอกว่าที่ต้องปลูกข้าวโพดและแตงโมเพราะต้องการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และหาอาหารเลี้ยงโค
ยางแพงเล่าว่า หน้าแล้งนี้หญ้ามีน้อย ที่จริงแล้วหมู่บ้านนี้มีหญ้าตามทุ่งนาเยอะมากจนเขียวขจีก็ว่าได้ แต่วัวก็ไม่ชอบกินเท่าไร จึงปลูกข้าวโพด ฝักก็ขายเพิ่มรายได้ ปลูกแตงโมถ้าลูกใหญ่ก็ขาย แต่ลูกเล็กหรือลูกปลายก็ใช้เลี้ยงโค ยายบอกว่าต้นข้าวโพดและแตงโมลูกปลายนั้นวัวชอบมากเป็นพิเศษ นอกจากวัวได้กินหญ้าในทุ่งนาแล้วยังได้ต้นข้าวโพดและแตงโมเป็นอาหารเสริม ยายบอกว่าใช้เฉพาะต้นข้าวโพดและแตงโมที่ตัวเองปลูกเท่านั้น ของคนอื่นไม่กล้าเอาไปให้วัวกินเพราะกลัวเขาใส่ยาเคมี อาจเป็นอันตรายต่อวัวได้
ยายแพงเล่าต่อว่าก็แค่ใช้เวลาว่าง ใช้ที่นาที่ว่างให้เป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและโค โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก ปุ๋ยใส่ข้าวโพดและแตงโมก็ได้จากโค แล้วโคก็ต้นข้าวโพดและแตงโมเป็นอาหาร ดินในที่นาก็อุมสมบูรณ์ ปีต่อไปทำนาก็ไม่ต้องใส่ปุ๋ยให้สิ้นเปลือง
นึกแล้วยังเสียดายแทนชาวบ้านหลายคนที่ทิ้งที่นาให้ว่างเปล่าและปล่อยให้วัวแข่งกันผอมอยู่เต็มทุ่งนา
ขอบคุณค่ะท่าน ผอ. ที่หายไปนานไม่ใช่กำลังซุ่มยิงค่ะ แต่กำลังซุ่มหลบกระสุน ซุ่มเรียนภาษาอังกฤษ หวังอยากสอบให้ผ่านค่ะ
จริงอย่างที่ท่าน ผอ. พูดค่ะว่าการเลี้ยงโคคือการออมภาคประชาชน เพราะเลี้ยงโคเป็นการออมทุน การดิน ออมน้ำ ออมพืชให้การเกษตรดำรงอยู่ได้ตามศักยภาพของตนเองค่ะ