ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับ IT
ในสภาวะปัจจุบันที่ประเทศไทยกำลังเผชิญความผันผวนของการเมือง เศรษฐกิจและการพัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็วกว่ายุคใดๆที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยตกอยู่ภายใต้กระแสของโลกาภิวัฒน์ (Globalization) ทำให้คนไทยหลงกระแสการไหลบ่าของวัฒนธรรมและค่านิยมของต่างชาติจนเกิดความเชื่อว่าของสากล หรือของฝรั่งเป็นของดี จนลืมพื้นฐาน ทุนสังคม สภาพแวดล้อม และวิถีชีวิตไทยของตนเอง เป็นที่ทราบกันดีในเรื่องการใช้ซอฟท์แวร์ในประเทศไทย ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์จากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมขนาดเล็กจนถึงซอฟต์แวร์ระดับสูงในองค์กรต่าง ๆ ประกอบกับพฤติกรรมการละเมิดลิขสิทธิ์ ที่เห็นเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไทย ทำให้เกิดข้อเสียเปรียบในทางการค้าระหว่างประเทศ และมีความเสี่ยงต่อการพัฒนาทางเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ในระยะยาว
เพราะฉะนั้น แนวคิดการพัฒนาซอฟท์แวร์เสรี (Free Software) และซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส(Open Source Software) เป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเน้นแนวทางการดำเนินทางสายกลาง และความไม่ประมาท มีส่วนเสริมการนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาใช้อย่างเหมาะสม โดยยึดหลัก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ดังนี้
· ความพอประมาณ ทำให้คำนึงถึงระดับของเทคโนโลยีที่จะใช้ให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะกับการพัฒนาของประเทศในขณะนั้น โดยใช้ทางสายกลาง เช่น การให้การสนับสนุนสร้างความชำนาญให้กับนักพัฒนาโปรแกรม, การวางแผนการใช้ซอฟท์แวร์หรือโปรแกรมต่างๆ เท่าที่จำเป็น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
· ความมีเหตุผล ทำให้คำนึงถึงประโยชน์และโทษของเทคโนโลยีนั้น ๆ รวมถึงพิจารณาในด้านความประหยัด คุณภาพและความคุ้มค่า ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้ตัดสินใจได้ว่าควรรับการถ่ายโอน และเตรียมพร้อมการจัดการที่เหมาะสมกับสถานการณ์และก่อประโยชน์ ต่อการพัฒนาประเทศ
· การมีภูมิคุ้มกันที่ดี ทำให้การพัฒนาในเชิงการลงทุนทางเทคโนโลยีเป็นไปอย่างพอดี ไม่น้อยเกินไป จนต้องพึ่งพิงภายนอกตลอดเวลา แต่ก็ไม่มากเกินไปจนเกิดความเสี่ยง หรือก่อให้เกิดหนี้สินล้นพ้น เพื่อเป็นการป้องกันและลดการผูกขาดสินค้าเทคโนโลยีจากต่างชาติ และลดการพึ่งพาซอฟท์แวร์จากต่างชาติ ทำให้เกิดความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจ เป็นการเตรียมความพร้อมถึงผลกระทบทางลบและผลกระทบทางอ้อมที่อาจเกิดขึ้น
· เงื่อนไขด้านความรู้ การดำเนินงานภายใต้กรอบแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะต้องอาศัยเงื่อนไขด้านความรู้ไม่ใช่เฉพาะด้านเทคนิคเท่านั้น แต่จะต้องใช้ความรู้เชิงสังคมด้วย เช่น การสนับสนุนการสร้างสื่อ แหล่งเรียนรู้ เครือข่ายหรือชุมชุนให้แก่ผู้สนใจ ,ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เข้ากับภูมิปัญญาไทยในแบบบูรณาการ
· เงื่อนไขด้านคุณธรรม ต้องมีความเอื้อเฟื้อ แบ่งปันความรู้เพื่อการพัฒนาไปพร้อมกันโดยยึดหลักความรักความสามัคคี มีความซื่อสัตย์และรับผิดชอบต่อสังคม สรุป เศรษฐกิจพอเพียงทำให้การนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ ต้องประกอบด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง มุ่งประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประชาชนส่วนใหญ่ และประเทศ เพื่อให้การนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาใช้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และพอเหมาะต่อการพัฒนาในแต่ละช่วงของระดับการพัฒนาประเทศ
อ้างอิง
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ “เศรษฐกิจพอเพียง คืออะไร?” กรุงเทพมหานคร.2548
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ “นานาคำถามเกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
แนวคิดการพัฒนาซอฟท์แวร์เสรี (Free Software) และซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส(Open Source Software) ความจริงยังงอยู่นะแต่พอได้อ่านบทความแล้วร้อง อ๋อเลยหละเพราะว่าเขียนได้กระชับชัดเจนจริงๆ เก่งนะครับที่สามารถนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้กับแนวความคิดเศรษฐกิจพอเพียง น่าภูมใจจริงๆที่คนสมัยใหม่ในสมัยนี้มีความคิดที่ช่วยชาติบ้านเมืองแถมเป็นแรงผลักดันให้เกิดเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรม ถ้าจะให้ดีอยากให้ทุกคนได้อ่านเศรษฐกิจพอเพียงกับเทคโนโลยีเยอะๆหนะครับ เพราะว่ามันเป็นเรื่องคนละขั้วแต่สามารถที่จะนำมาใช้อย่างสอดคล้องกันได้อย่างลงตัว
สำหรับซอฟท์แวร์เสรี น่าจะใช้ได้กับเศรษฐกิจพอเพียงได้เป็นอย่างดี เพราะจะทำให้มีการพัฒนาโปรแกรม และสามารถใช้ร่วมกันได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องค่าสิทธิ์ ให้กับต่างประเทศ และถูกบังคับให้อยู่ในสิ่งที่เค้ากำหนดให้ทำ มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้เป็นอย่างดี
พี่ตุ๊กหยิบยกหัวข้อมาเขียนได้น่าสนใจดีค่ะ ซอฟท์แวร์ถือได้ว่าเป็นปัจจัยหลักของ IT ถ้าทุกคนให้ความสำคัญกับความพอเพียงในการนำซอฟท์แวร์มาใช้ น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีของการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆด้วย