ชะตากรรมปี่เมี่ยน


เสียงทันสมัยเหล่านี้กลบเสียงปี่เมี่ยนที่เคยแผดดัง ให้เลือนหาย บางชุมชนยังพอมีเสียงแผ่วโผย ด้วยวัยของคนปี่ที่แก่เฒ่าลงไปทุกที บางชุมชนไม่มีเสียงปี่เช่นเมื่อก่อนนี้อีกแล้ว

          พ่อเจี้ยมเฟย ชนเผ่าเมี่ยน(เย้า) เป็นคนปี่ร่างเล็ก ผอมเกร็ง  อายุอานามร่วม 70 ปี  เป่าปี่มายาวนาน เกือบชั่วชีวิต รับใช้ชุมชนในแง่พิธีกรรมและความบันเทิง 

          จนถึงวันนี้คล้ายว่าเสียงปี่จะเลือนหาย  โดนกลบด้วยเสียงเพลงตามสมัยนิยม จากเครื่องเสียงและเครื่องเล่นวีซีดีคาระโอเกะ….!?! 

          เราได้เห็นคนปี่อย่างพ่อเจี้ยมเฟย  ได้มีโอกาสเป่าปี่มากขึ้น   ภายหลังที่ทางหมู่บ้านได้รับการพัฒนาเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์  ตามนโยบายของรัฐบาล และนโยบายจังหวัดCEO วงดนตรีชนเผ่าเมี่ยน อันประกอบด้วย  ปี่ กลอง ฆ้อง ฉาบ  โดนขุดมาเรียกใช้ในการรับแขกบ่อยๆ  โดยเฉพาะเวลาที่แขกบ้านแขกเมือง หรือผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศมาเยือน ในฐานะแขกของจังหวัด

          ในดนตรี ทั้งสี่ชิ้นของเมี่ยน  "ปี่" นับว่าเป็นตัวนำ  โดดเด่นเป็นที่สุด   จากรูปร่างขนาดเรียวเพรียวเหมาะมือ  ปลายปี่บานคล้ายรูปลำโพงฮอร์นสมัยโบราณ  มีรูเจาะเพื่อไว้ไล่เรียงเสียงเมโลดี้  ตามลำตัวปี่ จำนวน ๖ รู   และตรงลิ้นปี่ทำด้วยทองเหลือง   ไว้ใช้ปากอมเป่า  มีพู่ห้อยประดับประดาเพื่อความสวยงาม   เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองที่สวยประหลาด  แม้ถืออยู่ในมือเฉยๆ   คล้ายว่าจะไม่มีพิษสงของเสียง  ดูสงบเสงี่ยมสมตัวคนเป่า   แต่พอ พ่อเจี้ยมเฟยเอาปี่ใส่ปาก   ขับลมอมพ่นปล่อย ร้อยทำนองออกมา   เสียงแรกของปี่ สัมผัสได้ถึงความโหยหวน  แผดดังกังวานไกล ชนิดที่เป่ากลางสนามฟุตบอลก็ยังได้ยินโดยไม่ต้องเอาไมโครโฟน

           ปี่เมี่ยน  ได้สำแดงเสียงอยู่บ่อยๆในงานพิธีกรรมต่างๆของชนเผ่า  ทั้งงานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ งานเลี้ยงผี ทำขวัญ     โดยเฉพาะในงานแต่งงาน  ซึ่งชาวเมี่ยนแต่โบราณ  ทำพิธีกันอย่างจริงจังยิ่งใหญ่   มีการต้อนรับแขก ญาติพี่น้องที่มาเยือน  ด้วยดนตรีพื้นเมืองประจำเผ่า   ประกอบด้วยการรำถาดต้อนรับแขก  เป็นการอวยพรผู้มาร่วมงานด้วย  

          พ่อเจี้ยมเฟยเล่าว่า   เมื่อก่อน   ปี่เมี่ยนได้รับการยอมรับมาก   คนใดในหมู่บ้านมีงานต้องเรียกใช้ไปประกอบพิธีกรรมพร้อมหมอทำขวัญ  มีค่าตอบแทนบ้าง ไม่มีค่าตอบแทนบ้าง   ไม่เป็นไร ว่ากันไปตามประสาเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนในชุมชนเดียวกัน…”  เพลงที่ใช้ส่วนใหญ่เป่าสืบทอดต่อๆกันมา   พ่อเจี้ยมเฟยเรียนรู้การเป่าปี่มาจากบรรพบุรุษ  

          ทุกวันนี้หาคนสืบทอดการเป่าปี่ยากมาก  ไม่เหมือน ฆ้อง กลอง ฉาบ  ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีตีประกอบจังหวะ   มีคนพอจะตีได้กันอยู่หลายคน   แต่ปี่  ยังไม่มีเด็กรุ่นหลังคนใดสนใจฝึกหัด พ่อเจี้ยมเฟยบอกว่า   ใครสนใจก็จะถ่ายทอดวิชาให้  โดยไม่หวงแหน  เพื่อให้เสียงปี่เมี่ยน  ยังอยู่คู่ชุมชนคนเมี่ยนไปยาวนาน

           ทุกวันนี้  สภาพสังคม เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไว  ชุมชนเมี่ยนเองก็ต้องปรับตัวขนานใหญ่  ทั้งสถานภาพในครอบครัว  รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน  การทำมาหากิน  แม้ว่ายังมีคนยากจนข้นแค้นอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมชนเผ่าเมี่ยนยังมีฐานะความเป็นอยู่ดีกว่าชนเผ่าอื่นอีกหลายเผ่า   ด้วยความที่เป็นคนขยัน อย่างคนเชื้อสายจีนและมีหัวทางด้านการค้าขาย เหมือนชาวม้ง   

           สิ่งหนึ่งที่จะบ่งบอกความมีฐานะของคนเมี่ยน ให้เป็นที่ยอมรับของคนในชุมชน  และคนภายนอกได้  ก็คือการสร้างวัตถุต่างๆในครัวเรือน   การสร้างบ้านที่ใหญ่โต โดดเด่น   มีรถยนต์ขับ  มีโทรศัพท์  มือถือ  มีเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภท   ทั้งจำเป็นหรือไม่จำเป็น  จึงไม่แปลกอะไรที่เสียงเพลงจากเครื่องเล่น วีซีดี ดีวีดี คาราโอเกะจะเข้ามาสร้างความบันเทิงในชุมชน   ชนิดที่เรียกว่าแข่งกันเปิดแข่งกันดัง   หนุ่มสาวเมี่ยน  จนถึงเด็กน้อย   หันมาร้องเพลงสตริง เพลงลูกทุ่ง ที่ฮิตตามยุคสมัย   เสียงทันสมัยเหล่านี้กลบเสียงปี่เมี่ยนที่เคยแผดดัง ให้เลือนหาย   บางชุมชนยังพอมีเสียงแผ่วโผย  ด้วยวัยของคนปี่ที่แก่เฒ่าลงไปทุกที   บางชุมชนไม่มีเสียงปี่เช่นเมื่อก่อนนี้อีกแล้ว     งานแต่งงาน  งานขึ้นบ้านใหม่ งานบันเทิงต่างๆ  ถูกทดแทนด้วยเสียงเพลงคาราโอเกะจากเครื่องเสียงทันสมัย   ไม่ต้องเล่น  ไม่ต้องบรรเลงดนตรีใดๆ   มีเสียงสำเร็จรูปมากให้ตะเบ็งปล่อยอารมณ์  สอดคล้องบ้าง  ผิดเผี้ยนคีย์  คล่อมจังหวะบ้าง ตามทักษะความสามารถของผู้ร้อง   ที่ส่วนใหญ่ดูเหมือน จะไม่รู้ตัวเอง  ว่าได้สร้างความทรมานให้แก่ผู้ฟังสักปานใด   แต่วัฒนรรมคาราโอเกะ  ที่บุกรุกชุมชนชาวเขาอยู่ในขณะนี้   ก็มีส่วนดี ตรงที่   ทำให้คนในชุมชน รู้จักอดทน ซึ่งกันและกัน  ทนฟังเสียงเพลงที่ร้องไม่ได้เรื่อง  และทนรอคอยว่าเมื่อไหร่  จะถึงคิวได้ยึดไมโครโฟนมากดเพลงร้องบ้าง 

           วันนี้ พ่อเจี้ยมเฟย  และคนดนตรีพื้นเมืองในชุมชน  ได้แต่แอบชะเง้อดูหนุ่มสาวร้องเพลงคาราโอเกะ   ด้วยความรู้สึกที่ยากอธิบาย  ทั้งทึ่งตะลึง ฉงน ปนกับความสลดหดหู่ ใจหาย  รอเวลา    ที่คนปี่อย่างพ่อเจี้ยมเฟยหมดลม  นั่นคือ  เสียงปี่เมี่ยนของชุมชนนี้  ก็ลับหายสิ้นสูญไปอย่างสิ้นเชิง

         ถึงวันนั้น  มีอนุชนเมี่ยนคนใด  สนใจใคร่ครวญบ้าง..ไม่รู้แล้ว...  

 

หมายเลขบันทึก: 74855เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2007 22:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 12:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
    สะล้อซอซึงยังมีกลิ่นอายของเด็กเยาวชนพื้นเมือง เหตุไฉน?เด็กเยาวชนเผ่าไม่รับสืบทอด ฤา ความเชื่อ วิถี ปิดกั้นก่อนวัย......

อยากได้เมลล์ของอนุชนเมี่ยนจังเลย

ถูกต้องที่สุดครับคุณน้า... วัฒนธรรมมักจะจางหายไปในเวลาที่แสแห่งวัตถุนิยมถาโถมเข้ามา และมันกำลังจะสร้างปัญหาในกับสังคมนั้นในอีกไม่นาน (เป็นห่วงนะครับ)

ขอบคุณ น้องนิว และ หลานพัฒนศักดิ์(ที่เรียกเราว่า"น้า")

ที่แวะมา พร้อมแสดงความเป็นห่วงด้านวัฒนธรรม

สิ้นวัฒนธรรม คือสิ้นชาติ

สำหรับ mail อนุชนเมี่ยน ที่คุณน้องนิวต้องการ ไว้จะลองติดต่อสมัชชาเยาวชนชาวไทยภูเขาจังหวัดน่านดู เขามีเยาวชนม้ง และเมี่ยน ในจังหวัดน่าน หลายชีวิต รวมตัวทำกิจกรรมทางสังคมกันอยู่

อยากดูรูปภาพของค่ายอนุชนเมี่ยน 27-30 ธันวาคม

อยากได้คอร์ดเพลงของเพลงเมี่ยนครับ (โหล ฟิน ลี นะครับเพราะมากครับ)

น้องมิกส์(เด็กสวนยาหลวง)

คนบางคนอาจจะลืมแต่คนสวนยาหลวงไม่ลืมแน่เพราะยังไงเราก็ใช้ปี่ ฆ้อง กลอง ฉาบ ในพิธีต่างๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท