ตามไปดู KM บุรีรัมย์ที่ฐานการเรียนรู้บ้านส้มกบ


คิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ อยากกลับมาอยู่บ้านตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดก็ทิ้งเมืองหลวง กลับมาทำเกษตรที่บ้านของตนเอง

ตอน : น้องกิ่งทิ้งกรุง

          ได้มีโอกาสไปเยี่ยมแปลงของน้องกิ่ง  ที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายของฐานการเรียนรู้บ้านส้มกบ บ้านเบาใหญ่ ตำบลบ้านจาน อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นแปลงของบัณฑิตคืนถิ่น นั่นคือน้องกิ่งเรียนจบปริญญาตรี แล้วเข้ากรุงเทพฯไปทำงาน แต่พออยู่ไปอยู่มาคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ อยากกลับมาอยู่บ้านตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดก็ทิ้งเมืองหลวง กลับมาทำเกษตรที่บ้านของตนเอง และได้เข้ากลุ่ม KMบุรีรัมย์ ยิ่งได้เพิ่มความรู้ เพิ่มการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ทั้งศึกษาดูงาน ยิ่งทำให้น้องกิ่งมีพลังที่จะสร้างสวรรค์ในที่นาของตนเองให้ได้

                พื้นที่แปลง 12 ไร่  มีการจัดการแปลงด้วยการขุดสระเพื่อเก็บน้ำ และขุดร่องน้ำลึกรอบแปลงถมดินกั้นรอบนอกริมรั้วเป็นคูน้ำใหญ่กันน้ำจากแปลงนาคนอื่นเข้าท่วมแปลงในฤดูน้ำหลากแต่ทำทางน้ำจากร่องน้ำลึกไหลเข้าสระน้ำใหญ่เพื่อให้น้ำเต็มบ่อ เลี้ยงปลาในร่องน้ำลึก นำดินที่ขุดจากบ่อไปถมดินให้สูงแล้วปลูกบ้าน และ รอบบริเวณบ้านปลูกผักสวนครัว ไม้ผล และปลูกกล้วย  มีคอกวัว  เล้าไก่  และรอบบริเวณเล้าไก่มีถังหมักน้ำชีวภาพไว้ทำปุ๋ย  ถัดจากแปลงกล้วยลงไปจะเป็นพื้นที่ลุ่มที่เป็นที่นาซึ่งปลูกหญ้าไว้เลี้ยงวัว ข้างคอกวัวมีที่เก็บอุปกรณ์ในการทำนา  และเก็บฟางอัดเป็นก้อนไว้เลี้ยงวัว 
 
                จากที่ได้พูดคุยถึงการจัดการแปลงนา น้องกิ่งบอกว่า ภาคภูมิใจมากกับหนึ่งปีที่จัดการแปลงให้เป็นรูปเป็นร่างและพอใจกับชีวิตที่พอเพียงจากการสร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ดีใจที่มีโอกาสได้กลับมาช่วยแม่ทำงานและอยู่ดูแลแม่ได้ และตนเองมีรายได้จากที่คิดว่างานที่ทำเป็นการทำงานเพื่อสร้างความพอเพียงในครอบครัวเท่านั้น ได้กลายมาเป็นเรื่องของการมีรายได้เพิ่มเข้ามาจากการขายผลผลิตที่เกิดขึ้น เช่น 

                ลูกกล้วยได้ขายใบตองและกล้วยสุก น้องกิ่งบอกว่าก้านกล้วย 1 ก้าน เก็บเป็นใบตองขายได้ 1 บาท ประมาณ 3 วัน สามารถตัดก้านกล้วยได้อีก 1 ก้านต่อกล้วย 1 ต้น กล้วยแต่ละกอมีหลายต้น ก็จะหมุนเวียนตัดได้ทุกวัน มีเท่าไรแม่ค้ารับซื้อหมดบางวันมีไม่พอขาย 

               ปลูกตะใคร้ ไว้หลายกอข้างบ้าน เก็บมาตัดขายได้ทุกวัน รวมถึงปลูกผักสวนครัว หลายอย่าง มีแม่ค้ามาสั่งไว้เพื่อจะรับไปขายต่อ ถือป็นเงินออมรายวัน 

                 สิ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการสร้างความรู้จากการทำงานจริง เป็นความรู้จากภาคปฏิบัติทำงานร่วมกันของคนในครอบครัวหากมีปัญหาก็ยังมีสมาชิกร่วมกลุ่มช่วยคิดหาทางแก้ปัญหา และหาทางออก เป็นการสร้างและใช้บริบทของ KM ให้เกิดขึ้นในกลุ่มสมาชิก โดยมีความรู้เป็นตัวเชื่อม ทำให้กลุ่มและสมาชิกดีขึ้นเกิดเป็น Learning Organization         

หมายเลขบันทึก: 71795เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2007 23:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม 2012 23:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ใช้ระบบขี่เฮลิคอปเตอรืไปลงเลยหรือครับ ไม่ยอมผ่านแปลงใครเลย กลัวเสียค่าผ่านทางหรือไงครับ
  • ผมอยากเห็นภาพเคลื่อนไหวมากกว่าภาพนิ่งครับ
  • หนี กทม มาแล้วคุ้มหรือเปล่าครับ
           อาจารย์แสวงคะจากทางที่ผ่านมองลงไปทุ่งนาเห็นความแห้งแล้งคืบคลานมาให้เห็นเป็นระยะ เห็นวัว ควายเล็มหญ้า และตอฟางอยู่กลางทุ่งที่แห้งแล้งนั้น เพราะตลอดทางที่ผ่านสังเกตุเห็นจากความเขียวชะอุ่มมีน้อยมาก ถ้ามองเห็นมีสีเขียวบ้าง พอถามคนนำทางก็ได้รู้ว่านั่นคือแปลงเกษตรกรเครือข่ายของครูบา ออกไปอยู่ทุ่งนาทำมาหากิน ปลูกสร้างให้เกิดความเขียวขจี มีชีวิตกว่าแปลงข้างเคียงตั้งมากมาย ได้แต่คิดในใจว่า ฝากไว้ก่อนแล้วจะย้อนมาค้นหา  แต่วันนี้เรามีจุดหมายปลายทางอยู่ที่แปลงน้องกิ่งค่ะ
          
ที่แปลงนาของน้องกิ่งหรือสมาชิกเครือข่ายคนอื่น ๆ จะปลูกกล้วยเป็นตัวนำร่องของการปลูกพืชผักอื่น ๆ  เกือบทุกแปลง  มันน่าแปลกใจว่าเอ๊ะทำไมต้องเป็นกล้วย แล้วกล้วยมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนต่อแปลงที่ปลูก แล้วปลูกช่วงไหนดีที่สุด  ดินที่ปลูกเป็นแบบไหนกล้วยที่ปลูกจึงจะงาม เครือยาว ลูกโต และให้หน่อได้ทั้งปี น่าคิดนะคะ ใครรู้ผู้น้อยขอคำตอบช่วยที
                                ขอบคุณค่ะ

 

ผมเป็นคนบ้านส้มกบโดยกำเนิดครับ จากบ้านเกิดเมืองนอนมาตั้งแต่ จบ ป. 6 ใช่ว่าทิ้งถิ่นฐาน แต่เพื่อการศึกษามากกว่า ได้ไปพบเจอต่างถิ่นต่างวัฒนธรรมก็หลายที่ ในใจก็คิดว่าสักวันเราจะกลับไป นำความรู้ที่ได้จากการที่เราอุตส่าห์ร่อนแร่รอนแรมไปนาน เพื่อจะมาพัฒนาหมู่บ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง แต่ตอนนี้ยังเรียนไม่จบครับ แต่น้องกิ่งคือใคร เป็นคนบ้านไหนครับ ผมไม่รู้จัก หรือผมอาจจากบ้านเกิดมานาน ผมรู้ว่าที่หมู่บ้านผมมีโครงการเกิดขึ้นมากมาย ผมก็หวังว่าสักวันผมจะได้กลับไปร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมสมอง พัฒนาหมู่บ้านตนเอง แต่บอกตรงๆ เรื่องการเกษตรผมไม่รู้จักเลย จะว่าไม่รู้จักเลยก็ไม่เชิง เพียงแต่ผมไม่ช่ำชองเหมือนคนแถวบ้าน ผมเรียนคณะครุ แล้วก็เอกอังกฤษด้วย ผมก็ยังไม่รู้ว่า จะช่วยบ้านเราได้ยังไง หรือจะพาผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติที่ชำชองเรื่องการเกษตรไปศึกษาดูงานและช่วยแนะนำดีนะ ฮ่าๆๆ ผมคิดอ่ะครับ ผมก็ได้ดูข่าวชุมชนต่างๆที่มีลูกหลานไปศึกษาต่างแดน แล้วกลับมาพัฒนาหมู่บ้านตนเอง ยังไงซะ!!! ผมก็ยังสำนึกรักบ้านเกิดครับ...

หากมีอะไรที่จะแนะนำ หรือติชท กรุณาติดต่อ โทร. 089-7946036 อีเมล์ [email protected]

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท