กว่าจะรู้.....


เราจะไม่มีเวลาอยู่ในไร่นาของเราเลย ไม่เป็นอิสระเลย

ด้วยความโดดเด่นของกลุ่ม ที่พากันดำเนินงานมาเป็นช่วงเวลาไม่น้อยกว่า  ๕  ปี ของกลุ่มชะโนดโนนทัน เป็นความโดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ ในหมู่บ้านในแง่ที่ว่ารวมกลุ่มแล้วยังไม่ล้ม!!!!!

บัดนี้เข้าตากรรมการ ได้เอกสารมาให้กรอกขึ้นทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เอกสารนั้นต่อให้เป็นคุณอำนวย ที่อำนวยขนาดไหนก็ตามก็ไม่อาจช่วยให้รู้เรื่องได้สำหรับผู้คนที่อยู่นอกระบบรู้หนังสือ เอกสารที่แสนจะซับซ้อน ละเอียดละออและเต็มไปด้วยคำศัพท์ (คำที่ใช้แล้วยังต้องอธิบายกันอีกหลายรอบ )

ไม่นานนักก็มีข่าวว่าคณะทำงานจากจังหวัดจะมาประเมิน

เอาละว้า เอาละซี เปียกแน่แล้วเรา คราวนี้จะทำอย่างไร....ชาวบ้านก็พากันเตรียมตัวอย่างดีสุด ๆ  จัดสถานที่ใต้ถุนบ้านน้องเนียง มีนิทรรศการเล็ก ๆ และมีการเตรียมจะสาธิตการทำไบโอดีเซล ทำอาหารต้มไก่บ้าน แจ่วปลา ลวกผัก ขนมจีน ขนมหวานผลไม้ และมีคนจากเกษตรอำเภอมาช่วยจัดฉาก..เอ๊ย..เตรียมรอคณะ

ดงหลวงจัดเตรียมงานลักษณะนี้ได้ดีมาก มาก เนี้ยบ สวย ด้วย แต่กรุณาอย่าใช้มาตรฐานจากนอกบริบท

ไม่นานท่านทั้งหลายก็มาถึง ลงจากรถก็แตกกระจายเหมือนผึ้งแตกรัง  ชาวบ้านเลยงงไม่รู้จะทำอะไร นึกว่าผู้คนจะอยู่รวมกันแล้วเขาก็จะได้พูดได้สาธิต  ท่าน ท่านก็แนะนำคณะ แต่ละชื่ออะไร ตำแหน่งอะไร มาจากไหน แล้วบอกว่า ขอให้คณะทำงานในพื้นที่ดำเนินการ พวกท่านจะฟัง  ว่าแล้วท่านก็เอาหนังสือพิมพ์มาอ่านรอเวลา .....

คณะในพื้นที่ก็ชี้แจง และเช็คโครงสร้าง กรรมการกลุ่ม  และตบท้ายด้วยคำชี้แนะ เป๊ะ  ตามสูตร  ๑)  ควรมีป้ายกลุ่มใหญ่ ๆ  หน่อย ให้มองเห็นชัดเจน  ๒) มีการแสดงที่ตั้งกลุ่ม ป้ายบอกทางมากลุ่ม  ๓)  มีตู้กระจกจัดเก็บผลงาน มีคนเฝ้า เผื่อมีใครมาเยี่ยม  ๔ ) มีที่ทำการที่เรื่องเป็นราว   และประการสุดท้าย   ควรมีการขยายเครือข่ายสู่หมู่บ้านทั่วไป

ดิฉันกับอาจารย์ทนายโกรธ กับวิธีทำงานและเนื้อหาของทางการ แต่เราก็ไม่พูดอะไร เป็นผู้สังเกตการณ์  ๑) ทำอะไรไว้ ถึงจะมาประเมิน  ๒) ไม่เรียนไม่รู้แล้วก็ยังแนะ อีก  ๓)  ขณะที่ฝ่ายชาวบ้านของเราก็สมยอม!!!!

ทิ้งรอยจารึกไว้แล้วก็จากไป ปล่อยให้ชาวบ้านก้มหน้ารับกรรมต่อไป  แค่นั้นยังไม่พอ  เกษตรอำเภอซึ่งก่อนหน้านั้นนั่งนิ่งเงียบเป็นเบื้อ ไหน ไหนก็มาแล้วถือโอกาสบรรยายหน่อยชั่วโมงกว่า  ......จุลินทรีย์มีอยู่ในธรรมชาติ เราเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในไร่นาได้ ( เมื่อก่อนไปอยู่ไหนมาหนอ ทำไมไม่มาบอกชาวบ้าน ) ......ทำปุ๋ยหมักดีต่อสิ่งแวดล้อม......( เด็ดที่สุด ) เมื่อเราบำรุงดินได้ที่แล้ว ใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่มเข้าไปอีกก็จะช่วยเพิ่มผลผลิต...(อ้าว...งงงงงง...ไม่ใช่ลูกศิษย์อาจารย์แสวงใช่ไหมคะ ? )......พวกผมมีหน้าที่ให้ความรู้...ส่วนงบประมาณนั้นต้องอาศัย อบต.  ( งานนี้ไม่รู้ใครจะให้ความรู้ใคร  ล่ะคะ คู้ณ )

พอไปหมดแล้วพวกเราก็คุยกันต่อ ดิฉันก็ตั้งคำถามแบบโกรธ  ๆ  ถี่ยิบเลย อัดแน่นไว้เต็มอก   ทำไม ทำไม และทำไม รวมทั้งอาจารย์ทนาย  นั่นก็ไม่เตือนกันเล้ย...จนรู้สึกตัวและรู้สึกในบรรยากาศได้ว่า ชาวบ้านก็ขุ่นเคือง โกรธต่อคำถามของดิฉันและปกป้องตัวเอง  เขาบอกว่า ที่เขาฟังนิ่ง ๆ  ไม่ได้หมายความว่าเขาเห็นด้วย หรือจะทำตามข้อเสนอเหล่านั้น!!!!!   และมีเสียงลอดออกมาเบา ๆ  ท่านไม่ตั้งคำถามเลยไม่ได้ตอบ...เป็นงั้นไป 

ดิฉันคิดว่า พวกเขาถูกสะกดจิตให้ฟังนิ่ง ๆ  หึ่ง ๆ  เหมือนเสียงเครื่องทำไฟทำหน้าที่ไปเรื่อย ๆ  ไม่รู้สึกรู้สม แต่ลืมตาอยู่

ดูแล้วก็เห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปคาดคั้นตอนที่มีอารมณ์ลบแบบนี้  ประตูแห่ง
โอกาสที่จะเรียนรู้ก็เลยปิดด้วยประการฉะนี้ เนื่องจากการรุกมากเกินไป เร็วเกินไป และ ใส่ เขาเพราะความโกรธ.......
แม้ว่าจะเจตนาดี แต่ทำด้วยความโกรธ ไม่มีทางทำให้เกิดการเรียนรู้ได้เลย 

สามเดือนต่อมา  พ่อยอด ประธานวิสาหกิจชมุชน ของกลุ่ม เอาเอกสารมาโยนลงกลางวงประชุม พร้อมเอื้อนเอ่ย 

ผมเข้าใจแล้ว  วิสาหกิจชุมชนเป็นเรื่องเด็ดยอดหมือนอาจารย์ทนายว่า เห็นเรารวมกลุ่มก็จะเสนอให้เราทำโน่นทำนี่  ต้องทำให้ดี แล้วเอาไปขาย เราต้องไปขาย แล้วจะมีการถ่ายวีดีโอ ออกทีวี มีคนมาเยี่ยม ทำโน่น ทำนี่ไม่หยุดไม่หย่อน เราจะไม่มีเวลาอยู่ในไร่นาของเราเลย ไม่เป็นอิสระเลย

พร้อมเสียงสนับสนุนจากพ่อบน    แบบนี้ก็ได้ทิ้งไร่นา เขาให้ผลิต เขาให้ไปขาย เขาให้ไปโชว์ เขาให้ไปสาธิต ไป ไป ไป ตลอด

ดิฉันสนับสนุนด้วย  ดีแล้ว ที่พ่อมองออกแบบนั้น   
พร้อมคิดในใจ   การผลิต การแปรรูป การขาย การเผยแพร่ และอีกร้อยแปด พันเก้า  การ จะไม่มีปัญหาเลย ถ้ามันงอกออกมาจากเนื้อใน จากงานที่ชาวบ้านทำอยู่ ค่อย ๆ  ยกระดับขึ้นไป!!!!  

 

คำสำคัญ (Tags): #กำหนดใจ
หมายเลขบันทึก: 71780เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2007 22:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ชุมชนที่เข้มแข็งและสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตตนเองให้ดีได้ ต้องเป็นชุมชนที่เข้าใจในเนื้อในแห่งตัวตนของชุมชนนั้น ๆ อย่างถ่องแท้
  • และเห็นด้วยนะครับแม้ว่าจะเจตนาดี แต่ทำด้วยความโกรธ ไม่มีทางทำให้เกิดการเรียนรู้ได้เลย
  • เป็นกำลังใจให้นะครับ

เป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่น่าสนใจครับ

เขาบอกว่าอย่าโกรธคนที่โกรธเราครับ

ขอบคุณค่ะ คุณแผ่นดิน และอาจารย์แสวง

คราวหน้าจะพยายามกั้นความโกรธไว้ก่อนที่มันจะพ่นพิษไปใส่คนอื่น ค่ะ ยังมีเมตตาเล็กไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท