ในระบบการจัดการความรู้ของสังคมไทย วัฒนธรรมหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการจัดการความรู้คือ วัฒนธรรม “คมในฝัก” ที่หลายๆ คนมีความรู้ แต่ไม่ค่อยเอาความรู้ออกมาใช้เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ซึ่งมีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น
เพราะฉะนั้น เรามาช่วยกันเปลี่ยนวัฒนธรรมนี้ได้ไหมครับ
ใครที่มีความรู้ขนาดไหนก็นำออมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เราจะได้รู้ว่า เราจะช่วยกันพัฒนาโดยรวมได้อย่างไร
ถ้าเป็นลักษณะ “คมในฝัก” ที่ผ่านมานั้น ไม่ค่อยมีข้อดีในการพัฒนาโดยรวมสักเท่าไหร่ครับ
ถึงแม้ว่าจะคมจริง แต่เมื่อไม่เอาออกมาใช้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
หรือโดยเฉพาะคนที่มีสนิมเขรอะอยู่ในฝักอยู่นั้น เมื่อชักออกมาก็จะทำให้สนิมหลุดออกไป และนำมาลับใหม่ให้เกิดความคมได้นะครับ
หรือมีดธรรมดาที่ไม่มีสนิมหรือไม่มีคม เมื่อชักออกมา เพื่อลับให้เกิดความคมได้เช่นกัน
ดังนั้น เลิกเถอะครับ วัฒนธรรม “คมในฝัก” นี่ไม่มีประโยชน์อะไร กับใครเลยนะครับ
เราควรนำมีดที่คม หรือไม่คมก็แล้วแต่ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ก็จะทำให้คมขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
อย่าคมอยู่แต่ในฝักเลยครับ ออกมาลับให้คมอยู่ข้างนอกฝัก จะได้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าแน่นอน
ไม่เสียชาติเกิดครับ
ขอบคุณมากครับ
ดร.แสวง ครับ
โอ้โห้! ขึ้นปีหมู
นี่เล่นเรื่องฤทธิ์มีดสั้นเลยหรือครับท่านเล่าฮู
กะจะเชือดหมูหรือสับสุกร
ขอคาระวะ 1 จอก ที่ให้แง่คิดดีมาก
.อย่างผมนี้ ชักออกมามีแต่ด้าม ด้ามเหี้ยนๆ
แต่ผมก็ไม่เคยอายใคร ..ยอมรับว่ารู้แค่นี้จริงๆ
มีอะไร รึป่าว!
ถ้าเราไม่ยอมรับต้นทุนความรู้ของเราเอง
ยังจะหลอกตัวเอง มันก็เต็มที
เราจะแลกเปลี่ยนความรู้อะไรได้ ถ้าเอาแต่อางขนาง
อย่างโน้นอย่างนี้ มันเสียเวลาน่ะ ยิ่งมีน้อยอยู่ด้วย
ผมเสนอว่า..เวทีบล็อกคือพื้นที่ๆเรามาแลกโง่กัน
ถ้าทุกคนคิดอย่างนี้มันจะช่วยคลายน๊อตวัฒนธรรม
ไทยลงไปได้
ฝรั่งไม่มีตรงนี้นะครับ เขาเปิดใจที่จะเรียน
และรับทุกเรื่อง ทุกกรณี ทุกสถานการณ์
เขาจึงเรียนไปได้เร็วกว่าเรา เพราะลดท่าทีท่าทาง
ที่เป็นสวะรอบใจออกไปอย่างที่เล่าฮูเคยอธิบายไว้
ชอบมาก มากจริง ขอคาระวะอีก 1 จอก เอื๊อก!!
เรียนอาจารย์
หนูดีใจมากคะ ที่ได้ติดตามงานของอาจารย์ และคิดว่าสนิมจากมีดที่ไร้คมอย่างหนูคงถูกกระเทาะออกบ้างนะคะ (ยิ้มๆ ด้วยความชื่นชมคะ)
ครูนง ครูบา และคุณก้ามปู
ผมก็ไม่ค่อยมีคมเท่าไหร่หรอก ก็พยายามชักออกมาลับนี่แหละครับ
ชักทุกทีสนิมเขรอะจนกองเชียร์ต้องยิ้มเขินๆแบบให้กำลังใจ
แต่ก็มีกองไม่เชียร์หัวเราะแบบไม่ค่อยขำ
แต่ผมก็ทำแบบอยากพัฒนาตัวเองเป็นเบื้องต้น
และแลกเปลี่ยน เป็นเบื้องสอง
กองเชียร์อย่าเพิ่งถอดใจนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ.....ใครได้อ่านคงจะได้แง่คิดดีๆและกล้าที่จะแสดงออกในสิ่งที่ควรกล้าค่ะ