เลือกกินไข่อย่างถูกวิธีและมีคุณค่า
วันนี้ถือเป็นบุญวาสนาที่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าพ่อ เจ้าแม่ของวงการปศุสัตว์ของไทยเรา
ท่าน ดร.สวัสดิ์ และ ดร.วนิดา จากกรมปศุสัตว์ ที่แสนจะน่ารัก พาเรานักศึกษาไปเรียนรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ไข่ ที่กำลังจะทำโครงการวิจัยร่วมกับมหาชีวาลัยอีสาน จึงมีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยมามาบอกเล่าเรียกน้ำย่อยไปพลางก่อน
ทุกท่านคงเคยรับประทานไข่หรืออาจทานเป็นอาหารหลักก็ว่าได้เพราะไข่ถือว่าเป็นโปรตีนราคาถูกชั้นยอด
แต่ขอถามหน่อยว่า เวลาเลือกซื้อไข่ จะเลือกไข่แบบใดถึงจะรู้ว่าดีมีคุณภาพ
บรรดาไข่ทั้งหลายที่เรา ๆ ทานกันอยู่ทุกวันนี้ ความสดใหม่หาแทบไม่ได้ เพราะกว่าจะผ่านกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ จนมาถึงมือเรานั้นผ่านไปหลายวันโข ความสดใหม่จึงหายไปกับกาลเวลา
หนักไปกว่านั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเนื้อในของไข่ภายใต้เปลือกอันใสสะอาดนั้นมีคุณภาพหรือไม่ เพราะเวลาเราเห็นโฆษณาขายไข่เราก็เห็นแต่เปลือกที่เขาบอกสะอาดถูกหลักอนามัย แต่ข้างในเราไม่เห็น
เอะ! หรือว่า เพราะทุกวันนี้ผู้คนชอบมองแต่เปลือกนอก อะไร ๆ จึงหลอกเราได้ง่าย
จริงแล้ว การจะดูให้เห็นว่าไข่ยังสดหรือคุณภาพดีหรือไม่ต้องดูที่เนื้อในว่าลักษณะของไข่ขาวและไข่แดงเป็นอย่างไร
ไข่ดี ๆ ที่ว่า เมื่อตอกไข่ออกจากเปลือกแล้วทั้งไข่ขาวและไข่แดงต้องเกาะกันเป็นก้อนกลมนูนสูง ไม่เหลวเป็นน้ำและแบนราบไปกับถ้วยกับจาน ถ้าเหลวและแบนแปลว่าไข่มีน้ำผสมอยู่มาก ไขมันและโปรตีนน้อย รวมทั้งอาจจะหมดอายุการใช้งานก็เป็นได้
ก็เลยมีโจทย์ดี ๆ ใหม่ ๆ ว่าจะทำอย่างไรถึงจะให้แม่ค้าตอกไข่ให้เราดูก่อนซื้อหล่ะค่ะ เพราะที่เห็นมีแต่ไข่เป็นฟอง ไม่มีไข่แตกหรือตอกไข่ให้เราดูซักราย
แต่ปรมาจารย์ทั้งสองท่าน ก็แนะว่า ก็ซื้อไข่ไก่จากคนในชุมชนที่เลี้ยงไก่ไข่ข้างบ้านเรา อย่างน้อยคนเลี้ยง คนขาย คนซื้อ ก็กินไข่ในเล้าเดียวกัน คงเชื่อมั่นได้แถมสร้างรายได้ให้คนในชุมชน
ดังนั้นจึงได้มีโครงการวิจัยการเลี้ยงไก่ไข่ในชุมชนขึ้น เพื่อให้คนไทยได้บริโภคไข่คุณภาพดีและมีงานทำไงค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ความเห็น (7)
ไก่ไข่ข้างบ้าน ได้บริโภคไข่คุณภาพดี คนก็มีงานทำ
ลูกหลานได้เรียนรู้
ดีใจที่ครูพันดามาเยี่ยม
จังหวะดี มีโอกาส คงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ท่านแนะให้เลี้ยงไก่ในคอกวัวด้วยหรือเปล่า
นอกจากจะช่วยกลับปุ๋ยหมัก ยังอาจได้ไข่ไก่ด้วย
เรื่องไก่เขียนดี
แต่รูปหน้าคนเขียนทำไมเปลี่ยนยากจัง
ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ
การเลี้ยงไก่ เลี้ยงได้และเลี้ยงดีสำหรับทุกครอบครัว แต่สำคัญชาวบ้านยังไม่มีโอกาสเข้าถึง อาจเพราะไม่รู้หรือไม่เห็น เป็นหน้าที่ของปศุศัตว์ที่ต้องรุกมากกว่ารับเหมือนท่ฃี่ท่าน ดร.สวัสดิ์และ ดร.วินดากำลังทำอยู่
กรณีของเม็กดำ ถ้าทำได้ พลังการเรียนรู้ของเด็กจะส่งต่อถึงชุมชนได้เป็นอย่างดี
ถ้าจะเลี้ยงไก่ในคอกวัว คงเป็นโจทย์ที่อิ่มอร่อยทั้งคน โคและไก่ แบบสมานฉันท์อย่างแน่นอนค่ะอาจารย์แสวง
ขอบคุณค่ะ