คืนวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ผมไปนอนค้างคืนที่โรงแรม อมารี ดอนเมืองแอร์พอร์ต ในงาน DE กลางน้ำของ SCBF และ กสศ. เช้าวันที่ ๑ มีนาคม จึงได้โอกาสไปเดินออกกำลัง และเรียนรู้ชีวิตผู้คนแถวนั้น ซึ่งเป็นย่านคนจนยิ่งกว่าแถวบ้านผมที่ปากเกร็ด
ที่จริงผมคุ้นเคยบริเวณนี้พอสมควร เพราะเป็นเส้นทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง และตอนลงเครื่องบินผมก็จะเดินขึ้นทางเดินข้ามถนนไปลงที่โรงแรมอมารี เพื่อหาแท็กซี่กลับบ้าน แต่ไม่เคยเดินสำรวจใกล้ชิดแบบนี้
เวลา ๖ น. ยังไม่สว่าง ผมออกจากโรงแรมแล้วเลี้ยวซ้าย ไปตามถนนเชิดวุฒากาศ สังเกตว่าทางเท้าฝั่งนี้แคบมาก เดินผ่านตรอกแคบๆ ทางเข้าชุมชนซึ่งในอีกความหมายหนึ่งคือสลัม ผ่านวัดดอนเมือง เดินเข้าไปแอบมอง เห็นร่องรอยของการขายความศักดิ์สิทธิ์สนองกิเลส ก็ถอยออกมา
เมื่อถีงสามแยกตัดกับถนนสรงประภา เลี้ยวซ้ายเดินไปข้ามคลองเปรมประชากร ที่มีน้ำดำเป็นน้ำครำ และมีสลัมอยู่สองข้าง ยกเว้นตรงหลังวัดดอนเมือง เกิดความรู้สึกว่า น่าจะมีมาตรการระดับ กทม. และเทศบาลที่เกี่ยวข้องร่วมกับประชาชนและภาคประชาสังคม ในการทำให้น้ำในคลองต่างๆ สะอาด ให้ลำคลองกลายเป็นที่จรรโลงตาจรรโลงใจ แบบที่ผมไปเห็นที่เมืองจีนเมือ ๓ ปีที่แล้ว (๑)
เป็นการเดินออกกำลังที่ได้ผลด้านเรียนรู้ ว่าผู้คนทั่วไปเขามีชีวิตกันอย่างไร เห็นได้ขัดว่าคนชั้นล่างของกรุงเทพโดยทั่วไปต้องตื่นแต่เช้าออกเดินทางหรือออกมาทำมาหากิน ที่เห็นมากที่สุดคือขายอาหารสารพัดแบบ หลากหลายระดับของร้าน
เดินไปจนพบจุดข้ามถนนก็ข้ามไปฝั่งตรงข้าม พบตลาดวัฒนานันท์ หรือตลาดฝั่งโขง ที่สะอาดสะอ้านและมีมาตรการป้องกันโควิดดีอย่างน่าชื่นชม ตลาดนี้เปิดตีสาม ปิด ๒ ทุ่ม ผมได้แต่ชะโงกไปถ่ายรูป ไม่ได้เดินเข้าไป เดินต่อมาหหน่อยเดียว พบสิ่งสะดุดตาอีกอย่างหนึ่งคือบริการที่พักค้างคืนแบบ hostel มีมากมาย ผมนึกในใจว่า หากมีโอกาสน่าจะลองไปพักหาประสบการณ์สักครั้ง
เดินกลับไปทางสามแยก ที่ซึ่งรถและคนขวักไขว่มาก ร้านอาหารมากมาย เดินเลี้ยวซ้ายไปสักระยะหนึ่งมีจังหวะข้ามถนนก็ข้ามไปฝั่งตรงกันข้าม เดินไปดูถนนใต้ทางด่วนที่แล่นขนานกับถนนเชิดวุฒากาศ เห็นบริเวณที่มีน้ำครำขังอยู่ ก็เห็นความท้าทายของสังคมไทยในการรวมพลังพัฒนาให้บ้านเมืองน่าอยู่ โดยกลไกริเริ่มสำคัญน่าจะเป็นสถานศึกษา ซึ่งก็มีโรงเรียนวัดดอนเมืองอยู่ติดกับวัด น่าจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่อยู่ไม่ไกล มาร่วมกันจัดกระบวนการทางสังคม และใช้เทคโนโลยีด้านไบโอเทคช่วย
เดินวกกลับมาเพื่อกลับโรงแรม หลังผ่านสามแยก ทางเท้าสะอาดและกว้าง ผ่านบริเวณทางเท้าที่มุงหลังคาผ้าใบกว้างขวาง เป็นสถานที่ของวินมอเตอร์ไซคล์รับจ้างตราดาว มีทีวีเปิดไว้ให้โชเฟอร์ดูด้วย เดินผ่านบริเวณหนึ่งที่สะดุดตากับคนนอนในมุ้งครอบมีเสื่อปูอย่างเป็นระเบียบ ฟากหนึ่งของมุ้งมีไม่ค้ำยันสำหรับคนขาพิการวางอยู่ ๑ คูอย่างเรียบร้อย อีกข้างหนึ่งมีขวดน้ำดื่มขนาดใหญ่วางอยู่ คนนอนในมุ้งหลับอย่างสงบ น่าจะมีความสุข
ริมถนนหน้าโรงแรมอยู่ตรงกันข้ามกับสนามบินดอนเมือง จึงมีต้นไม้ปลูกอย่างเป็นระเบียบ เดือนพฤษภาคม ผมจะไปนอนที่โรงแรมนี้อีกครั้ง จะเดินข้ามถนนไปสำรวจสถานีรถไฟดอนเมือง
กลับมาสะท้อนคิดกับตนเอง บอกตนเองว่าเราเกิดมามีบุญ ที่ได้มีชีวิตที่สะดวกสบาย ต้องใช้เวลาในชีวิตที่เหลือตอบแทนคุณสังคมให้มากยิ่งขึ้น
วิจารณ์ พานิช
๒ มี.ค. ๖๔
1 ทางเท้า ถนนเชิดวุฒากาศฝั่งวัดดอนเมือง
2 สามแยก ถ่ายจากหน้าวัดดอนเมือง
3 จุดข้ามถนน
4 บรรยากาศในตลาดฝั่งโขง
5 ซอยเข้าชุมชนแออัด
6 ห้องพักรายวัน
7 ภาพชีวิตแมว
8 คลองเปรมน้ำครำ
9 คลองน้ำครำ
10 ถนนเชิดวุฒากาศถ่ายไปทางสามแยกที่อยู่ทิศใต้
11 ทางเท้ากว้างและสะอาด
12 ปะรำมอร์เตอร์ไซคล์รับจ้างตราดาว
13 ภาพชีวิต
ยังมีสถานที่อีกมากมายที่ผู้คนต่างดิ้นรน ทำมาหากินนะคะอาจารย์