เชิญชวนคุณพ่อคุณแม่ของน้องๆ วัย 8-18 ปี ที่กำลังติดเกม คือ ใช้เวลาเล่นเกม 5 ชั่วโมงขึ้นไปต่อวัน คลิกเรียนรู้ในรายการรู้เท่ารู้ทัน: ปลดกับดักความคิดเด็กติดเกม และคลิกพลิกชีวิตเด็กติดเกม ซึ่งเป็นค่ายเจ็ดวันดีงามของคุณหมอชาญวิทย์
ผมเองกำลังค้นหาออกแบบโปรแกรมกิจกรรมบำบัดจิตสังคมสำหรับเด็กกลุ่มนี้ แต่อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาที่น่าจะใช้เวลานานด้วยบทบาทหลายหน้าที่ในฐานะอาจารย์ กระบวนกร นักบำบัด นักวิจัย นักเขียน และผู้ที่ต้องการเวลาดูแลสุขภาพและครอบครัว
เท่าที่ใช้เวลาทบทวนความรู้ออนไลน์ พบว่า เด็กวัย 8-18 ปี เล่นเกม 10 คน จะมี 1 คนที่ติดเกม มีภาวะย้ำทำ (Compulsive Disorder) โดยกลุ่มเสี่ยงคือ มีบุคลิกภาพผิดปกติ มีสมาธิสั้น แอสเปอร์เกอร์
เหตุลึกๆ ภายในใจ คือ 41% เด็กๆ อยากหนีจากโลกความจริงที่รู้สึกทำอะไรไม่ได้ดี เหงา ไม่ผูกพันพ่อแม่ ไร้เป้าหมายในชีวิต แต่ในโลกเสมือนของการเล่นเกม 6-15% เด็กๆ ได้รับการยอมรับจากเพื่อนติดเกมด้วยกัน เกมทำให้เค้าเก่ง เกมทำให้เค้าอยากเอาชนะให้ได้คะแนนสูงๆ ไม่มีวันจบสิ้น ยิ่งเล่นยิ่งติดสุข เมื่อไม่ได้เล่น ก็เบื่อ ไม่รู้จะทำอะไร
อาการแสดงทางอารมณ์ส่งผลต่อร่างกาย คือ หมกหมุ่นคิดเกมที่ผ่านมา ครุ่นคิดเกมที่จะเล่นต่อไป วนไปวนมาจนไม่อยากกิน ไม่อยากนอน ไม่อาบน้ำ ไม่เรียน ไม่ทำงาน หยุดเล่นไม่ได้ ทำให้ปวดตา ปวดไมเกรน เหนื่อยล้า ปวดเอ็นข้อมือที่ใช้คอมมากเกินไป หงุดหงิดถ้าไม่ได้เล่น วิตกกังวล ซึมเศร้า จำเป็นต้องพบจิตแพทย์เพื่อรักษาด้วยยา พบนักจิตวิทยาคลินิกเพื่อทำจิตบำบัด พบนักกิจกรรมบำบัดเพื่อออกแบบกิจกรรมกลุ่มครอบครัวและกิจกรรมรายบุคคลเพิ่มทักษะชีวิต
ไม่มีโปรแกรมบำบัดฟื้นฟูใดที่ออกแบบได้อย่างมีประสิทธิผล เพราะ "แต่ละรายบุคคลมีความแตกต่างกันในทัศนคติ ความคิด การรับรู้อารมณ์ และการสื่อสาร ตั้งแต่ 3 ปีแรก ในการบ่มเพาะพฤติกรรมความดีตามพัฒนาการกาย จิต สังคม และจิตวิญญาณ (จิตมุ่งมั่นคิดดี พูดดี ทำดี ต่อตนเองและผู้อื่น)" บนโลกใบนี้มีโปรแกรมมากมายที่พร้อมรับมือ แต่ยังมีน้อยมากในประเทศไทย
บันทึกนี้ผมสัญญากับคุณแม่หลายกรณีศึกษาที่อยากแนะนำ "ตัวอย่างการสื่อสารคิดบวกกับลูกๆ ที่กำลังติดเกม" ซึ่งขอขอบพระคุณข้อมูลจากจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และผู้ปกครองที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนลูกติดเกมให้เก่ง กล้า แกร่ง มากขึ้น ครับผม
หลักคิดบวกสำคัญคือ "ปล่อยวางเปิดใจ ยอมรับ และรักตัวเองให้มากๆ สัก 3 วัน เพื่อฝึกตั้งสติและให้ร่างกายผ่อนคลายความเครียด หายใจเป่าปากเพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวเองก่อนที่จะสื่อสารกับลูกข้างต้น จงอดทน จงคิดน้อยๆ จงบอกความรู้สึกจริงๆ จากหัวใจ จงกอดและชมลูกด้วยความจริงใจ และจงมีวินัยรับผิดชอบเป็นตัวอย่างที่ดีในการให้ความใส่ใจ - คิดดี พูดดี ทำดี เสมอตลอด 21 วันเพื่อปรับทัศนคติคิดบวก อีก 45 วันเพื่อปรับความคิดบวกแล้วเรียนรู้สร้างนิสัยดีๆใหม่ รวมทั้งสิ้นอย่างน้อย 66 วัน (3 เดือน) หรือถ้าวันใดทำไม่ได้ มีอารมณ์ลบมาแทรกแซง ก็ให้นับ 1 ใหม่ วนไปวนมาแบบนี้ บางเคสจำเป็นต้องเข้าค่ายอยู่สถานบำบัดเด็กติดเกม 30-60 วัน จงมีกำลังใจให้เมตตาปัญญาด้วยความอดทน บางรายสำเร็จได้ใน 6 ปี"
ไม่มีความเห็น