การจัดการความรู้ (Knowledge Management - KM) ในงานพัฒนาเราต้องเตรียมการวางแผนให้รอบคอบเพื่อจะได้เป็นแนวทางช่วยให้ชาวบ้าน และชุมชนสามารถจัดกระบวนการ การเรียนรู้ เพื่อสร้างฐานอาชีพให้มั่นคง และยั่งยืน
จะนำ KM ไปใช้ในงานอย่างไร ?เป็นคำถามสั้นๆ และกินใจของ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช (อาจารย์หมอ) หัวเรือใหญ่แห่ง สคส. ซึ่งถามผมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมจึงอ้ำๆ อึ้งๆ แล้วเรียนอาจารย์ไปว่า อาจารย์ครับในช่วงนี้ผมจะนำ KM ไปใช้ใน 2 บริบท กล่าวคือ งานในชุมชน และงานวิจัย ซึ่งแต่ละบริบทก็จะมีการใช้ที่แตกต่างกัน คือ
1. การนำ KM ไปใช้ในการพัฒนาชุมชน ซึ่งในแต่ละชุมชนก็จะมีภูมิปัญญาปฏิบัติที่แตกต่างกัน ตามวิถีแห่งสังคมวัฒนธรรม ของแต่ละท้องที่ ดังนั้นในการนำ KM ซึ่งนับว่าเป็นเครื่องมือที่ดี และง่ายต่อการทำความเข้าใจ อีกทั้งมีความยืดหยุ่นสูง ดังนั้นในการที่เราจะเข้าไปขับเคลื่อนนั้นเราควรที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นพื้นฐาน
1.1 บริบทของชุมชน คือ คนในชุมชนประกอบอาชีพอะไร ศักยภาพพื้นที่เป็นอย่างไร การรวมตัวกันของชุมชน ตลอดทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ ของชุมชนเป็นอย่างไร
1.2 ผู้นำชุมชน พิจารณาว่าผู้นำชุมชนมีลักษณะการเป็นผู้นำในลักษณะใด ซึ่งจากงานวิจัยด้านการพัฒนาเรามักจะพบเสมอว่าผู้นำ (Leader) มีผลอย่างมากต่อความสำเร็จในการพัฒนา ดังนั้นในกระบวนการ KM เราจึงน่าจะให้ความสำคัญกับผู้นำเช่นกัน เพราะเป็นผู้ที่มีบทบาทค่อนข้างมากในชุมชน คนส่วนใหญ่ให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะผู้นำที่หัวก้าวหน้าพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีตลอดเวลา
1.3 วิถีแห่งสังคม วัฒนธรรม แน่นอนครับสิ่งที่ดีงามในชุมชนเราต้องรักษาไว้ให้คงอยู่ในชุมชน ดังนั้นการจัดกระบวนการ KM ก็ต้องให้มีความสอดคล้องกับสังคม วัฒนธรรม
1.4 ความพร้อมของชุมชน ในการเริ่มงานการพัฒนาโดยเฉพาะการดำเนินการเรื่อง KM สิ่งที่ผมต้องพิจารณาคือความพร้อมของชุมชน (ทุนทางสังคม) เราพิจารณาดูว่าชุมชนใดมีความพร้อมมากกว่ากัน ซึ่งการเริ่มต้นก็จะเริ่มจากชุมชนที่มีความพร้อมก่อน แต่ในขณะเดียวกันชุมชนรอบข้างที่มีความพร้อมน้อยกว่าก็สามารถ เข้ามาศึกษาและเรียนรู้ได้
2. การนำ KM ไปใช้ในงานวิจัย KM เป็นเครื่องมือ (Tools) ที่ดีที่สามารถนำไปขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ดังนั้นผมจึงเลือกใช้ KM ในการทำวิทยานิพนธ์ของผม ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ทำเกี่ยวกับเกษตรประณีตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยร่วมมือกับเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์ ในการหาคำตอบถึงรูปแบบของการจัดการเกษตรแบบประณีต เพื่อจะให้ได้นวัตกรรมที่มีความเหมาะสม และยั่งยืน
2.1 แนวคิดเกษตรประณีต เป็นกระบวนการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชจากระบบการปลูกพืชเชิงเดี่ยวจำนวนมากๆ และลงทุนมากๆ ด้วยความหวังที่อยากร่ำอยากรวยมาเป็นการทำการเกษตรแบบประณีตที่ให้ความสำคัญ กับการบำรุงน้ำบำรุงดิน ค่อยทำอยู่ทำกิน ปลูกทุกอย่างที่อยากกิน เหลือกินแจก เหลือแจกขาย จนกระทั่งทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มพูนขึ้นสามารถปลดหนี้สินได้ สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุข มีความพอเพียง และได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาของคนในครอบครัว ตลอดทั้งญาติพี่น้อง มีการดำรงชีวิตอย่างเป็นปกติสุข สามารถพึ่งพาตนเองได้ และในขณะเดียวกัน ยังมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเพื่อนคนอื่นๆด้วย
2.2 หัวใจสำคัญของการทำการเกษตรแบบประณีต คือ การจัดการ 3 ระบบ ประกอบด้วย ระบบการจัดการดิน ระบบการจัดการแสง และระบบการจัดการ
2.3 ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย สำหรับขั้นตอนในการดำเนินงานนั้นผมคิดว่าในเบื้องต้นควรที่จะดำเนินการดังนี้
1. เลือกเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านที่มีความพร้อมและสนใจที่จะเข้าร่วมกระบวนการ KM ตามรูปแบบของ สคส. เป็นหลัก 2 – 3 ท่าน และมีภาคีเครือข่ายไม่น้อยกว่า 10 ราย
2. สร้างความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงกระบวนการ KM กับปราชญ์ชาวบ้านที่มีความพร้อม
3. สร้างความเข้าใจ และแรงบันดาลใจ ในการดำเนินงานศึกษากระบวนการ KM กับปราชญ์ชาวบ้าน และภาคีเครือข่าย
4. ลงมือปฏิบัติ พร้อมกับร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกิจกรรมต่างๆ ทุก 2 สัปดาห์
5. จัดตลาดนัดการจัดการความรู้ที่หลากหลาย (ขั้นที่1) เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลทั่วไป และภาคีอื่นๆ ที่มีความสนใจ
6. วิเคราะห์ สังเคราะห์ตามรูปแบบ (Model) ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
7. ได้นวัตกรรมใหม่ในการทำการเกษตรแบบประณีตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
8. นำเสนอ และเผยแพร่ต่อสาธารณชน จัดตลาดนัดการจัดการความรู้ที่หลากหลาย (ขั้นที่2)
อย่างไรก็ตามในกระบวนการดำเนินการ KM นั้น ผมเองก็เพิ่งเริ่มในการศึกษาอาจจะมีถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ผมก็มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างกระบวนการให้บังเกิดผลให้จงได้ เพราะมีพี่เลี้ยงที่ดีอย่าง สคส. และภาคีเครือข่ายทั่วไป ซึ่งผมจะพยายามทำอย่างเต็มความสามารถ และจะเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรกรไทยให้ “ยืนสง่าในแผ่นดิน” ตามเจตนารมณ์ของท่าน ผศ.ดร.แสวง รวยสูงเนิน อาจารย์ที่ปรึกษาของผมครับ
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
6 ธันวาคม 2549
ห่างหายไปนานจาก blog กลับมาที่เกษตรประณีตก็ OK
ขอให้เร่งพัฒนากำลังขาหน่อย กลัวจะยืนระยะไม่อยู่ เรืองความเร็วยังไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ ขอให้หลบหมัดแยพของ สคส ได้ก้อาจจะรอดยกสอง
หัวข้อของการศึกษาบริบทชุมชน
ฝากไว้เผื่อพี่จะนำไปปรับใช้ครับ แต่ถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่เป็นไรนะครับ ก็ลืมมันไปครับ
ป.ล. เสื้อผ้าผมฝากไว้อีกเดี๋ยวนะครับ ขออภัยและขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
ขอบคุณมากครับ
สำหรับทุกๆท่านที่เข้ามาให้ข้อเสนอแนะ และคำแนะนำดีๆ ครับ
ผมต้องขอโทษเป็นอย่างสูงครับเพราะพึ่งมีโอกาสเปิดเข้ามาครับ
หวังว่าจะเป็นกำลังใจให้ผมต่อไปนะครับ
ดิฉันเป็นคนอุบลฯทำงานในตัวจังหวัดแต่สนใจใคร่รู้และฝันที่จะทำการเกษตรแบบประณีตดิฉันกู้และก็เก็บเงินซื้อที่ดินได้ 3 ไร่ กะว่าจะทำตามที่ฝันไว้ตอนนี้กำลังรวบรวมเรื่องราว ความรู้ที่จะไปสู่ฝันของตัวเอง แอบอ่านข้อมูลจากกูรูหลายๆท่านมาบ้างต่อไปจะเริ่มลงมือทำ
เรียน คุณลูกชาวนา
หากอยู่ไม่ไกล ถ้ามีโอกาสมาทางวารินฯ
เข้ามาคุยก็ได้นะครับ เผื่อมีโอกาสจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน
หรือโทรมาก็ได้ 081-8773460
ขอบคุณครับ
อุทัย