ครั้งที่แล้ว ได้กล่าวถึงเทคนิคการ warm-up ข้อคิดและข้อเสนอแนะในการจัดการเรียนการสอน (5) ซึ่งมีท่านผู้สนใจได้อ่านและแสดงความคิดเห็นไว้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษา ตลอดทั้งการเติมต่อบันทึกในคราวตอไปด้วย ท่านคือ ดร. แสวง รวยสูงเนิน ที่ได้ให้ข้อคิดกับครูอ้อยไว้หลายประการ ซึ่งต้องขอขอบคุณ มา ณ โอกาสนี้
คราวนี้จะเป็นบันทึกของการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ที่เน้นกิจกรรมที่มีความหมาย ในการเตรียมแผนการจัดการเรียนรู้ในแต่ละแผนนั้น ควรส่งเสริมกระบวนการกิจกรรมต่างๆให้แก่นักเรียน ด้วย อาทิ
22. การปฏิบัติกิจกรรมใดๆ ในกระบวนการเรียนการสอน ควรจัดให้ครบกระบวนการ คือ ใช้เวลาให้หนักไปในทางคิด วิเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ ส่งเสริมการฝึกปฏิบัติ แสดงผลในการปฏิบัติอย่างชัดเจน และฝึกการประเมินตนเอง รู้ตนเองว่ามีความสามารถอยู่ในระดับใด
คุณสมบัติในข้อนี้ นักเรียนต้องได้รับการส่งเสริมให้เรียนรู้ด้วยตนเอง รู้ตนเอง ประเมินตนเอง ควบคู่กับการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างมีเหตุผล รู้จักการพิจารณา ตัดสินใจอย่างมีเหตุผลทุกครั้ง
23. เนื้อหาที่เตรียมมาในแต่ละครั้งของแผนการจัดการเรียนรู้นั้น ต้องมีเวลาและเนื้อหาที่เหมาะสม และสอดคล้องกัน มีความร้อยรัดกันไปตลอดเวลาของการนำเสนอในแต่ละครั้งของการเรียนการสอน ครูผู้สอนมีความสามารถในการปฏิบัติกิจกรรมในแผนนั้นได้อย่างครบถ้วน หากครูผู้สอนใช้เนื้อหามาก แต่เวลาน้อย ไม่สัมพันธ์กัน นักเรียนก็จะเรียนแบบหนัก นักเรียนไม่ได้ฝึกปฏิบัติเท่าที่ควร จึงไม่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในแต่ละครั้ง
นักเรียนยังไม่ได้ฝึกทักษะปฏิบัติ ไม่ได้ฝึกจิตพิสัย ไม่ได้ฝึกคิดวิเคราะห์ และไม่ได้ มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของหลักสูตรอย่างชัดเจน
24. ครูผู้สอนควรส่งเสริมนักเรียนที่ยังขาดทักษะในการคิดและการแสดงความคิดเห็น โดยใช้กลวิธีหลายอย่าง
เช่น วิธีการคิดดัง .....เป็นการพูดแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นในตัวครูในขณะที่ทำงาน หรือ ขณะที่ขบคิดปัญหาจนกระทั่งได้คำตอบ
หรือ การใช้คำถาม 3 ระดับ ช่วยแนะแนวทางในการคิด
หรือ การแสดงความคิดเห็นในเรื่องราวต่างๆรอบตัวอย่างมีหลักการและเหตุผล
การสาธิต คือ การนำความรู้ต่างๆที่มีอยู่ในหัว ออกมาเชื่อมโยงกันเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาต่างๆ
การใช้แผนภาพ แผนผัง แผนที่ความคิด ทำเรื่องที่เป็นสัญญลักษณ์ หรือ นามธรรมให้เป็นสื่อรูปธรรมจับต้องได้
แสดงแบบอย่างการทำงานที่เป็นกระบวนการ ให้เห็นอย่างชัดเจน
25. การประเมินผล ถือเป็นขั้นตอนที่สุดของการจัดการเรียนการสอน ต้องมีการประเมินในทุกปัจจัยที่มีผลต่อกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน สาเหตที่นักเรียนไม่ประสบกับผลสำเร็จ อาจจะเป็นเพราะ
ตัวครู.....การจัดการเรียนการสอนยังไม่ชัดเจน ไม่ต่อเนื่อง ความชำนาญในการสอน ไม่มีมากพอ ไม่โน้มน้าวให้สนใจ การจัดชั้นเรียน ยังไม่เข้าใจธรรมชาติของนักเรียนเท่าที่ควร สื่อ..ยังไม่เหมะสม อุปกรณ์ยังไม่พร้อม
ตัวนักเรียน..... ขาดความรู้พื้นฐาน ต้องปรับพื้นฐานของนักเรียนให้ใกล้เคียงกัน ไม่ใส่ใจ หิว หงุดหงิด กังวลใจ เครียด เมื่อย เหนื่อย ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียนเสมอ ทำอย่างไรจึงจะจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนจนลืมปัญหาเหล่านี้ได้
สภาพแวดล้อม.....ร้อน หนาว แสงมากไปหรือน้อยไป มีเสียงรบกวนมาก ห้องเรียนอึกทึก ไม่มีระเบียบ ฯ ครูผู้สอนเห็นสภาพแล้ว จะจัดการอย่างไร ให้นักเรียนได้เรียนรู้แล้วประสบกับความสำเร็จในการเรียนการสอนให้มากที่สุด
26. ถ้าประเมินแล้วนักเรียนก็ยังไม่ประสบกับความสำเร็จ เพราะปัจจัยลบด้านใด ให้ปรับปรุงแก้ไขในจุดนั้น ทำกิจกรรมฝึกซ้ำย้ำทวนให้มาก และหลากหลาย ขึ้นอีก แล้วประเมินผลใหม่ จนกว่าจะเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย พยายามให้มีร่องรอยแห่งความพยายามแล้วก็พอใจ
27. นักเรียนแต่ละคนมีความถนัด และมีศักยภาพในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ครูผู้สอนต้องฝึกให้นักเรียนรู้จักบูรณาการความรู้และประสบการณ์ด้านอื่นๆ มาใช้ประโยชน์ เสริมกัน หรือชดเชยกัน ต้องให้นักเรียนได้ทำงานกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และช่วยเหลือดูแลกัน นักเรียนที่เรียนเก่งจะเป็นผู้ช่วยครูโดยอัตโนมัติ และพวกเธอจะพยายามช่วยเพื่อนๆ จนสุดความสามารถ เพราะผลงานของทุดคนส่งผลต่อภาพรวมของกลุ่ม และที่สำคัญผู้ที่ทำงานจนเต็มสติกำลังจะได้รับการยอมรับนับถือจากทุกคน
ครูอ้อยหวังว่า การนำเสนอประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนครั้งนี้ จะนำประโยชน์มาให้ได้บ้าง หากจะรู้ก็ต่อเมื่อนำไปปฏิบัติ ได้ผลอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังให้ชื่นใจด้วยนะคะ
ครูขา
รู้อย่างเดียวตอนนี้ง่วงจังค่ะ
ครูอ้อยครับ
ผมขอเสนอนิดหนึ่งว่า แนวคิดและการทำงานของ ดร. อาจอง มีหลักการที่คล้ายกัน แต่ลงลึกในแนวปฏิบัติมาก
ผมนั่งฟังท่านแบบวางความคิดไม่ได้เลย เนื้อหาแน่น เต็มไปด้วยแก่นสาระในการพัฒนาคน ตามหลักการศึกษา(หรือ สิกขา=การพัฒนาตนเอง)ที่แท้จริง ที่วิเคราะห์โดยท่านพุทธทาส
ถ้านำมาผสานกัน จะแน่นแบบคุณภาพคับแก้วเลยละครับ
ที่ขอพึ่งครูอ้อย เพราะผมไม่มีฐานคิด ทำไม่เป็นจรีงๆ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
น้องอึ่งอ๊อบคะ
ขอบคุณที่เป็นห่วง...ครูอ้อยจะยิ่งรักตัวเองมากขึ้น เมื่อเห็นคนรักและเป็นห่วงค่ะ
เรียน ดร. แสวง รวยสูงเนิน
แนวคิดและการทำงานของ ดร. อาจอง มีหลักการที่คล้ายกัน แต่ลงลึกในแนวปฏิบัติมาก
ขอบคุณมากนะคะ
ขอบคุณค่ะน้อง Naughty Cat
ขอบคุณค่ะ
ครูอ้อยครับ
ขอบคุณครับที่เทียบนามสกุล
ของผมนะของจริงนะครับ ครูอ้อยยืมใครมาหรือเปล่า เดี๋ยวเจ้าของเขาจะค้อนเอานะครับ
ผมแสดงตัวจริงอยู่ในเวบ มข ด้วยนะครับ
ครูอ้อยอยู่ที่ไหนครับ
เรียน ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เรียนเชิญอ่านที่นี่ก่อนค่ะ
ผมแซวเล่นๆ ทำไมต้องโกรธด้วยครับ
ผมขอโทษก็แล้วกัน ไม่คิดว่าจะเจอจุดเปราะตรงนี้ครับ
เรียน ดร. แสวง รวยสูงเนิน
ด้วยเพลง โหว...โว...เหย่...เหย......................
ผมแค่จะถามว่าใช้มาแต่เกิด หรือมาใช้ทีหลังเท่านั้นแหละครับ
ใช้คำอ้อมไปนิดหนึ่ง นึกว่าจะเข้าใจรหัสการเขียน
ทีหลังจะระวัง ถามให้ตรงกว่านี้
แต่กลัวจะไม่สุภาพนะครับ
ผมคนโคราช หลานย่าโมนะครับ(ที่จริงเหลน-โหลน-แหลน-หลอน ไปโน่นครับ แต่คนไม่ค่อยเข้าใจ ก็เลยพูดแค่หลานให้ฟังง่ายครับ)
ผมเกือบจะเป็นโหลนสายตรงเลยละครับ มีผังสายตระกูล กะว่าจะเอาขึ้น web อยู่ว่าญาติ ตระกูลผมอยู่ทีไหนบ้าง
ทำจากรุ่นย่าโมถึงระดับรุ่นผมครับ ที่เหลือให้ลูกหลานเขาไปต่อยอดเอาเอง สืบไม่ไหว สาขามากเหลือเกิน เป็นหมื่นคนครับ
ผมจึงบอกว่าเป็นของแท้ไงครับ ไม่มีความหมายอื่นครับ
เรียน ดร. แสวง รวยสูงเนิน
นับถือค่ะ และยินดีอีกครั้งค่ะ