ปัญหาของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในแต่ละมหาวิทยาลัย
ปัญหาของ UBI ในแต่ละมหาวิทยาลัย
จากการพูดคุยในการประชุมครอบครัว UBI ที่โรงแรมเชียงคานริเวอร์เมาเทนท์ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ระหว่าง 15-17 กันยายน 2560
ปัญหาของ UBI ในแต่ละมหาวิทยาลัยจะอยู่ที่ผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัย จะเข้าใจ และให้การสนับสนุนงานบ่มเพาะวิสาหกิจ ของแต่ละหน่วยขนาดไหน เพราะโดยลำพังงบประมาณที่ สกอ.จัดให้แต่ละมหาวิทยาลัยเป็นเพียงน้อยนิด ในการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ให้แทงรากแทงยอด เพื่อเติบโตเป็น Start Up หรือเป็นผู้ประกอบการที่เติบโตงอกงามของชาติบ้านเมือง ผมได้นำเรียนในที่ประชุมว่าแต่ละหน่วยบ่มเพาะของแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นเพียงโรงเรียนอนุบาลที่ปลุกปั้นเด็กให้เติบโตงอกงามออกไปโรงเรียนประถม มัธยม และมหาวิทยาลัยต่อไปเท่านั้น ด้วยระยะเวลา และงบประมาณ การทุ่มเทของครอบครัว UBI ในการบ่มเพาะให้เมล็ดแต่ละเมล็ดแทงรากแทงยอดออกมา โดยความเห็นส่วนตัวของผมถือว่าสุดยอดแล้วนั้น การที่จะให้ผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยเห็นความสำคัญและสนับสนุนงานบ่มเพาะวิสาหกิจให้เป็นรูปธรรม จากการที่ได้สัมผัสและร่วมงานผู้บริหารของอุดมศึกษา จะเห็นได้ว่าผู้บริหารของอุดมศึกษาจะยึดมั่นภารกิจของอุดมศึกษาว่าอุดมศึกษาต้องปฏิบัติภารกิจ 1.การจัดการเรียนการสอน 2.การวิจัย 3.การให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชน และ 4.การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม แทบจะเป็นคัมภีร์ที่คนอุดมศึกษายึดถือโดยเคร่งครัด ดังนั้นหากจะให้คนอุดมศึกษา หันมาให้ความสนใจและช่วยขับเคลื่อนงานบ่มเพาะวิสาหกิจให้เกิดเป็นมรรคเป็นผล อยากจะฝากท่านผอ.นิตยา นิราศรพ นำเสนอให้ท่านเลขาธิการสำนักงานการอุดมศึกษา เสนอให้คณะกรรมการอุดมศึกษา กำหนดให้ทุกอุดมศึกษาปฏิบัติภารกิจ 1.การจัดการเรียนการสอน 2.การวิจัย 3.การให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชน 4.การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และ 5.ส่งเสริมสนับสนุนการบ่มเพาะวิสาหกิจ เพียงเท่านี้ทุกมหาวิทยาลัยก็จะหันมาส่งเสริมสนับสนุนงานบ่มเพาะวิสาหกิจ โรงเรียนอนุบาลของทุกมหาวิทยาลัยจะเจริญเติบโตงอกงามทันตาเห็น
ชัยวุฒิ บุญวิวัฒนาการ
ความเห็น (2)
Yes let's have this one 3.การให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชน now. Just follow the model for หมอท้าวเปล่า (in Thailand, Cuba, China,... they are all good).
21312312313