การเดินทาง : ประตู
เวลาที่เดินทางไปนมัสการ ที่ "วัด"..หรือสถานที่ต่างๆ...
สิ่งหนึ่งที่ชอบสังเกตดูคือ..."ประตู"...
ประตูโบสถ์ ประตูศาลา ... หรือแล้วแต่..ที่มีการแกะสลัก
..
ภาพที่บันทึกไว้นี้..เป็นประตู ณ เจดีย์เก้าชั้น วัดหนองแวง
ที่บันทึกภาพเก็บเป็นซีรีย์ไว้...
มีลวดลายแกะสลัก...ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละบาน
และในแต่ละชั้นของเจดีย์...ก็มีลวยลายประตูไม่เหมือนกันด้วย
Note: บันทึกภาพด้วยกล้อง Fuji s9500 คะ...ใช้ระบบ manual...
ความเห็น (10)
อยากฟังว่าการมองประตูวัดหนองแวง ของกะปุ๋ม แล้วสะท้อนระบบคิดระดับจิตวิญญาน ตามสไตล์ของคุณกะปุ๋มว่าอย่างไรครับ
ผมว่าคนทำ และผู้ที่วางแผนและสั่งให้ทำต้องทีภูมิปัญญาซ่อนไว้มากมาย
เราพอจะถอดระหัสเป็นตัวอย่างได้สักนิดไหมครับ
ผมนับถือและชื่อมือคุณกะปุ๋มมากครับ
จะรอฟังครับ
ดร.แสวง..คะ
กะปุ๋มอยากอุทานว่า โห!!!..อาจารย์...นับถือ นับถือคะ...
...
กะปุ๋มอ่านความเห็นของอาจารย์แล้ว...ยิ้มและหัวเราะเลยคะ...เป็นโจทย์ที่ยากมาก..ในขณะเดียวกันก็น่าท้าทายมาก...กะปุ๋มยังไม่สามารถมากพอ...ยังเป็นผู้ที่ต้องเดินไปบนเส้นทางแห่งการเรียนรู้อีกยาวนานคะ...
...
แต่ชอบคำถามที่กระตุ้นทางปัญญาของอาจารย์มากคะ... โดนใจอย่างแรง...ทำให้เกิดความรู้สึกที่...อยากจะลองแลกเปลี่ยน...แต่ขอตั้งหลัก...แบบถอยไปไกลๆ..แล้วย้อนมองก่อนนะคะ...อิอิ...ง่ายๆ คือ ขอคิดพิจารณา...เพื่อหาคำตอบตามปัญญาของตัวเองก่อนนะคะอาจารย์...
หวังว่าโจทย์นี้..คงไม่มีเรื่องกำหนดเวลามาเป็นเงื่อนแห่งการหาคำตอบนะคะ...
(^__________^)
กะปุ๋ม
คุณ กะปุ๋ม ครับ,
คุณเป็นคนมีพลังจริงๆ ผมเชื่อว่าคนที่มีชีวิตระดับ จิตวิญญาณ และมีพลังความคิดอย่างนี้ หายากมาก เรามักจะมีเพียงด้านเดียว หรือมีชัดเจนเพียงด้านเดียว
ชาติต้องการคนอย่างคุณครับ ที่จะคอยประสานถอดรหัสในมิติต่างๆ ของธรรมชาติ สังคม และมนุษย์
คุณมีผลงานด้านจิต วิญญาณ สมาธิ ปัญญา เป็นหลักประกันความสามารถ อยู่แล้ว ทั้งหลักการและการปฏิบัติ
ขอเป็นกำลังใจ และจะคอยคำตอบครับ แล้วแต่จะพร้อมครับ ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น เพราะโดยส่วนตัวผมถือว่า เงื่อนไขทำให้ศักยภาพการสร้างสรรลดลง แต่อาจทำให้งานจบลงเร็วเท่านั้น
และที่สำคัญ งานแบบนี้รีบไม่ได้ และผมก็ทำไม่ค่อยเป็น จำเป็นต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ แน่นอนอยู่แล้วครับ
Late is better than never ครับ
เรียน ท่าน ดร.แสวง
ขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่งคะ...
ทุกครั้ง...ที่ไปวิ่งที่บึงแก่นนคร...กะปุ๋มจะแหงนหน้ามอง..พระธาตุ....พร้อมกับคำถามของอาจารย์..ที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิดทางปัญญา...
...
ณ ย่ำเย็นวันหนึ่ง..นั่งลงบนพื้นหญ้า...และล้มตัวลงนอนบนผืนหญ้านั้น และแหงนมองดูดาวและท้องฟ้า...พิจารณาเหตุและสิ่งที่เป็นไป...อดีต ปัจจุบัน..และน้อมนำไปสู่อนาคต...
วิถี..ภูมิปัญญา..ความคิด ความเชื่อ และความศรัทธา..สะท้อนออกมาสู่สิ่งๆ ต่างๆ...
รอการตกผลึกทางความคิด...ที่พิจารณา...ตามภูมิที่ตนมี...คิดว่าอีกไม่นานคะ...
...
(^___^)
กะปุ๋ม
มาแอบรอติดตามด้วยคนนะครับ
ชอบรูปแรกครับ รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างความมืดกับความสว่าง เพียงแค่ก้าวพ้นประตูออกไป ก็จะเจอโลกที่สวยสว่าง และเผชิญกับความเป็นจริงครับ
ขอเติมอีกนิดนะคะ..คุณเจษ...ในภาพแรกที่สำคัญ...
เป็นภาพที่ท่านพระพุทธเจ้า...บรรทม..และเทศนา
...
เกมือนเตรียมพร้อม..แห่งเรื่องราว...ของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน...
...
ขอบคุณนะคะที่แวะมาทักทาย..
(^_______^)
กะปุ๋ม
คุณกะปุ๋มครับ ขอสะกิดนิดเดียวครับ
การตีประเด็นต้องเริ่มที่กรอบคิด (conceptual framwork) นะครับ
รูปเดียวกัน แต่กรอบคิดต่างกันก็คนละความหมายนะครับ
และกรอบคิดก็น่าจะเป็นของคนคิด-คนทำ ไม่ใช่ของคนดูครับ
ถ้าคนคิดยังอยู่ก็ง่ายหน่อย แต่ถ้าไม่อยู่ ต้องไปเริ่มต้นที่อ่านความคิดเขาก่อนครับ
เช่นรูปควายในนาที่ผาแต้ม ที่โขงเจียม มีคนอ่านความคิดแบบนักเกษตรว่าเป็นการบันทึกถึงการทำนาแบบควายลาน
แต่สายงานอื่นก็คงจะอ่านเป็นแบบอื่น
แล้วเอามา debate ผสมผสานกัน ก็จะได้กรอบคิดที่พอจะน่าเชื่อหน่อย แต่ไม่จำเป็นต้องถูก (นี่คือความยากของการอ่านกรอบคิดคนอื่นครับ)
ลองดูนะครับ
หวังว่าจะพบกันที่งาน KM ครับ
ท่าน ดร.แสวง...
ขอบคุณอาจารย์มากคะ...ที่มาต่อเติมให้กระปุ๋มต่อยอดทางปัญญาอีกแล้ว...
(^________^)
กะปุ๋ม
ขอแสดงความนับถือ กับการเกาะติดสถานการณ์
สองปี เกือบสามปี ผมนึกว่าจะต้องรอชาติหน้าเสียอีก
คำตอบแม้จะไม่สมบูรณ์ แต่ก็แสดงถึงความพยายามครับ
ผมมีความเชื่อว่า ศิลป กับจิตวิญญาณ มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก
เช่นดินก้อนหนึ่งอาจดูไร้ความหมาย แต่ถ้านำศิลปแทรกเข้ามาปั้นเป็นพระพุทธรูป ผนวกกับความเชื่อ และจิตวิญญาณ คนจะกราบไหว้ และมีคุค่า ราคาสูงได้ เป็นแสน เป็นล้านก็มี
ไม้แผ่นหนึ่งก็เช่นกัน
เมื่อบรรจุศิลปเข้าไป อะไรก็เกิดได้ทั้งนั้น
ความเชื่อ และจิตวิญญาณ จะแฝงเข้ามาทันที
แล้วในกรณีภาพข้างบน มีระบบคิดอะไรบ้าง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ลองขยายอีกนิดได้ไหมครับ
อยากฟังจริงๆ
สองปีกับการหาคำตอบต่อ ดร.แสวง...ที่ไม่อยากตอบเพียงแค่ "วิชาการ"
เคยได้ฟังธรรมจากพระอาจารย์พรหม...เรื่องเสร็จแล้ว เสร็จแล้วเท่าที่เสร็จแล้ว ความว่า "ทางวัดได้สร้างศาลา ซึ่งทำได้เพียงแค่โครงหลังคาเท่านั้น แต่เนื่องด้วยพระในวัดต้องเข้าภาวนาในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา จึงได้ทำการหยุดสร้างศาลา โดยพระอาจารย์พรหมบอกว่าศาลานี้เสร็จแล้ว...มีโยมมาถามด้วยความสงสัย ท่านจึงอธิบายต่อว่า ศาลานี้ได้สร้างเสร็จแล้ว เสร็จแล้วเท่าที่เสร็จแล้ว..."
หากเราไม่วางลง มันจะไม่มีคำว่าเสร็จ...การวางเมื่อไร เมื่อนั้นเสร็จแล้วก็คือ เสร็จแล้ว...