ภัตตาคารบ้านทุ่ง....ณ บ้านแม่ตาด (๒)


"เพราะว่าพืชและผักพื้นบ้านไม่มีปากเสียง เขามีสิ่งดีๆ อยู่มากมาย แต่เขาพูดให้ใครฟังไม่ได้ ดังนั้น พวกผมจึงต้องพูดแทนเขา เพื่อให้ทุกคนรู้จักและมองเห็นคุณค่าของเขามากยิ่งขึ้น"

เรื่องเล่าจากบ้านแม่ตาด :

ภัตตาคารบ้านทุ่ง....ณ บ้านแม่ตาด (๒)

ตอน....ไปเก็บ "ผักจุ๋มป๋า"







เช้าวันที่ 4 ส.ค. ทีมงานภัตตาคารบ้านทุ่งได้เดินทางมาที่บ้านของผมตอน 6 โมงเช้า เมื่อมาถึงคุณสตังค์และทีมงานได้อธิบายขั้นตอนการถ่ายทำให้ผมฟัง เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดีมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้

คุณสตังค์บอกว่า รายการภัตตาคารบ้านทุ่งจะให้ความสำคัญกับการถ่ายทำในทุกๆ ขั้นตอน ไม่ใช่เฉพาะตอนการทำอาหารเท่านั้น หากแต่จะเริ่มถ่ายทำตั้งแต่การออกเดินทางไปเก็บพืชผักที่เป็นวัตถุดิบ หน้าตาของวัตถุดิบแต่ละอย่าง บรรยากาศตอนเก็บ การเก็บรักษา ประเภทของเครื่องปรุง การปรุงเมนูแต่ละอย่าง และปิดท้ายด้วยการล้อมวงรับประทานอาหารร่วมกันอย่างอบอุ่น โดยในแต่ละตอนนั้น จะใช้เวลาถ่ายทำ 2 วัน คือ ตอนไปหาหรือเก็บวัตถุดิบ 1 วัน และตอนปรุงเมนูอาหารอีก 1 วัน แต่เมื่อนำไปตัดต่อเป็นรายการเพื่อออกอากาศแล้ว จะเหลือเวลาอยู่เพียง 27 นาทีเท่านั้นเอง

ผมถามคุณสตังค์ว่าเพราะอะไรจึงสนใจทำรายการเกี่ยวกับเมนูอาหารจากพืชผักพื้นบ้าน คุณสตังค์ตอบว่า "เพราะว่าพืชและผักพื้นบ้านไม่มีปากเสียง เขามีสิ่งดีๆ อยู่มากมาย แต่เขาพูดให้ใครฟังไม่ได้ ดังนั้น พวกผมจึงต้องพูดแทนเขา เพื่อให้ทุกคนรู้จักและมองเห็นคุณค่าของเขามากยิ่งขึ้น"

เมื่อทีมงานและกล้องพร้อมแล้ว การถ่ายทำรายการภัตตาคารบ้านทุ่ง ณ บ้านแม่ตาดก็เริ่มขึ้น คุณสตังค์กับผมเดินไปตามคันนามุ่งหน้าไปที่ทุ่งนาซึ่งมี "ผักจุ๋มป๋า" ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีทีมงานนำกล้องมาติดตามถ่ายในทุกย่างก้าวที่เดินไป

บางช่วงเราก็หยุดทักทายชาวนาที่กำลังปั้นคันนาอยู่ บางช่วงก็หยุดพูดกับชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมาและหยุดถามว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ และบางช่วงทีมงานก็ทำการเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ของบ้านแม่ตาด เพื่อนำไปตัดต่อใส่ไว้ในรายการให้มากที่สุด กว่าจะเดินทางไปถึงทุ่งนาจุดที่มีผักจุ๋มป๋าขึ้นอยู่ ก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากบ้านของผมเพียงแค่ 800 เมตรเท่านั้นเอง 5 5 5

ณ ขณะนั้น ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในห้วงของความฝัน หัวใจพองโต และคล้ายๆ จะบินได้เลยทีเดียว 5 5 5











เมื่อไปถึงจุดนัดหมายกลางทุ่งนาที่มีผักจุ๋มป๋าขึ้นอยู่ คุณสตังค์และทีมงานได้กล่าวสวัสดีและทำความรู้จักกับชาวบ้านอีก 4 คน ที่ผมได้นัดหมายเอาไว้ล่วงหน้าเมื่อหลายวันก่อน ประกอบด้วยพี่แจ้ อ้ายศักดิ์ น้ามูล และน้าแก้ว ซึ่งแต่ละคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้น ยินดีและดีใจมากๆ ที่ได้เจอตัวจริงของคุณสตังค์พร้อมทีมงาน ที่สำคัญที่สุดก็คือจะมีโอกาสได้ออกรายการทีวีเป็นครั้งแรกในชีวิต

หลังจากคุณสตังค์ได้อธิบายขั้นตอนการถ่ายทำช่วง "เก็บผักจุ๋มป๋า" ให้ชาวบ้านฟังจนเข้าใจดีแล้ว จากนั้นทีมงานก็ได้ลงมือถ่ายทำช่วงที่ทุกคนกำลังช่วยกันเก็บผักจุ๋มป๋า ซึ่งมีการคัทและถ่ายใหม่อยู่หลายครั้ง กว่าจะถ่ายทำช่วงนี้เสร็จ ก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงด้วยกัน ซึ่งถือว่าเสร็จสิ้นการถ่ายทำรายการในวันแรก

จากนั้นพี่แจ้(สุมิตรา ปัญญาศรี) ก็เชิญทีมงานทุกคนไปที่บ้านสวนของตนเอง เพื่อทำอาหารทานร่วมกัน โดยพี่แจ้เป็นแม่ครัว มีคุณสตังค์และน้องๆ ทีมงานเป็นลูกมือ ซึ่งเมนูอาหารประกอบด้วย ยำผักจุ๋มป๋า ยำหน่อไม้ และแกงผักขี้ก๋วงใส่ปลาแห้ง

เมื่อทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ร่วมกันรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านสวนของพี่แจ้อย่างเอร็ดอร่อยและเต็มไปด้วยความอบอุ่นท่ามกลางบรรยากาศแบบบ้านๆ ที่แสนสวยงาม ก่อนจะเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านพักกันตามอัธยาศัยต่อไป



















(โปรดติดตามตอนต่อไป)


หมายเลขบันทึก: 612071เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2016 17:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม 2016 17:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

-สวัสดีครับ

-ตามมาชมภาพบรรยากาศเบื้องหลังการถ่ายทำครับ

-ทีมงาน...ทีมนี้่...เค้าเจ๋งๆ กันทั้งนั้นนะคร้าบ

-สรุปว่าผมยังไม่ได้ชิมเมนู"ผักจุ๋มป๋า"เลยน้าาา 555

-ขอบคุณครับ


ดีใจจัง ครอบครัวน้องเพลิน

กับครอบครัวน้องเพชร

ได้ร่วมในรายการโปรดของพี่มะเดื่อ

สุดยอดดดดด จะรอชมทางหน้าจอ

ทีวีจ้าาา

สวัสดีครับ คุณ เพชรน้ำหนึ่ง

- เพราะทีมงานมี "ผู้จัดการ" ที่ดี เวลาไปที่ไหนเลยมีแต่คนรักและประทับใจครับ 555

- ห่วงนี้ผักจุ๋มป๋ากำลังออกเยอะ หากมีโอกาสขึ้นมาเชียงใหม่ ขอเชิญแวะมาแอ่วที่บ้านแม่ตาดได้ครับ จะทำยำผักจุ๋มป๋าให้ชิมสักหนึ่งกาละมัง 555

สวัสดีครับ พี่คุณมะเดื่อ


-เดี๋ยวนี้เครือข่าย G2K ก้าวไกล ถึงขนาดชวนกันออกทีวีแล้วนะครับ 5 5 5

-ออกอากาศเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้านะครับ

สวัสดีครับ คุณหมอธิ

รสชาติคล้ายๆ ผักบุ้งนะครับ เพียงแต่มีรสขมอยู่ด้วยนิดๆ ครับ

ทางอีสานบ้านเฮาก็มี แต่ไม่ค่อยนิยมกินกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท