ดัดจริต...ให้ดี (2-162)


"...ตอนทุกข์ ร้องไห้ ยากลำบาก ไม่ต้องไปคร่ำครวญกับใคร คนอื่นก็มีความทุกข์ของเขาอยู่แล้ว ส่วนตอนมั่งมี มีความสุข พยายามแบ่งปันให้คนอื่น...จึงนับว่าเป็นยอดคน...

"ยามทุกข์โศก ยากลำบาก ทนเก็บกั้นกล้ำกลืน ยามสุขสันต์ แบ่งปันถ้วนทั่ว เพื่อนพ้อง"

:- เขียนไว้เมื่อปี 2535

.................

ได้อ่านโพสต์ของคุณ Jirachai Su เรื่องการส่งต่อเมล็ดพันธุ์ที่ดีงามให้ผู้อื่นแทนการส่งต่อเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดี

จึงระลึกถึงคำสอนเก่าแก่ของแม่ที่ว่า... "...ตอนทุกข์ ร้องไห้ ยากลำบาก ไม่ต้องไปคร่ำครวญกับใคร คนอื่นก็มีความทุกข์ของเขาอยู่แล้ว ส่วนตอนมั่งมี มีความสุข พยายามแบ่งปันให้คนอื่น...จึงนับว่าเป็นยอดคน...☺"


เดี๋ยวนี้เราจะเห็นหลายคนใช้สื่อสาธารณะเป็นที่ระบายอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ทั้ง รัก ชอบ โกรธ เกลียด โมโห จนมีเรื่องมีราวทะเลาะขัดแย้งกันก็มาก การเขียน/โพสต์ด้วยอารมณ์ที่ไม่ทันคิดจนไปก้าวล่วงกระทบใจคนอื่น ต้องมีการโพสต์ขอโทษทางสื่อก็มีให้เห็น สำหรับเพื่อนๆ ใน Face Book หรือบล็อกอื่นๆ หลานๆ เพื่อนพ้องใกล้ชิด ก็ได้แต่เตือนอ้อมๆ เมื่อมีโอกาส แต่เรื่องแบบนี้ ต้องตระหนักด้วยตนเอง จึงจะแก้ไขได้ หากไม่ตระหนักถึงประเด็นละเอียดอ่อนเหล่านี้ ก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม...


ไม่ทราบว่าใครเป็นแบบผู้เขียนบ้าง หากเจอโพสต์/บันทึกไหนที่ใช้คำในแง่ทุกข์/แง่ลบ/คำด่าทอ หรือใช้ข้อความที่มีนัยของการเสียดสีกระทบกระเทียบเปรียบเปรย ก็จะไม่ค่อยอยากอ่าน เพราะรู้สึกไม่สบายใจ และเราก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ด้วย...


ดอกไม้ริมรั้วที่ Ipoh


บางคนบอกว่า...การบ่นการรำพันบอกเล่าความทุกข์ หรือ โพสต์/เขียนระบายอารมณ์บนสเตตัส ช่วยให้สบายใจขึ้น ทำให้ผ่อนคลายหายเครียด...นี่นา ไม่งั้นอัดอั้นใจตาย อีกอย่างก็มันเป็นสิทธิ์และเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะทำอะไรก็ได้ (ใครจะทำไม) อย่ามาทำเป็นดัดจริตมองโลกแง่ดีหน่อยเลย...

ตามหลักการทางจิตวิทยา การได้ระบายความทุกข์ มีคนรับฟังเรา แม้ไม่ได้พูดโต้ตอบหรือให้ข้อแนะนำอะไร เราก็คลายทุกข์แล้ว แต่...ส่วนตัว(ไม่ได้ตำหนิใคร) เลือกที่จะระบายเฉพาะกับเพื่อนสนิท คนใกล้ชิด ไม่ชอบรำพันทุกข์ต่อสาธารณะ ด้วยรู้สึกว่าจะเป็นการกระจายความทุกข์โศกไม่สบายใจไปให้คนอื่นๆ ที่บังเอิญได้มาอ่านโดยไม่จำเป็น

จะว่าไป...แต่ละคนต่างมีวิธีการจัดการกับ "อารมณ์/สิ่งเข้ามากระทบ" ต่างกันไป ไม่มีใครที่สามารถแนะนำวิธีการที่เหมาะสมกับเราได้เท่ากับตัวเอง ตัวผู้เขียนเอง มักจะใช้วิธี "เขียนบันทึก" เพื่อ เรียบเรียงความคิด วิเคราะห์ พิจารณาเรื่องราว (ความทุกข์/ไม่พึงใจ) ที่เกิดขึ้น เมื่อได้ "ข้อสรุป" แล้ว หลายครั้งก็จะนำมาเขียนเป็น "บันทึก" หรือโพสต์ต่อสาธารณะ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และเตือนใจตนเอง และพบว่าเป็นวิธีการที่ดีมาก เพราะเราเขียนด้วย "สติ" ที่ไตร่ตรองดีแล้ว ได้สอนทั้งตัวเองและอาจมีประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ในบางกรณีด้วย


แต่...ก็นั่นแหละนะ ต่างคนต่างความคิด ต่างวิธีการ ใครคิด พูด ทำอะไร ย่อมเลือกและต้องพร้อมยอมรับผลนั้นเอง ดังที่ว่า ปลูกสิ่งใด ได้สิ่งนั้น แล้วแต่ว่าเราจะเลือกเพาะพันธุ์และส่งต่อ "เมล็ดพันธุ์" แบบไหน...


เอาเถอะ... ใครจะว่า ดัดจริตมองโลกแง่ดี... คิดในใจว่า ดีกว่า ดัดจริตมองโลกแง่ร้ายล่ะน่า...☺

หมายเลขบันทึก: 591747เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2015 13:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน 2015 13:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สำหรับผม การเขียนบันทึก หรือ FB เป็นการแสดงออกว่า เรามีตัวมีตน มีของของเรา ว่าตัวว่าตนของเรา.... เฮ้อ มันก็ยากเนาะ ที่จะลดลงได้ .... ข้าน้อยก็ยังทำไม่ได้เล้ยยยย 5555

สวัสดีค่ะท่าน วิชญธรรม

พี่เองก็คล้ายกันค่ะ ความจริงการเขียนบันทึก โพสต์อะไรต่างๆ ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองแท้ๆ นั่นคือ อยากบันทึก อยากแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองรู้ อยากให้เพื่อนๆได้รู้เหมือนๆ กัน อยากๆๆๆๆ

สรุปว่า...เพื่อกิเลสล้วนๆ แต่เป็น กิเลสที่พอจะแก้ตัวได้ว่าเป็นกิเลสที่ละเอียดขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง...เนาะ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท