ระบบนิเวศน์ของป่าใหญ่ ประกอบขึ้นต้นไม้น้อยใหญ่ และพืชนา ๆ พันธุ์ อยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก
ทุกต้นเจริญเติบโตอย่างสมดุล ด้วยการ ช่วยเหลือพี่งพาอาศัยกันกันและกัน
โดยไม่ต้องพึ่งอาศัยอาหารจากภายนอก ในแต่ละปีต้นไม้ทุกต้นก็ทำหน้าที่ของตัวเอง
โดยการสร้างอาหาร หายใจ สร้างใบ สร้างลำต้น ผลิ ดอก ออกผล ตามธรรมชาติ
ทุกฤดูกาลต้นไม้แต่ละต้นก็จะผลัดใบ ดอก ผล ร่วงหล่นลงผืนดิน
ก็จะกลายเป็นอาหารของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ และสิ่งมีชีวิตเช่นจุลินทรีย์เล็ก ๆ
ก็ทำหน้าที่ช่วยกัน กินย่อยจนซากพืชเหล่านี้ เน่าเปื่อยผุพังทับทม หมักหมม
จนกลายเป็นธาตุอาหารที่เรียกว่า ปุ๋ย และรากของต้นไม้ ก็ดูดกินกลับเข้าไป
เพื่อเลี้ยงบำรุงลำต้นใบดอก เจริญงอกงามเติบโตขึ้น ทุก ๆ ปี
โดยกินใบของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยซึ่งเป็นธาตุอาหารภายนอก
ถ้าจะเปรียบสหกรณ์กับผืนป่า ต้นไม้น้อยใหญ่ก็คือสมาชิกสหกรณ์ที่มีฐานะแตกต่างกัน
ใบไม้ที่ร่วงหล่นก็คือเงินทุนที่สมาชิกสละสะสมลงไปในองค์กรสหกรณ์
พื้นดินก็คือองค์กรสหกรณ์ที่รองรับเงินทุน
สัตว์และสิ่งมีชีวิตเล็กที่ที่ทำหน้าที่ย่อยใบดอกผลก็คือเจ้าหน้าที่และ
คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการกิจการให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิก
การกินใบของตนเอง ก็เสมือนการช่วยตนเอง
ส่วนการอยู่ร่วมกันโดยกินใบของต้นไม้ที่เน่าเปื่อยผุพัง
ก็คือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามอุดมการณ์สหกรณ์
เมื่อใด..ที่ใบไม้ล่วงหล่น...สามารถเปลี่ยนเป็น..คุณค่า..ทางการแลกเปลี่ยน..เหมือนธนบัตร..อีกรูปแบบ..เหมือน..เงินตราแลกเปลี่ยนที่มีอยู่ในปัจจุบัน..อีก..สกุลหนึ่ง.....(สหกรณ์น่าจะ..จัดรูปการณ์ตามอุดมการณ์..ใหม่ๆ..ได้..นะ..)...ระบบสมบรูณ์บรูนาการณ์..ทางธรรมชาติ..ที่อยู่ร่วม..อย่างไม่สิ้นหวังดังปัจจุบัน...
ขอบคุณคุณยายธี มากครับ