บทเรียนจาก สมศ....ทำให้ก้าวต่อได้อย่างมั่นใจ


บางที..เหมือน สมศ จะไม่รู้หรือลืมไปว่า..โรงเรียนของสพฐ.ทุกวันนี้ มิได้ทำงานสอนอย่างเดียว มีธุรการจิปาถะ มีสัมพันธ์ชุมชนและสัมพันธ์กับเขตพื้นที่ มีอบรมสัมมนา มีงานราชการมากมาย ที่บั่นทอนเวลาและคุณภาพการศึกษาไป..อันนี้..เป็นเรื่องเสมือนบ่น แต่เป็นเรื่องจริงในระดับรากหญ้าที่น่าจะคิดเห็นใจ

ผมบอกความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา ในบันทึกที่ผ่านมา..ว่าอยากลาออกจากราชการ..หลายคนเข้ามาให้กำลังใจ บางท่าน..ก็ถามว่า ใจสู้หรือเปล่า มีบางท่านตั้งข้อสังเกตว่า อ่อนแอไปไหม..ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ใจมันกล้าพอที่จะทำ เพราะชีวิตนี้มีความพร้อมระดับหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งก็เบื่อระบบการศึกษาเป็นอย่างมาก คนที่บ้านไม่ค่อยจะคล้อยตามความคิด เนื่องจากเธอชอบสอนหนังสือ และไม่ค่อยจะอินังขังขอบกับเอกสารเท่าไรนัก

สรุปว่า..ผมยังอยู่และสู้ต่อ สมศ.กลับไปแล้ว ผมยังคงเหนื่อย และสอนหนังสือและฝึกคุณธรรมให้เด็กเหมือนเดิม โรงเรียนก็ยังสะอาด สวยงาม ร่มรื่นเป็นปกติ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม คือความคิดความอ่านที่ผมได้รับจากบทเรียนที่สมศ.แนะนำไว้

เขาก็พูดดี มีจิตวิทยา วันที่สามของการประเมิน เขาได้สรุปทั้งหมด ก็ไม่ได้ตำหนิติติงให้พวกเราช้ำอกช้ำใจไปมากกว่านี้ แต่ถึงจะพูดมากแบบมีหลักการมากมายอย่างไร เรารับฟังได้ แต่.. เราก็คงทำอะไรไม่ได้มาก ..เพราะเรามองตนออก บอกตนได้ ใช้ตนเป็น ทั้งเวลา สุขภาพและปริมาณงาน มันไม่ธรรมดาเลย

ในการที่จะทุ่มสุดตัว ทั้งสองอย่าง ทั้งงานสอน..งานเอกสารปั้นแต่ง ที่ต้องทำให้เข้ามาตรฐานตามตัวชี้วัดที่นับไม่ถ้วน จึงคิดสั้นๆ แบบเข้าข้างตัวเองว่า..น่าจะทำอย่างไรก็ได้ สอนด้วยวิธีไหนก็ได้ ทำงานอย่างไรก็ได้ ที่เอาใจเข้าไปใส่อย่างตั้งใจและจริงจัง แล้วผลมันออกมาดี คือเด็กไม่โง่ และก็ฉลาดแบบไม่เห็นแก่ตัว รักและช่วยเหลือกัน อ่านออก เขียนได้ ลายมือดี มีผลสัมฤทธิ์ดีแบบพอใช้ได้ ไม่ตกต่ำจนน่าเกลียด ก็เอาละมั้ง..กับครูผู้สอนเพียง ๕ คน

บางที..เหมือน สมศ จะไม่รู้หรือลืมไปว่า..โรงเรียนของสพฐ.ทุกวันนี้ มิได้ทำงานสอนอย่างเดียว มีธุรการจิปาถะ มีสัมพันธ์ชุมชนและสัมพันธ์กับเขตพื้นที่ มีอบรมสัมมนา มีงานราชการมากมาย ที่บั่นทอนเวลาและคุณภาพการศึกษาไป..อันนี้..เป็นเรื่องเสมือนบ่น แต่เป็นเรื่องจริงในระดับรากหญ้าที่น่าจะคิดเห็นใจ

คำพูดของ สมศ ก็ดูเหมือนจะเห็นใจ ที่เห็นเรามีครูน้อย เพียง ๕ คน ไม่ครบชั้น ไม่เข้าเกณฑ์มาตรฐานอยู่แล้ว แต่ก็พยายามจะช่วยเรา โดยดูที่คุณภาพและปริมาณงาน เพื่อเราจะได้ผ่านดี หรือได้ดีมาก.... เราจึงรู้สึกว่าเราจะต้องงานหนักขึ้นอีกใช่ไหม แค่นี้ยังไม่พอใช่หรือไม่..แม่เจ้า

เหมือนอยากให้เราสร้าง ให้เราทำขึ้นมาเป็นหลักฐาน..ประกอบการทำงาน แทนที่เราจะใช้เวลาแต่ละวัน หมดไปกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ใกล้ชิดและแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากที่สุด..แต่ต้องไปเสียเวลากับงานกระดาษ...

ท้ายที่สุด..กรรมการของสมศ.ก็ให้ข้อคิดและเป็นบทเรียนที่ดีว่า..เอกสารก็ต้องมีบ้าง แต่อย่าเยอะเสียจนบอกอะไรไม่ได้ ทำง่ายๆ กระชับ สั้นๆ แต่วัดความสำเร็จได้ว่า ทำจริง เห็นผลจริง เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างไรกับเด็ก กับชุมชน.. เป็นที่พอใจของทุกฝ่ายอย่างไร

ครับ..ผมจะจำ แล้วนำไปปรับใช้..ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ครูหรือใคร แต่อยู่ที่เราไม่มีความรู้ที่แท้จริง..ที่ผ่านมา..เราเบื่อ..เพราะมีแต่คนเขียนเสือให้วัวโง่ๆอย่างเราเบื่อและกลัว ต่อไปนี้เราจะสู้..และก้าวต่ออย่างมั่นใจ ด้วยการทำงานประกันคุณภาพภายใน พยายามจะทำทุกวันและทำทุกคน....มากกว่าที่จะทำตามเกณฑ์สมศ.เพื่อหวังประกาศ..ได้รับการรับรอง..แต่ข้างในกลวงและหลอกตัวเองและสังคมไปวันๆ

เพราะเราคิดอยู่เสมอว่า..มีสมศ.มากี่ปีแล้ว ประเมินมาก็ ๓ รอบ..การศึกษาไทยดีขึ้นบ้างไหม ได้ดีมากมาแล้วกี่หมื่นโรงเรียน..เด็กอ่านไม่ออกกี่ล้านคน ดังนั้น..ผมจะทำตามที่กรรมการฯแนะนำในบางประเด็นเท่านั้น ที่ตรงกับศักยภาพและบริบทของโรงเรียน และเชื่อว่า..เพียงพอ..ที่จะไม่ทำให้โรงเรียนตกต่ำ..อย่างแน่นอน..ไม่เชื่อก็ลองติดตามก็แล้วกัน

 

ชยันต์    เพชรศรีจันทร์

๓ มิถุนายน ๒๕๕๗  

 

หมายเลขบันทึก: 569705เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2014 19:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2014 22:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สมศ จะไม่รู้หรือลืมไปว่า..โรงเรียนของสพฐ.ทุกวันนี้ มิได้ทำงานสอนอย่างเดียว มีธุรการจิปาถะ มีสัมพันธ์ชุมชนและสัมพันธ์กับเขตพื้นที่ มีอบรมสัมมนา มีงานราชการมากมาย ที่บั่นทอนเวลาและคุณภาพการศึกษาไป..อันนี้..เป็นเรื่องเสมือนบ่น แต่เป็นเรื่องจริงในระดับรากหญ้าที่น่าจะคิดเห็นใจ

ผมว่าเขาไม่คิดหรอกครับ

ถ้ายุบหน่วยงาน สมศ การศึกษาไทยจะดีขึ้น

เชื่อผมเถอะ   ฟิล์นแลนด์ ไม่เห็นต้องประเมินบ้าเลือดแบบเรา ทำไมการศึกษาเขาดี

สมศ.อาจจะมีคีย์ตัวหนึ่งของระบบเท่านั้น แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะทำให้ระบบการศึกษาของไทยมีมาตรฐานขึ้น

อีกทั้งคำว่า "มาตรฐาน" ของคนเรามันจะเท่ากันไปได้อย่างไร

ใกล้จะเห็นจริงตามอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ว่าแล้วครับ ;)

แม้จะไม่เคยเห็นด้วย  และไม่เคยใส่ใจกับ ผลการประเมินของ สมศ. เท่าไรนัก  แต่ก็ยอมรับในส่วนหนึ่งว่า  ในมุมมองของคนที่มาอยู่กับเราเพียง  3  วันนั้น  มันก็ให้ข้อสังเกตกับเราได้ในบางอย่าง  โดยเฉพาะในเรื่องที่เรามองข้ามไป หรือไม่เคยมองเห็น......ติเพื่อก่อ....ไม่ใช่ยอให้เหลิง....ทำให้เรารู้จักตัวเองมาขึ้นจ้ะ   ดีใจที่มีกำลังใจสู้แล้วนะ...ดี ๆๆๆๆๆ

ท่าน ผอ.ทำได้แน่นอนค่ะ


สู้ๆๆ ค่ะ เปลี่ยน ท้อแท้ เป็นพลังๆๆ นะคะ  ...


โอ้โห งานครูนี่หนักจริงๆเลยนะคะผอ.

ได้เห็นตัวชี้วัดของฝ่ายการศึกษา เยอะกว่ามาก และดูจริงจัง  แต่ไม่ค่อยได้ซาบซึ้งถึงวิธีเข้าประเมินค่ะ 

เคยทำงานใกล้ชิดกับโรงเรียนมานาน เข้าใจดีว่าโรงเรียนงานเยอะ ทั้งงานสอน งานเอกสาร และงานที่ไม่เกี่ยวกับการสอน  ครูทำงานหนักมาก  เข้าใจและเห็นใจ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท