ลดอาหารเค็มได้ครึ่งหนึ่ง ห่างไกลสารพัดโรค
กันต์นธีร์ ตาคำ นักโภชนาการ CDT งานโภชนาการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ให้ความรู้ว่า ปกติแล้วคนในวัยผู้ใหญ่ควรได้รับโซเดียมประมาณวันละ 230 มิลลิกรัมหรือประมาณ 1 ใน 10 ของ 1 ช้อนชาเท่านั้น หากเรารับประทานเกินกว่าที่กำหนดไว้เป็นประจำ ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองแตก ไตวาย และกระดูกพรุน
ในขณะเดียวกันคนที่เริ่มเป็นโรคดังกล่าว ควรระมัดระวังอย่างจริงจังไม่เช่นนั้นอาจมีภาวะแทรกซ้อนกลายเป็นโรคเรื้อรัง และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
แร่ธาตุ ’โซเดียม” มีอยู่ในอาหารที่เรารับประทานเข้าไปทุกวันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเฉพาะเครื่องปรุงรสอย่างผงชูรส ที่เจือ ปนอยู่ในอาหารประเภทวัตถุปรุงแต่งรสอาหารที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีคุณสมบัติเพิ่มรสชาติอาหารให้ดีขึ้น จากรสชาติพื้นฐาน 4 รส คือ รสหวาน เค็ม เปรี้ยว ขม
จากการศึกษาพบว่ารสชาติของผงชูรสสามารถกระตุ้น Glutamate Receptor แล้วทำให้เกิดรสชาติเฉพาะตัวที่เรียกว่า รสอูมามิ เป็นรสที่ 5 นอกจากนี้ยังมีอาหารอีกชนิดที่เรามักมองข้ามไปคือ ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ ที่มีโซเดียมและผงชูรส ถ้ารับประทานทุกวันจะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมเกินปริมาณที่กำหนด
เครื่องปรุงอาหารให้อร่อยมีหลายอย่างมากเช่น น้ำปลา ซีอิ้ว ซ็อส เต้าเจี๊ยว เกลือ ฯลฯ
ลดเค็มปรุงอาหารแต่ละอย่างในแต่ละมื้อ ต้องให้พอดีนะคะ
(ขอบคุณ ลดเค็ม ฯ จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และภาพ เครื่องปรุง จากอินเทอร์เน็ต )
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
วันเสาร์ที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ ๒๕๕๗
น่ากลัวนะครับ
แถมเด็กสมัยนี้ไม่รู้ด้วย
กินอย่างเดียว
ขอบคุณพี่มากครับ
เป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบรสเค็มเลย ทานก๋วยเตี๋ยวก็ไม่เติมน้ำปลาค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะพี่ดา
คิดถึงนะคะ
ครัวบ้านดิฉันเค็มน้อย ชอบใช้เกลือทะเล มากกว่น้ำปลาที่น่าจะผสมผงชูรสอยู่ในตัวแล้ว
แค่อาหารสด รสชาติแท้ๆ ของอาหารก็อร่อยแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ เข้ามเยี่ยมชมพและ ทุกๆดอกไม้และกำลังใจที่มอบให้บันทึก ลดอาหารเค็ม ฯ