ห้องเรียนที่กว้างใหญ่ที่เรียกว่าโลก : ความโชคร้ายอาจเป็นเพื่อนกับความโชคดี


"เรามักคิดว่าเราจะพบความมหัศจรรย์ในการลดน้ำหนักพอๆกับคิดว่ามันจะมีวิธีลัดที่เราจะเก่งภาษาอังกฤษ"

 

 

ใครจะรู้ว่าในความโชคร้าย...อาจเป็นเพื่อนกับความโชคดี


       ทันทีที่เครื่องบินลงที่ Heathrow Terminal 3 เกือบสุดสายของ Piccadilly (Underground สายสีน้ำเงิน)
เราเลือกเดินทางไปที่พักด้วยแท็กซี่ เพราะคงจะสะดวกที่สุด (พิจารณาจากสัมภาระของแต่ละคน)

               

 

                        ภายในรถแท็กซี่ ผู้ร่วมผจญภัยด้วยคือ 2 สามีภรรยา (พี่อั๋นและพี่ต่อง)

      ที่พักของเราคือ Heathrow Lodge ตั้งอยู่ห่างจาก London Heathrow Airport
(ซึ่งตอนหลังเราเปลี่ยนมาขึ้นรถบัสฟรีที่รับ-ส่งระหว่างที่พัก โรงแรมที่สัมมนา และสถานี underground

      แม้เราจะมาถึงก่อนเวลาที่จะ check-in แต่พนักงานต้อนรับก็ยินดีต้อนรับเรา
เพียงแต่ขอให้เรารอเคลียร์ห้องประมาณ 20 นาที
ระหว่างนั้นเอง...เราก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่ ครอบครัวหนึ่ง เบี้ยงค่าห้องพัก
แล้ววิ่งหนีออกไป ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หน้าแปลกใจมาก
ในใจตอนนั้นก็แอบกังวลว่า...ที่พักไม่ดีหรือผู้เข้าพักนั้นแหละไม่ดี
นี่คือความรู้สึกหนึ่ง...ที่เราจะได้รับระหว่างการเดินทางครั้งนี้คือ 
ความแอบกังวลใจนิดๆ เพราะเป็นการอยู่ในต่างแดนที่เราต้องช่วยดูแลกันและกัน
แต่นั้นก็เป็นเรื่องดี...ในแง่ที่ทำให้เราระมัดระวังมากขึ้น

      แล้วบทเรียนแห่งความโชคร้ายบทที่ 1 ก็เดินทางมาเยือนเมื่อพบว่าเงินที่แลกมาไม่มาสามารถจ่ายค่าห้องพักได้
เราแลกเงินมาจากSuperrich since 1965 แถวแพลทตินัมร้านสีส้มมาปรากฏว่าเป็นใบ 50 ปอนด์
ที่เค้าเลิกใช้ไปแล้วต้องแลกคืนที่แบงก์ชาติของลอนดอนปัญหาคือจะไปยังไง...หรือถ้าจะแลกตาม..Exchange ในลอนดอนคิดค่าแลก 5% 

>>>จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการจ่ายด้วยบัตรเครดิต<<<


     เนื่องจากครูปุ้มเป็นคนรับหน้าที่ไปแลกเงินมาด้วยตัวเอง
จึงเสียเซลล์อยู่พักใหญ่...คิดกลับไป-มาว่า...ไม่น่าทำกับเราได้เลย

เมื่อเข้าห้องพัก จัดเก็บข้าวของ เรามีนัดกับลูกพี่ลูกน้องของพี่อั๋นที่จะพาเราเที่ยวในวันนี้

                    
                              บรรยากาศในห้องพักและตัวอาคารห้องพัก

     ถ้าเป็นเกม ต่อไปคือด่านของการซื้อตั๋วรถ underground เพราะจะมีหลากหลายแบบ
เช่น เดินทางวันเดียว เดินทาง 5-7 วัน จากนั้นยังต้องดู Zone อีกว่าเราจะซื้อโซนไหนบ้าง
เจรจารกันอยู่พักหนึ่งเราก็เลือกซื้อ Osyter card ซึ่งสามารถเติมเงินได้และเมื่อเลิกใช้ก็ได้ค่าเช่าบัตรคืน

      เราช่วยกันพิจารณาเส้นทาง เนื่องจากตอนแรกเรานัดกันที่ King's cross แต่พอมองเห็น
สถานี Embankment จึงคิดกันว่า มันน่าจะเป็นสถานีใกล้ๆ "ธนาคารนะ"
จึงเลือกที่จะขอเปลี่ยนที่นัดเป็น สถานี Embankment แทน
แม้มันจะเป็นตรรกะที่ตลก แต่กลับกลายเป็นความโชคดีของเรา...

       การลงที่สถานีนี้ทำให้เราสามารถเดินเที่ยว Victoria embankment garden
London eye มองเห็น Big Ben ได้เดินเที่ยว Southenbank ได้อีกด้วย

       "แม้ว่าบางครั้งชีวิตจะถูกโชคร้ายเล่นงาน แต่ต้องเดินทางต่อไป ไม่แน่นะ
ความโชคร้ายอาจเป็นเพื่อนที่นำความโชคดีมาหาเราก็ได้"

       ออกจากสถานี Embankment ถ้าเดินไปด้านหลังจะเจอ Victoria embankment garden 
แต่ถ้าเดินออกจากมาที่ถนน ข้ามสะพ้านไปจะไปเจอ Southenbank คะ

                   

 

    

       บอกได้เลยว่าภายในใจ "กระโดดโลดตื่นเต้น"  เดินเล่นไม่มีเหนื่อย จะเสียดายอย่างเดียวคือ
การทำการบ้านอ่านเรื่องราวความเป็นมาของแต่ละที่น้อยเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกหายใจลึกเต็มปอด สมองปลอดโปร่ง
ดีใจเหมือนวิ่งถึงเส้นชัยในสมัยที่ยังเป็นเด็ก (ไม่ต้องได้ที่ 1 นะคะ เอาแค่ถึงเส้นชัยคะ) มันเหมือนฝันที่เป็นจริงคะ

       เราเดินข้ามสะพาน เมื่อมองด้านขวามือจะเห็น London eye ท้าทายสายตาเราอย่างสวยงามมองลิบๆจะเห็น Big Ben 

 

                       

     

                       เดินข้ามสะพานไปเพื่อที่จะไปที่ London Eye ใต้สะพานมีเทศกาลอาหาร (ราคาไม่แพงด้วยคะ)

 

                     
                                                    มุมจากใต้สะพาน

 

        

                                  ระหว่างเดินไปที่ London Eye ก็เจอการเต้นโชว์ แต่คนมุงเยอะมากคะ       

 

      เราเจอพี่ที่นัดกันไว้คะ พี่ๆมาเรียนป.เอกที่นี้ (บอกได้เลยว่าแอบปลื้มแทนมากๆคะ) สถานที่ต่อไปคือ Tower Bridge london คะ ไปดูภาพบรรยากาศกันนะคะ

 

                
                                    Tower Bridge London   ภาพนี้ฝีมือพี่โอ๊ตคะ

                

                 

 

                                        แสงสี...สว่างไสว  ตื่นตา...ตื่นใจ

 

            

 

                       ปิดทริปคืนนี้ด้วย Fish and Chips เมนูที่ต้องลองเมื่อมาเยือน London คะ

               

 

 

 เรื่องที่คิดได้ระหว่างเดินเที่ยวคืนนี้....

ความพร้อมของร่างกายมีค่าเทียบเท่าทักษะในตัวตน แม้บางครั้งไม่รู้ว่าจะได้ใช้ในตอนไหน...แต่มันได้ใช้แน่นอน
- เรามักคิดว่าจะออกกำลังกายพอๆกับจะพัฒนาตนเองด้านภาษา
- เราจะคาดหวังว่าเราจะไม่ป่วยพอๆกับคิดว่าเราคงยังไม่ได้ใช้ภาษาในเร็ววัน
- เรามักคิดว่าเราจะพบความมหัศจรรย์ในการลดน้ำหนักพอๆกับคิดว่ามันจะมีวิธีลัดที่เราจะเก่งภาษาอังกฤษ
- เรามักจะคิดว่าเราควรจะพอใจในตนเองแต่เราก็เสียใจทุกครั้งที่ใส่ชุดที่อยากใส่ไม่ได้พอๆกับคิดว่าประโยคแบบนั้นเราก็รู้แต่มันนึกไม่ออกเวลาจะพูด
---ความพร้อมของร่างกายกับความพร้อมในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องคล้ายกันมากคือเราต้องฝึกฝนและเตรียมความพร้อมอยู่เสมอเพื่อให้เกิดการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าร่่างกายไม่แข็งแรง...ก็เหนื่อยง่ายเมื่อต้องเดินทางไกลและแพ้ต่อเชื้อโรคได้อย่างง่ายดาย...เช่นเดียวกับถ้าภาษาไม่แข็งแรงเราก็พลาดเรื่องการสื่อสารอย่างน่าเสียดาย...

 

   "เรามาเตรียมความพร้อม ความแข็งแรงของร่างกายกับความแข็งแรงทางภาษาอังกฤษกันเถอะคะ"

คำสำคัญ (Tags): #london eyes#tower bridge
หมายเลขบันทึก: 555960เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2013 22:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มกราคม 2014 14:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)


.... การท่องไปในที่ต่างๆ ... ทำให้เราได้เรียนรู้ นะคะ ....


ขอบคุณค่ะ

สวัสดีคะ Dr. Ple (ขออนุญาตเรียกพี่เปิ้ลนะคะ)

เป็นการเรียนรู้ที่ต้องอาศัยทักษะทั้งหมดที่มีเพื่อเอาตัวรอดเลยคะ
เพราะเราไปกันเอง ไม่มีทัวร์คะ สนุกไปอีกแบบคะแค่ 10 วัน แต่ได้เรียนรู้มากมายจริงๆคะ

ด้วยรักคะ

ปุ้ม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท