“เดี๋ยวก็รู้ สุขนาฏกรรมมันเป็นยังไง”
เป็นการหยอกของอาจารย์แพทย์ที่ทราบข่าวเมื่อผมมีลูกคนแรก
การเป็นพ่อแม่น่าจะมีความสุขนะครับ
แต่ถ้าถามคนเป็นพ่อแม่จริงๆไม่ได้เป็นอย่างนั้นไปเสียหมด
ความเครียด และวิกฤติจากลูก ปรากฏกายขึ้นเป็นระยะๆ
เรียกว่าไว้ทดสอบสมรรถนะพ่อแม่กันเลยทีเดียว
สังเกตอีกนิดกลับพบว่า
พ่อแม่บางคู่ผ่านวิกฤติต่างๆได้ง่ายๆ
บางคู่ก็ยุ่งยากมาก หรือบางครั้งผ่านไปไม่ได้เลย
อะไรเป็นปัจจัยที่มีผลทำให่พ่อแม่ทั้งสองกลุ่มแตกต่างกัน
สุขภาพกายที่แข็งแรง เป็นต้นทุนสำคัญ
พ่อแม่ที่ปัญหาสุขภาพทำให้ความสามารถในการดูแลลูกลดลงไม่มากก็น้อย
ความสำคัญของสุขภาพจิตเห็นชัดจากพ่อแม่ที่เป็นโรคจิต
บางครั้งลูกได้รับผลกระทบปางตายทีเดียว
แต่สุขภาพจิตที่ดี มีความเข้มแข็งทางใจ
เป็นต้นทุนที่พาครอบครัวผ่านพ้นวิกฤติทุกครั้งได้เป็นอย่างดี
การศึกษาและภูมิธรรมของพ่อแม่
ทำให้ครอบครัวห่างไกลจากภัยร้าย และชนะมารง่ายกว่า
การมีญาติมิตรที่เอื้อเฟื้อเป็นอีกอย่างที่รองรับเราเมื่อตกอยู่ในวิกฤติ
ทรัพย์สินทำให้พ่อแม่มั่นใจที่จะเลี้ยงลูกให้เติบโต
และได้เล่าเรียนตามความถนัดของลูก
ในทางกลับกันพ่อแม่ที่มุ่งทำงานหาทรัพย์สินเกินพอดีก่อปัญหาให้ลูกมากกว่า
การน้อมนำปรัชญาพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต
ก่อเกิดความสมดุลในครอบครัวได้ง่ายกว่า
กล่าวถึงตรงนี้ พ่อแม่ที่มีสุขภาพกายแข็งแรง
หมั่นออกกำลังกาย กินอาหารพอเหมาะ ไม่ใช้สุราและบุหรี่
คิดดีทำความดี พูดดีส่งเสริมให้สุขภาพจิตดี
ได้อยู่กับสังคมที่เอื้อเฟื้อ มีเศรษฐานะพอประมาณ
หมั่นศึกษาหาความรู้และปฏิบัติตนในศีลในธรรม
ย่อมทำให้การเลี้ยงลูกอย่างเหมาะสม ราบรื่นขึ้น
การเป็นพ่อแม่ที่มีความสุข ไม่ไกลเกินเอื้อม
เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคนนะครับ
ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก http://www.123rf.com/
เรียน...หมอจันทร์ยิ้ม
ตอนนี้ "สุขสุขนาฏกรรม" มาสู่หลาน
ตอนมีลูก ไม่ค่อยได้ ดูแลมากนัก เพราะเศรฐกิจครอบครัว
แต่พอมีหลานก็ชดเชยสุข มาสู่หลาน