การกำหนดภารกิจของตนเองไว้อย่างหนึ่งว่า ควรบันทึกลง Blog เป็น e-diary อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ดิฉันเข้าใจภาษิตที่ว่า เวลาและกระแสน้ำ ไม่เคยรอคอยใคร อยากลึกซึ้ง
เดือนสิงหาคม ตั้งแต่วันที่ 7 - 11 หนึ่งสัปดาห์เต็มของการจัด "การประชุมทางวิชาการเนื่องในโอกาส สถาปนาคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ครบรอบ 10 ปี" ณ โรงแรมท๊อปแลนด์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นับเป็นครั้งแรกของน้องใหม่ในวงการ...คณะ สหเวช มน. ถึงวันนี้ ความเครียดก่อนจัดงานและความอ่อนล้าผ่านพ้นไปแล้ว พร้อมๆกับความมั่นใจว่าเราทำได้ไม่ยากอย่างที่คิดก้าวเข้ามาเป็นรางวัล
ประสบการณ์ครั้งนี้ สอนให้รู้ว่า อย่า! จัดประชุมวิชาการปลายปีงบประมาณ เพราะบุคลากรจากหน่วยงานราชการหลายท่านหมดโควต้าการลามาประชุมกันแล้ว ส่วนผู้จัดเองก็ต้องรีบเคลียร์บัญชีโครงการพร้อมๆกับปิดงบประมาณประจำปี ดังนั้นการจะทำให้เป็นประจำทุกปี โดยเริ่มช่วงต้นปีงบประมาณสำหรับปีถัดไปจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างทารุณจิตใจผู้จัดมาก ต้องขอเวลาเตรียมตัวอีกพักใหญ่
อย่างไรก็ตาม ความคิดที่ว่า คณะควรจัดให้มีการประชุมวิชาการปีละครั้ง เพื่อสร้างเวทีเผยแพร่ผลงานวิจัย และนวัตกรรม ตลอดจนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มสาขาวิชาชีพ ยังคงเป็นพันธกรณีที่ผูกพันในใจของคณาจารย์ทุกคนว่า เราจะรีบทำ...
งานประจำสำคัญที่ต้องอาศัย Blog เป็นบันทึกช่วยจำสำหรับเดือนสิงหาคม คือ การจัดให้มีการประชุมพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนบุคลากรประจำปี และการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการประจำปีสำหรับปีงบประมาณถัดไป พร้อมจัดให้มีการระดมสมองวิพากษ์กันด้วย
เดือนกันยายน ของปี พ.ศ. 2549 ครบรอบ 1 ปีแล้วหรือนี่ สำหรับการทำงานในตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของคณะ เหมือนหลับฝันไป..ตื่นขึ้นมา พบกับมรสุมช้างสาร พัดพาเอาคณาจารย์ของคณะกระเจิด กระเจิง จนจัดกระบวนแทบไม่ทัน นับตั้งแต่
มองในแง่ดี อาจถือได้ว่าเป็นนิมิตหมายของอนาคตที่สดใส สำหรับคนที่ยังปฏิบัติงานอยู่ก็ขอให้กัดฟันสู้ต่อไป ไม่มีเรื่องอะไรที่เราทำไม่ได้ มีแต่เรื่องที่ทำแล้ว กับ เรื่องที่ยังไม่ได้ทำเท่านั้น ท่องไว้ๆๆ
เดือนตุลาคม วันที่ 2 -3 มหาวิทยาลัย โดยหน่วยประกันฯ จัดโครงการ "KM Workshop เพื่อพัฒนางานวิจัยและคุณภาพการศึกษา ครั้งที่ 1" ที่ทรัพย์ไพรวัลย์ ดิฉันได้บทเรียนมาแยะทีเดียว
และทันใดนั้นเอง...ดิฉันก็แปลงเอามาประยุกต์ใช้ทันทีในคณะสหเวชฯ กับ "วันคณบดีพบบุคลากร" ที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา 9.00 - 12.00 น.
ดิฉันเกริ่นนำว่า ถ้าเป็นธรรมเนียมเลยก็จะดีนะคะว่า ภายในเดือนตุลาคมของทุกปี ผู้บริหารของคณะต้องพบบุคลากร เพื่อชี้แจงแถลงไขว่า ปีงบประมาณที่ผ่านมาทั้งปีทำอะไรไปบ้าง อะไรที่ยังเป็นปัญหา และจะแก้ไขกันยังงัยต่อไป ทั้งนี้เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ของคณะซึ่งเป็นที่หมายสำคัญ วิสัยทัศน์ที่ว่า
"คณะสหเวชศาสตร์จะเป็นคณะวิชาแห่งการวิจัย ภายในปี 2553"
หัวหน้าภาคทั้ง 4 ภาค รวมทั้งหัวหน้าสำนักงานเลขานุการก็ไม่เว้น ได้ออกมานำเสนอ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การวิจัย ทั้ง 6 ด้านของมหาวิทยาลัย อ๋อ...แน่นอน กรอบยุทธศาสตร์วิจัยของคณะสหเวชฯ ก็ล้อตามทั้ง 6 ด้าน นั้นด้วย
หัวหน้าภาควิชาเทคนิคการแพทย์ คือ ผศ.ดร.อรทัย ตั้งวรสิทธิชัย
หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก คือ อ.กาญจนา จิตติพร
หัวหน้าภาควิชารังสีเทคนิค คือ อ.ภัสสุรีย์ ชีพสุมนต์
หัวหน้าภาควิชากายภาพบำบัด คือ อ.โอปอร์ วีรพันธุ์ และ
หัวหน้าสำนักงานเลขานุการ คือ คุณอนุวัทย์ เรืองจันทร์
ดิฉัน ภาคภูมิใจในภาวะผู้นำของหัวหน้าหน่วยงานทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง การนำเสนออย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ฉายแสงให้เห็นปลายทางของภารกิจที่สดใสชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ
คุณอนุวัทย์ ดารานำ ทั้งในและนอกสถาบัน ไม่ยอมทิ้งลาย คว้ารางวัล popular vote การนำเสนอแผนยุทธศาสตร์การวิจัยสถาบัน เป็นอันดับหนึ่งด้วยนะคะในครั้งนี้
ต่อจากนั้น รองคณบดี ทั้ง 3 ฝ่าย และผู้ช่วยคณบดี 1 ฝ่าย คือ
ก็ทยอยออกมานำเสนอแนวนโยบายสำคัญในการดำเนินงานที่อยู่ในความรับผิดชอบให้บุคลากรทุกท่านรับทราบด้วย ปิดท้ายด้วยคณบดี
เสียดายที่เวลาน้อยไปหน่อย เพราะหลังจบการนำเสนอ มีหลายคำถาม จากบุคลากรที่ดิฉันยังอยากได้รับฟังอีก อยากทราบ และอยากตอบ เดือนหน้า ดิฉันจะนัดพบอีก คราวนี้ จะเป็นการพบเป็นรายหน่วยงานย่อย รวมทั้งนิสิตด้วย ยังมีงานต้องทำอีกมากมาย....
ต้องทั้งทำ และบันทึกไว้.......
ดีใจมากเลยค่ะ ที่สามารถจุดประกายไอเดียแก่เพื่อนฝูงที่รักใคร่ ถ้าหากนำไปต่อยอดแล้วได้ความรู้มากขึ้น อย่าลืมเอามาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
วันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาอ่านBlogอ. ก็รู้สึกว่าคราวหน้าถ้าคณะฯมีงานใหญ่อย่างารจัด "การประชุมทางวิชาการเนื่องในโอกาส สถาปนาคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ครบรอบ 10 ปี"จะต้องตั้งใจทำงาน และทุ่มเทให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ
เรียน ท่านคณบดีที่เคารพ วันนี้ได้เข้าอ่าน Blog ของท่านคณบดี ก็เกิดมีไอเดียที่อยากจะเขียนบันทึกแบบ e-diary ขึ้นมา เพราะว่างานที่ทำประจำทำอยู่เป็นงานเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง ก็ไม่อาจที่จะนำมาลง Blog ได้ทุกวันค่ะ ขอบคุณสำหรับไอเดียดีค่ะ
รออ่านด้วยใจจดจ่อค่ะ :)