วิพากพ์ทีมงานก่อนจัดการตนเอง ..สู่การพัฒนาปี 2557 .สพม. พัทลุง


จะไม่โกรธไม่โต้ตอบ ไม่ชี้แจง ในเรื่องที่ถูกวิพากพ์ จะนำข้อวิพากพ์ไปทบทวน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพัฒนา เพื่อนำพาองค์กรยกระดับไปสู่การพัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาจังหวัดและการจัดการตนเอง

        ผู้เขียนยึดถือเอาการทำงานอาสาที่ทำแล้วมีสุข ส่วนงานอาสาที่ทำแล้วเกิดทุกข์

ก็จะไม่ทำยึดถือหลักการอันนี้เป็นแนวทางในงานอาสามาตลอด  การทำงานอาสาหลาย

องค์กร เรื่องของเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแบ่ง แยกส่วนให้เหมาะสม  เรื่องของความสัมพันธ์

กับเพื่อนร่วมงาน กับองค์ภาคีเครือข่ายที่เข้าไปปฎิสัมพันธ์ด้วยก็สำคัญที่จะสร้างความ

สัมพันธ์ในระดับใหน ที่สำคัญที่สุดที่ทำงานแล้วไม่ทุกข์ก็คือการเข้าใจเพื่อนร่วมงานในทีมที่

ต้องบอกเล่าเก้าสิบ ถก ติง ทวง ถาม ตามดูกันอยู่เสมอ จึงจำเป็นต้องทบทวนต้องถามต้อง

ตามไปดูการทำานของทีมงาน แล้วนำมาวิพากพ์เพื่อพัฒนา......

    ทีมงานสภาองค์กรชุมชนพัทลุงโซนใต้ จึงได้นัดหมายมาถกแถลงวิพากพ์เพื่อพัฒนา

และวางแผนงานเพื่อนเคลื่อนงานในปี 2557 ที่สวนสมุนไพรตำบลเกาะหมาก นำทีมโดย

คุณ วิวัฒน์ หนูมาก สพม.(สภาพัฒนาการเมือง) พัทลุงชวนวิพากพ์ โดยตั้งกติกาในการพูด

คุยว่า  คำชื่นชมนำพาปลุกปลอบให้มีกำลังใจ การมองต่าง เป็นกระจก เป็นหินลับมีดที่ลับ

คมความคิดให้แหลมคมยิ่งขึ้น โดยมีคุณ สุวัฒน์  คงแป้น จากพอช.(สถาบันพัฒนาองค์กร

ชุมชน องค์มหาชน) เป็นผู้สรุปประเด็นและเติมเต็มการวิพากพ์ของแต่ละคน....ตั้งแต่เวลา

2 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน ของวันสุดท้ายเดือนตุลาคม.......

คุณ สุวัฒน์ ได้สรุปรวบยอดการวิพากพ์ว่า"  

1 เราขาด คน

2 เราขาดแผนงานโครงการที่ทะลุทะลวง  

3 เราขาดความเชื่อมั่น ความมั่นใจ

4 เรามีปมในใจ "แคลงใจ แล้วไม่แหลง"

     ทางออกคือ ต้องเรียนรู้ อย่าคิดเอาเอง ว่าเพื่อนรู้เหมือนที่เรารู้ ต้องชัดเจนในบทบาท

หน้าที่  "อย่าทำตัวเป็นเณรเกด พ่อหลวงขวัญ "*มั่นใจเมื่อทุกคนได้พูดได้วิพากพ์ ก็ต้องพัฒนาการทำงาน

จึงมาคิดงานวางแผนงานในการเคลื่อนงานในปี 2557 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายผู้ว่คน

ใหม่ ที่มีนโยบายปัจจัย 5 ประการคือ จิตรวิญญาณ  สมอง  ปากท้อง สุขภาพ และสิ่ง

แวดล้อม โดยยึดหลักเศรฐกิจพอเพียง

    ทางคณะทำงานได้รระดมสมองคิดค้นจะพัฒนาได้

ประเด็นหลักๆ 2 ประเด็นคือเรื่องของคน กับเรื่องของความมั่นคงทางด้านอาหาร ที่จะต้อง

ขับเคลื่อนไปสู่จังหวัดจัดการตนเอง ภายใต้การขับเคลื่อนของคณะทำงานของสภาองค์กร

ชุมชนพัทลุง เป็นฐานในการขับเคลื่อน โดยคณะทำงาน 6 ทหารเสือสภาองค์กรชุมชน

จังหวัดพัทลุงของแต่ละโซนไปขับเคลื่อน เพื่อเป็นตัวแทนโซนไปทำความเข้าใจ ยกร่าง

แผนงานโครงการ ตั้งคณะทำงานจังหวัด นำเสนอแผนเข้าสู่ คพจ. ต่อไป...ตั้งแต่ 2 ทุ่ม

ถึง ตี 4 ที่พูดคุย ถกแถลง เป็นเวลาพักผ่อนที่อาสามาอดตาหลับ ขับตานอน แต่มันเป็น

ความสุขของคนทำงานอาสา ที่ได้แก้ปมของแต่ละคนได้แหลงหายแคลงใจ

 

* เณรเกด คือคนที่บวชเรียนแล้ว แต่ทำตัวไม่เหมาะสม หลักลอยไม่น่าเชื่อถือ วันๆเอาแต่นั่งหัวพาน ยานท้ายรถ

*พ่อหลวงขวัญ คือเจ้าอาวาสที่คนศรัทธา นึกว่าเป็นผู้รู้ แต่มีความรู้แค่ให้ศิลให้พร

* แคลงใจแล้วไม่แหลง = มีปัญหาคาใจ ไม่นำมาพูดกัน"

 

 

ความมั่นคงทางด้านอาหาร มีแหลงอาหาร เพียงพอ มีอิสระในการหาอาหาร

 

ฝูงชนต้องนำ  ฝูงปศุสัตว์ต้องต้อน จากเดินต้อนตามหลังมาเป็นนั่งมอเตอร์ไซค์ ต้อน

 

มีอิสระ มีความสุข

เดินสู่คอก สังกัด โดยปลอดภัย พักผ่อนได้อย่างมีความสุข

 

เปิดอก สพม.ที่สวนสมุนไพร เกาะหมาก ในราตรีที่ยาวนาน แต่ได้เนื้องานที่สุดคุ้ม

เลขาจดทุกอย่าง จับทุกประเด็นที่พูดคุย

 

คุณ สุวัฒน์ คงแป้น จนท.อาวุโส พอช. มาช่วยเติมเต็ม

 

หลังจากที่เปลือย ที่ถอดให้เห็นถึงตัวตน ก็มาตกแต่ง แต้มเติม ให้สวยงาม ในนามของสภาองค์กรชุมชน ให้ สพม. สง่างาม ทั้งความคิดและการกระทำ

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 552361เขียนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2013 02:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2013 03:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

คิดเหมือนกันงานอาสาต้องมีอิสระ และมีความสุขค่ะ น้องบาว

พี่ชอบภาพนี้จังเลย แต่แท้ที่จริงอยากถามผู้อยู่ในภาพนี้ว่ามันอิสระและมีความสุข...จริงไม๊..อิอิ

 

 

 

ทางออกคือ ต้องเรียนรู้ อย่าคิดเอาเอง ว่าเพื่อนรู้เหมือนที่เรารู้ ต้องชัดเจนในบทบาท

หน้าที่  "อย่าทำตัวเป็นเณรเกด พ่อหลวงขวัญ "*มั่นใจเมื่อทุกคนได้พูดได้วิพากพ์ ก็ต้อง

พัฒนาการทำงาน

ใช่เลย ๆ ...! ปัญหาสำคัญคือ...ไม่รู้แล้วไม่เรียนรู้ และคิดว่าตัวเองรู้น่ะแหละจ้ะลุงวอ

เรียนท่านวอญ้า

พระพุทธเจ้าเป็นพลเมืองหนึ่งในพันล้านของประเทศอินเดีย ถ้าพระองค์ยังอยู่ก็ใช้สิทธิเลือกตั้งได้หนึ่งเสียง ตอนนี้ปรัชญาพระองค์มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย จังหวัดพัทลุงยังขาดคนขณะที่มีพลเมืองห้าแสนกว่า ถ้านักพัฒนาเห็นว่า"ไม่ติดหวันไหน" จังหวัดสุราษฎร์ธานียินดีอย่างยิ่งรับให้เป็นถิ่นพำนัก เพื่อจังหวัดฯจะได้เพิ่ม สส.อีกสามคน

บังครับเห้นทีมทำงานแล้วมีความสุข

ในภาพจัดที่สวนสมุนไพร

หรือที่ไหนครับ...

-สวัสดีครับ..

-ตามมาให้กำลังใจครับ..

-ชอบภาพนี้ครับ/ตั้งใจไว้ว่าจะไปตามติดชีวิตคนเลี้ยงควาย....ครับ

-หากมีโอกาสจะไปตามติดและนำมาบันทึกแบ่งปันนะครับ

เรียน พี่ต้อย ผมเฝ้าดู ควายแช่น้ำอยู่นาย  แลอาการที่แสดงออก บอกได้ว่ามีสุข และอิสระ เพราะไม่การเจาะหมูก แจงหัวเหมือนวัวที่เดินบนถนน

ใช่เลยครับท่าน ผอ. เชื่อมั่น  ศรัทธา และใช้ปัญญา เป็นพลังขับเคลื่อน

พี่บังครับ

ขอจิตอาสา มาร่วมทำงาน พวกเราจะมีจิตที่อิสระด้วยครับ

สวัสดีน้องมะเดื่อ ...งานชุมชนตอนนี้รุกคืบหลายเครือข่าย 

เครือข่ายเก่าก็ต้องพัฒนา เครือข่ายใหม่กต้องจุดประกายสร้างความเข้าใจ จึงโยงใยเครือร่วมกัน

สำคัญคือชวนคิดชวนคุยในหลักการอาสา

สวัสดีคุณจินดา ขอบคุณที่แวะมา คงมีโอกาสได้ ลปรร ด้วยผ่านบันทึก

เรียนอาจารย์ จำรัส....

พัทลุง คนเก่งมาก แต่ก็อยากในการเชื่อมร้อย

สวัสดีครับท่านอาจารย์ ขจิต  

ใช่ครับประชุมที่สวน  อยากสร้างสวนนี้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และเข้าค่ายเยาวชนต่อไป

เรียนตุณเพชร...

ความฝูงนี้มีอิสระในการหาอาหาร เพราะแต่ละตัวไม่ต้อนสนตะพาย ต่างรู้หน้าที่ ถึงเวลามาเข้าคอก

เรียน นายหัวตุ้ม  วันจันทร์นี้พบกันที่ มหราช นคร มีเรื่องขอคำแนะนำ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท